รู้จัก Virtual Influencer ในไทย ‘ไม่มีชีวิต’ แต่ ‘มีตัวตน’

Virtual Influencer
พลพัต สาเลยยกานนท์ : เรื่อง

กระแสโลกเสมือนจริง (virtual) เหมือนว่าจะไม่ใช่เป็นสิ่งที่เพ้อฝันหรือห่างไกลความเป็นจริงอีกต่อไป หลังจากที่ “มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก” ซีอีโอแห่ง Facebook ประกาศสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของโลกออนไลน์และโซเชียลมีเดีย มุ่งสู่การสร้าง Metaverse

โลกเสมือนจริงที่พร้อมด้วยสภาพแวดล้อมจำลองเชื่อมโยงระหว่างโลกปัจจุบันกับ Metaverse ซึ่งผู้คนจะสามารถใช้ชีวิตประจำวัน เช่น ซื้อของ กินข้าว เดินทาง ได้ผ่าน Avatar และเชื่อมโยงผ่านอุปกรณ์ เช่น แว่นตา เป็นต้น ซึ่งนำไปสู่การเปลี่ยนชื่อบริษัทจาก Facebook สู่ Meta ในที่สุด

ขณะที่ในแวดวงธุรกิจทั่วโลกต่างจับตาเทรนด์ดังกล่าวที่อาจจะพลิกประสบการณ์การทำธุรกิจรวมถึงประสบการณ์ของผู้บริโภคที่จะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ซึ่งใครจะคิดว่าที่ก้าวล้ำหน้ามาแรงไม่แพ้กันคือ แวดวงของ อินฟลูเอนเซอร์ (influencer) ที่วันนี้พัฒนาไปถึงการมี อินฟลูเอนเซอร์เสมือนจริง (virtual influencer)

ซึ่งอธิบายให้เข้าใจอย่างง่ายนั่นก็คือ แคแร็กเตอร์ ที่มีชื่อ, มีหน้าตา, มีตัวตน แต่ไม่มีชีวิต ไม่ใช่มนุษย์ ซึ่งหน้าตาจะละม้ายคล้ายคลึงกับมนุษย์จริง ๆ จนแทบจะแยกไม่ออกเลยก็ว่าได้ ซึ่งแคแร็กเตอร์ดังกล่าวนี้มีการกำหนด ความชอบ, อายุ, สีผิว, ความสูง, น้ำหนัก หรือแม้กระทั่งการแต่งกาย

ถ้าจะย้อนกลับไปเมื่อราว ๆ 5 ปีก่อนหน้านี้ หรือในปี 2559 virtual influencer ที่สร้างชื่อในยุคนั้นและต่อเนื่องมาถึงปัจจุบันคือ Lil Miquela แคแร็กเตอร์หญิงสาวหน้าตาดีสัญชาติอเมริกัน วัย 19 ปี นักร้อง-นางแบบที่มีเรื่องราวชีวิตประจำวันบนอินสตาแกรม ที่ชื่อว่า @lilmiquela ซึ่งปัจจุบันมีผู้ติดตามมากกว่า 3 ล้าน followers

ซึ่งเมื่อเข้าไปส่องจริง ๆ แล้วจะแทบไม่น่าเชื่อว่า Lil Miquela เธอนั้นไม่ใช่มนุษย์ เพราะมีการถ่ายภาพกับมนุษย์จริง ๆ มีท่าทางการเคลื่อนไหวจริง ๆ ที่เหล่านั้นล้วนมาจากการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ร่วมกับการสร้างสรรค์ภาพถ่าย ตัดต่อ ตกแต่ง เสมือนจริงอย่างมาก ไม่เท่านั้น เธอผู้นี้ยังมีสปอนเซอร์แบรนด์ดังเข้าสนับสนุนอย่างมากมายมหาศาล ในทุกส่วนของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า หน้า ผม เครื่องสำอาง กระเป๋า ที่ล้วนเป็นแบรนด์ดังระดับโลกทั้งสิ้น

และหลังจากนั้น virtual influencer ก็เริ่มมีเข้าสู่วงการอยู่บ้างประปราย แต่ปี 2564 นับเป็นปีที่สะท้อนความชัดเจนการเชื่อมโยงระหว่างโลกจริงกับโลกเสมือนได้อย่างชัดเจนดังที่กล่าวไปตอนต้น ไม่เว้นแม้กระทั่งในประเทศไทย ที่ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีมีการเปิดตัว virtual influencer ถึง 2 รายด้วยกัน ดีไลฟ์-ประชาชาติธุรกิจ จึงขอพาทุกท่านไปรู้จัก virtual influencer ในประเทศไทยที่กำลังได้รับความสนใจเวลานี้

