Sustainability Expo 2024 (SX 2024) พลิกโฉมธุรกิจสู่ความยั่งยืน

Sustainability Expo 2024 (SX 2024) มหกรรมความยั่งยืนใหญ่สุดในภูมิภาค ผ่านความร่วมมือจาก ไทยเบฟเวอเรจ เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ปตท. และไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป โดยมีหัวใจหลักของงานคือ พอเพียง-ยั่งยืน-เพื่อโลก ผนวกกับหลักเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของชาติ มุ่งสร้างสมดุลที่ดี เพื่อโลกที่ดีกว่า

ต้องใจ ธนะชานันท์ ผู้อำนวยการคณะจัดงาน SX 2024 กล่าวว่า งาน Sustainability Expo จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 ถือเป็นแพลตฟอร์มความร่วมมือด้านความยั่งยืนที่เชื่อมโยงทุกภาคส่วนในระดับภูมิภาค นำเสนอองค์ความรู้ ไอเดีย เทรนด์ นวัตกรรม และเทคโนโลยี ผลักดันการลงมือทำและนำไปสู่การเปลี่ยนแปลง

ในการจัดงานครั้งนี้มีความต้องการให้เป็นพื้นที่นัดพบ โดยเปิดพื้นที่ให้บริษัทต่างๆได้เปิดเผยข้อมูลด้านความยั่งยืน ให้มหาวิทยาลัยได้ใช้เป็นพื้นที่แหล่งข้อมูล สร้างการแลกเปลี่ยนความรู้ ว่าความยากที่สุดคือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และการได้ลงมือปฏิบัติ ดังนั้นเป้าหมายเราคือต้องทำ ให้รู้ว่า “ความยั่งยืนเป็นเรื่องของทุกคน”


โดยงาน SX 2024 ได้รวบรวมวิทยากร และผู้เชี่ยวชาญกว่า 600 รายทั่วโลก เครือข่ายธุรกิจยั่งยืนจากบริษัท และองค์กรชั้นนำของไทยและต่างประเทศกว่า 270 แห่ง มาให้ความรู้หลากหลายด้าน แนวคิดที่น่าสนใจ รวมถึงเทคโนโลยี และนวัตกรรมที่สร้างสรรค์ให้โลกเกิดความสมดุล

Mr.Martin Venzky-Stalling Sustainable Development Committee, Chaiman, JFCCT กล่าวว่า ถือเป็นการร่วมมือกันเพื่อแชร์ประสบการณ์และเทคโนโลยีต่าง ๆ ซึ่งเป็นการทำงานภายใต้กรอบ SDGs มนุษย์ทุกคนจึงไม่สามารถจัดการแค่เรื่องสภาพอากาศหรือพลังงานหรือน้ําอย่างโดยไม่พิจารณาปัญหาทางสังคมและผลกระทบของอุตสาหกรรม

ADVERTISMENT

ประเทศไทยมีโอกาสมากมาย แต่ก็มีควาทท้าทายมากเช่นกัน การที่จะบรรลุเป้า SDGs ได้การพูดถึงเรื่องสิ่งแวดล้อมอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นเรื่องใหญ่ แต่ความหลากหลายทางชีวภาพ การจัดการน้ำ ของเสีย และความเหลื่อมล้ำเป็นหัวข้ออันดับต้น ๆ ที่ต้องแก้ไข จึงจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจ เทคโนโลยี เศรษฐกิจหมุนเวียน เป็นเครื่องมือที่ทำให้สามารถบรรลุเป้าหมายนั้นได้

ADVERTISMENT

ดร.ชญานันท์ ภักดีจิตต์ รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่าทางกระทรวงกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศและสิ่งแวดล้อม ได้มีการทำแผนแผนปฏิบัติการด้านการลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศ ปี พ.ศ. 2564-2573 (NDC Action Plan on Mitigation 2021-2030) และแผนการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งชาติ (Thailand’s National Adaptation Plan : NAP)

เพื่อที่จะชะลอความรุนแรงของภาวะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เนื่องจากความเชื่อที่ว่าหน่วยงานราชการเพียงฝ่ายเดียวคงไม่สามารถดำเนินการได้ ต้องใช้การร่วมมือกันทุกภาคส่วน ทั้งนี้ ทางกรมได้มีการออกสินเชื่อสีเขียวให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน และมีการใช้หลักการทางเศรษฐศาสตร์เข้ามาช่วยปัญหาคาร์บอนเครดิตอีกด้วย

เจรมัย พิทักษ์วงศ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัดในเครืออมรินทร์ กรุ๊ป กล่าวว่า จากการทำงานมา 5 ปี พบว่า B2C2B หรือ Business-to-Consumer-to-Business ตัว C ไม่ได้หมายถึง Consumer แต่หมายถึง Collaborative หรือคือความร่วมมือกันระหว่างทุกภาคส่วนเชื่อมโยงระหว่างองค์กรธุรกิจกับผู้บริโภค และผู้บริโภคจะเชื่อมโยงกลับสู่ภาคธุรกิจ

10 โซนหลักที่น่าสนใจ

1) โซน SEP INSPIRATION พบกับองค์กรต้นแบบด้านความยั่งยืนที่น้อมนำปลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอพียงมาประยุกต์ใช้จนประสบความสำเร็จ อาทิ มูลนิธิชัยพัฒนา อีกทั้งยังมี Prologue นิทรรศการ Immersive Experience ที่จะสะท้อนทุกมุมมองของปัญหาที่เกิดจากพัฒนาแบบก้าวกระโดดและกิจกรรมของมนุษย์ ค้นพบความหวังและหนทางไปต่อจากคนที่ลงมือทำจริงเพื่อโลกที่จะทำให้คุณตระหนักว่าเรื่องของความยั่งยืนเป็นเรื่องของเราทุกคน

