ศิริวัฒน์ MFEC ชี้ไอที-AI คือโอกาส แต่ SMEs เข้าไม่ถึง วัตถุดิบของธุรกิจนี้คือ ‘คน’

ศิริวัฒน์ วงศ์จารุกร
ศิริวัฒน์ วงศ์จารุกร

“เล้ง-ศิริวัฒน์ วงศ์จารุกร” ชี้ไอที-AI คือโอกาสพลิกบริษัท สังคม และประเทศ วัตถุดิบคือคนคุณภาพ แต่ SMEs แทบเข้าไม่ถึง

ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ “หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ” และ “ประชาชาติธุรกิจออนไลน์” จัดงานสัมมนา “Prachachat Thailand 2025 : โอกาส ความหวัง ความจริง

โดย “นายศิริวัฒน์ วงศ์จารุกร” (เล้ง) กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.เอ็ม เอฟ อี ซี (MFEC) ได้พูดคุยในหัวข้อ “How to stay ahead of Future”  โดยมี “ดร.วิโรจน์ จิรพัฒนกุล” กรรมการผู้จัดการ บริษัท สคูลดิโอ จํากัด ร่วมเสวนา

ปฏิเสธไม่ได้ว่าในรอบหลายปีที่ผ่านมา เรื่องดิจิทัลมีการขับเคลื่อนค่อนข้างมาก ทุกธุรกิจพยายามที่จะทำสิ่งที่เรียกว่า “ดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น” เริ่มเกิดธุรกิจในรูปแบบแพลตฟอร์มที่ขยายตัวมากขึ้น ทั้งในรูปแบบการบริการ ผู้ให้บริการต่าง ๆ และที่ทุกคนพูดถึงวันนี้ คือ AI เทคโนโลยีที่หลายคนเชื่อว่าจะเข้ามาเปลี่ยนการทำธุรกิจหลาย ๆ อย่าง

โอกาส แต่ SMEs เข้าไม่ถึง

นายศิริวัฒน์กล่าวว่า ถ้าจะพูดถึงโอกาส ภาพจำของรายได้ต่ำ ฟื้นช้า โตช้า และไม่มีความสามารถในการแข่งขัน ในสิ่งแวดล้อมแบบนี้ทางรอดมีทางเดียว คือ มีไอทีลงไปอยู่ในจุดต่าง ๆ เพื่อกระตุ้น

ยกตัวอย่างเช่น เซเว่นอีเลฟเว่น เปิดมา 35 ปี ปัจจุบันมีกว่า 1.4 หมื่นร้านค้า แต่รวมยอดขายทุกร้านไม่เท่า TikTok ซึ่งเปิดมาประมาณ 3 ปี

ADVERTISMENT

ไอทีของไทยอยู่แค่ 2% มีประมาณ 8-9 พันบริษัทที่ดึงรีซอร์ซไอทีในประเทศได้ ขณะที่ SMEs อีก 3 ล้านราย แทบไม่มีศักยภาพในการดึงเซอร์วิสไอทีเลย แปลว่า ยังมีโอกาสเยอะที่ไอทีสามารถทะลุทะลวงลงไป

ผมเคยไปเวียดนาม 10 กว่าปีที่แล้ว ตอนนั้นเวียดนามก็มีกฎหมายออกมาว่าต้องการเร่งไอทีเซอร์วิส สำหรับซอฟต์แวร์เอ็นจิเนียร์ ในเวียดนามไม่ต้องเสียภาษีบุคคล และเวียดนามเร่งสร้าง ทำให้ปัจจุบันเวียดนามผลิตซอฟต์แวร์เอ็นจิเนียร์มากกว่าไทยเป็นเท่าตัว

ADVERTISMENT

ไม่พูดถึงการบริโภคในท้องถิ่นของเวียดนาม แค่เฉพาะไอทีเซอร์วิสที่ส่งออกอย่างเดียวก็เกินแสนล้านบาท ไทยต้องปลูกข้าว ปลูกทุเรียน ปลูกมะม่วงขนาดไหนถึงจะได้แสนล้าน ตอนนี้ข้าวตันละ 1.6 หมื่นบาท ซึ่งในไอทีเซอร์วิสอาจจะใช้เวลาแค่ 2 วัน ศิริวัฒน์กล่าว

“แปลว่าถ้ามูฟจากภาคการเกษตร มาที่ไอทีเซอร์วิสเหมือนที่เวียดนามทำ จะเติบโตเป็น 10 เท่า ผมเลยมองว่าโอกาสที่เห็นยังมีเยอะที่สามารถทำได้”

นอกจากนี้ ศิริวัฒน์ยังกล่าวถึงเรื่อง AI ว่า หลังจากที่ได้เรียน AI ก็กลับมาบอกที่ออฟฟิศเลยว่านับแต่นี้ไปจะไม่รับพนักงานที่ไม่รู้ AI เพราะ AI นั้น Powerful จริง ๆ

มีหลายตำแหน่งงานของบริษัท เช่น ตำแหน่ง Presale ต่อไปนี้จะไม่มีแล้ว โดยให้ไปเป็น Consult เพราะหากลองนำ AI มารวมกับตำแหน่ง Presale แล้วก็สามารถเป็น Consult ได้เลย

การทรานส์ฟอร์มโดยใช้ AI สามารถพลิกสิ่งที่เป็นทั้งบริษัท เป็นทั้งสังคม และประเทศได้ เพราะฉะนั้นโอกาสในช่วงนี้มีเยอะ ศิริวัฒน์กล่าว

ความหวังธุรกิจไอที วัตถุดิบคือคน

นายศิริวัฒน์กล่าวว่า คนไทยเก่ง ต้องเริ่มต้นที่คน “ธุรกิจไอทีวัตถุดิบก็คือคน” ถ้าอยากทำธุรกิจน้ำมัน ก็ต้องใกล้แหล่งน้ำมันที่ดี ถ้าอยากทำธุรกิจเหล็ก ก็ต้องใกล้แหล่งวัตถุดิบเหล็กกล้า แต่ถ้าอยากทำธุรกิจไอที ก็ต้องใกล้แหล่งวัตถุดิบ นั่นคือคนที่มีคุณภาพ

แม้ว่าค่าเฉลี่ยคะแนน PISA ของประเทศไทยลดลงก็จริง แต่ถ้าพิจารณาจากคะแนนท็อป คนไทยยังเก่ง ทุกปีคนไทยสามารถเข้า Ivy League University เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ หรือยังได้เหรียญทองการแข่งขันโอลิมปิกวิชาการ ซึ่งเราต้องโฟกัสตรงนี้

ถ้าสร้างคนที่เป็นวัตถุดิบที่ดีที่สุดขึ้นมา แต่ให้ชาติอื่นก็ไม่ไหว คนที่เก่ง ๆ จากสถาบันต่าง ๆ ก็ไปอยู่ บริษัทต่างประเทศ ไม่อยู่ไทยเลย ต้องเริ่มคิดตรงนี้

“ตอนนี้เป็น Global Citizen คนของเราเก่ง แต่ถ้าไม่มีความสามารถในการดึงดูดคนให้อยู่กับประเทศไทย ก็ตาย ไม่ใช่เฉพาะธุรกิจไอทีอย่างเดียว”