“ไอ-ไอรีน” ครีเอทีฟสาววัย 21 ปี

ไอ-ไอรีน สาวน้อยวัย 21 ปี อาชีพ Creative/Freelance/Influencer ส่วนสูง 165 ซม. น้ำหนัก 52 กิโลกรัม กรุ๊ปเลือด AB เธอมาพร้อมกับแคแร็กเตอร์โฉบเฉี่ยว น่าค้นหา มั่นใจในตัวเอง ตอบรับแนวคิดโลก Metaverse ที่สร้างสรรค์ทุกอย่างได้บนโลกออนไลน์ เธอผู้นี้เกิดขึ้นจากความเชื่อของ SIA Bangkok ที่เห็นพฤติกรรมผู้บริโภคในยุคปัจจุบันโดยเฉพาะในช่วงโควิด-19 ที่มีชีวิตออนไลน์ตลอดเกือบ 24 ชั่วโมง

ทำให้เหล่าบรรดาแบรนด์ทั้งหลายต่างปรับตัวอย่างรวดเร็ว ซึ่งบนโลกจริงกับโลกเสมือนในทุกวันนี้แทบจะแยกไม่ออกจากกันเลย ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นกับทั้ง 2 โลก ต่างเกิดขึ้นอย่างคู่ขนานกัน สอดคล้องกับเทรนด์ Metaverse โดยเฉพาะ Metaverse Human ที่สามารถสร้างการมีส่วนร่วมของการสื่อสาร สร้างประสบการณ์ให้กับผู้บริโภคได้จริง

ปัจจุบัน ไอ-ไอรีน มีผู้ติดตามบนอินสตาแกรม @ai_ailynn จำนวนกว่า 1 หมื่น followers หลังจากการเปิดตัวด้วยโพสต์แรกของเธอในวันที่ 24 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันนี้เธอมีแบรนด์ผู้สนับสนุนที่เห็นชัดรายหนึ่งคือแบรนด์ผู้ให้บริการเครือข่ายสัญญาณโทรศัพท์อย่าง AIS เป็นต้น

“กะทิ-เคธี่” สาวลุกเปรี้ยวคัพเอผิวสีแทน

กะทิ หรือ เคธี่ virtual influencer อีกหนึ่งรายในประเทศไทย ที่มาพร้อมกับการเปิดตัวอย่างไม่เป็นทางการ สะท้อนความเป็นตัวตนของเธอด้วยแคปชั่นที่ว่า “เกิดมามีกระ…กะแล้วว่าต้องปัง ชื่อ ‘กะทิ’ แม่ตั้งให้ แต่ชื่อ ‘Katie’ เพื่อนต่างชาติเรียกเด้อ” และ “ถึงเป็นสาวอกเล็ก แต่ท่าโพสจะเล็กไม่ได้นะคะ” โพสต์แรกในอินสตาแกรม @Katii.Katie ของเธอวันที่ 9 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา ปัจจุบันมีผู้ติดตามบนอินสตาแกรม จำนวนราว 4,000 followers

ซึ่งเธอผู้นี้กำลังถูกกล่าวถึงอย่างมาก เพราะเธอไม่ธรรมดา ขึ้นเปิดตัวบนบิลบอร์ดสร้างความสงสัยอยู่ในเมืองและในหลายสถานที่ชวนให้รู้จักเธอ และในอินสตาแกรมของเธอยังร่วมงานกับแบรนด์เสื้อผ้าต่าง ๆ รวมถึงร่วมงานถ่ายแบบกับ “ปันปัน” สุทัตตา อุดมศิลป์ นักแสดงสาวชื่อดัง

virtual influencer นับเป็นผลผลิตที่เกิดขึ้นบนโลกออนไลน์ที่น่าจับตาเป็นอย่างมาก ด้วยความชัดเจนของแคแร็กเตอร์ที่สามารถกำหนดให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งถือเป็นอีกเครื่องมือทางการตลาดที่คนใน “วงการอินฟลูเอนเซอร์” และ “วงการดิจิทัลเอเยนซี่”


รวมถึงบรรดาแบรนด์ทั้งหลายที่ไม่อยากหลุดเทรนด์ Metaverse Human ต้องจับตาโฟกัสอย่างมาก เพราะสิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวแปรสำคัญที่จะพลิกวงการการสื่อสารแทบจะทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น พรีเซ็นเตอร์, ถ่ายแบบโฆษณา, รีวิวสินค้า ซึ่งจะลบข้อจำกัดต่าง ๆ ที่เคยมีมาผ่านเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำไปอีกขั้นในชีวิตยุคดิจิทัลที่เชื่อมจากโลกจริงสู่โลกเสมือนจริง ได้เห็นภาพเริ่มชัดทุกขณะ