2)โซน Better Me เตรียมพร้อมในทุกก้าวของชีวิต…สู่การสร้างวิถีที่ยั่งยืน โดยในปีนี้มีนวัตกรรมใหม่ ๆ เช่น Mr.Muse หุ่นยนต์โรโบเทสเปียน ฮิวมานอยด์อัจฉริยะ รวมทั้งอัพเดตเทรนด์อาหารแห่งยุค เพื่อเตรียมตัวสูงวัยอย่างมีคุณภาพและความสุข

3) โซน Better Living การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศมีสาเหตุเกิดจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจกซึ่งเกิดจากกิจกรรมของมนุษย์ ค้นพบวิธีลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ด้วยการปรับพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน และเรียนรู้จากองค์กรชั้นนำที่ดำเนินการเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมตั้งแต่การลดการปล่อยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกไปจนถึงเทคโนโลยีดักจับและกักเก็บคาร์บอน

4) โซน Better Community ว่าด้วยการสร้างสังคมที่ดีร่วมกัน ผ่านผลงานที่ทำอย่างต่อเนื่อง และสร้างผลสำเร็จทั้งในมิติสังคม สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจชุมชนจากภาคีเครือข่ายทั้งในและต่างประเทศ ระดับบุคคลไปจนถึงหน่วยงานเอกชนและภาครัฐ อีกทั้งยังมีนวัตกรรมเมืองน่าอยู่แห่งอนาคตจากองค์กรชั้นนำ

5) โซน Better World ศิลปะสร้างค่า สู่สมดุลโลก โซนนิทรรศการที่จัดแสดงผลงานศิลปะที่หลากหลาย สะท้อนมุมมองด้านความยั่งยืนทั้งด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม อาทิ ภาพถ่าย จิตรกรรม ประติมากรรม และผลงานศิลปะอื่น ๆ อีกมากมาย

6) โซน SX Food Festival ปีนี้มาในธีม Back to The Future มหกรรมด้านอาหารยั่งยืนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี พาทุกท่านย้อนเวลากลับไปสู่อนาคตด้วยอาหารที่ดีต่อสุขภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พบกับ Celebrity Chefs มากมาย รวมถึงผู้ประกอบที่สร้างสรรค์เมนูอาหารที่ช่วยสร้างสมดุลที่ดีต่อโลกและดีต่อคุณ

7) โซน Kids Zone พื้นที่ปลูกเมล็ดพันธุ์แห่งอนาคตด้วยนิทรรศการและกิจกรรม “ผ่านการเล่น-ทดลอง-เรียนรู้” พบกับความรู้ต่าง ๆ ที่เสริมสร้างจิตนาการ เสริมทักษะให้กับเด็ก ๆ โดยมีไฮไลต์คือนิทรรศการ Biodiversity Exhibition รู้ รักษ์ พิทักษ์ ความหลากหลายทางชีวภาพ

8) โซน SX MARKETPLACE ตลาดนัดสร้างสรรค์สินค้ายั่งยืน พบปะผู้ประกอบการตัวจริง ท่ามกลางบรรยากาศสวนกลางเมือง แบ่งโซนให้สายกรีน สายคราฟต์ และสายช็อป ได้ร่วมอุดหนุนร้านค้าที่มาร่วมงานกว่า 280 ร้านค้า

9) SX REPARTMENTSTORE พื้นที่สำหรับส่งต่อสิ่งของนอกสายตา เพื่อมอบคุณค่าให้แก่สังคมและยังได้ช็อปสินค้ามือสองคุณภาพดี เพื่อนำรายได้มอบให้การกุศล นอกจากนี้ยังมีเป็นจุด drop off บรรจุภัณฑ์ใช้แล้วและขยะอื่น ๆ เพื่อนำไปบริหารจัดการอย่างถูกวิธีหรือนำกลับสร้างคุณค่าใหม่ได้อีกครั้ง

10) คือ B2B Event บริเวณชั้น 2 ซึ่งรวบรวมงานสัมมนาและเครือข่ายธุรกิจ เพื่อความยั่งยืนที่เจาะลึกแนวทางธุรกิจยั่งยืนตอบโจทย์ทั้งสังคม และสิ่งแวดล้อม

“เพราะความยั่งยืนเป็นเรื่องของทุกคน” ที่จะมาร่วมกันเปลี่ยนโลกใบนี้ให้น่าอยู่อย่างยั่งยืนผ่านกิจกรรมมากมาย พร้อมแลกเปลี่ยนแนวคิด และไอเดียสุดเจ๋งด้านความยั่งยืนกับวิทยากรชื่อดัง ศิลปิน

พร้อมพบเหล่าไอดอลจากทุกแวดวง ตื่นเต้นไปกับสุดยอดนวัตกรรมกอบกู้โลกให้คุณได้เรียนรู้ และพร้อมปรับตัว เพื่อความอยู่รอดในวิถีชีวิตประจำวันยุคโลกเดือดได้อย่างมีความสมดุล ในงาน Sustainability Expo (SX 2024) ได้ตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน-6 ตุลาคม 2567 เวลา 10.00-20.00 น. ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC)