ลุ้นว่าที่ปลัดพาณิชย์ ดันส่งออก-แก้ราคาสินค้า

บุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร

กระทรวงพาณิชย์หน่วยงานทัพหน้าด้านเศรษฐกิจของไทยกำลังจะก้าวสู่ยุคเปลี่ยนผ่านสำคัญ ในวันที่ 30 กันยายน 2565 “นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร” ปลัดกระทรวงพาณิชย์คนปัจจุบันจะเกษียณอายุราชการ หลังจากที่ดำเนินงานบริหารมาแล้ว 4 ปี วางนโยบายด้านการค้าภายในและการค้าระหว่างประเทศเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยอย่างต่อเนื่อง สานต่องานหลังจาก “นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค” ที่เกษียณอายุราชการวันที่ 30 กันยายน 2561

“นายบุณยฤทธิ์” เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการค้าทั้งภายในและต่างประเทศ มีประสบการณ์ทำหน้าที่อธิบดีกรมการค้าภายใน อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เอกอัครราชทูต (นักบริหารสูง) คณะผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การการค้าโลก ณ นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส อธิบดีกรมการค้าภายใน ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ผู้อำนวยการสำนักเจรจาการค้าบริการและการลงทุน กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครอิสตันบูล สาธารณรัฐตุรกี กรมส่งเสริมการส่งออก

จึงเป็นที่น่าจับตาว่าชื่อผู้ที่จะก้าวมารับตำแหน่ง “ปลัดกระทรวงพาณิชย์คนใหม่” รอบนี้จะเป็นใคร เป็น “หญิง” หรือ “ชาย”

โดยปัจจุบันแคนดิเดตที่มีโอกาสรับตำแหน่งในระดับ “อธิบดี” 7 กรม และอีก 1 หน่วยงานในต่างประเทศ แต่ต้องตัด “นายพิทักษ์ อุดมวิชัยวัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ” ซึ่งจะเกษียณราชการพร้อมกันออกไป ก็จะเหลือ “นายทศพล ทังสุบุตร” อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ผู้มีอายุราชการมากที่สุด เหลืออายุราชการ 1 ปี แต่มีกระแสข่าวแว่วว่าอยู่ในช่วงที่ต้องดูแลสุขภาพ

จึงปรากฏชื่อ “นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์” อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ยังคงเหลืออายุราชการ 2 ปี ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญงานด้านการค้าระหว่างประเทศ การส่งออก เป็นแคนดิเดตที่มาแรง

“นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์” อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เป็นแคนดิเดตที่มาแรงอีกคน เพราะยังคงมีอายุราชการเหลือ 4 ปี ที่ผ่านมาได้เคยผ่านงานหลักจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ขณะที่ “นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์” ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เป็นอีกหนึ่งที่มีอายุราชการใกล้เคียงกัน เหลืออีก 5 ปี เชี่ยวชาญงานด้านการเจรจาการค้าระหว่างประเทศ

ฟากฝั่งผู้บริหารหญิงมี 2 ท่าน คือ “น.ส.พิมพ์ชนก พิตต์ฟิลด์” ซึ่งเพิ่งจะเดินทางไปรับตำแหน่ง เอกอัครราชทูตคณะผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การการค้าโลก (WTO) และองค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก (WIPO) ได้ไม่นานนัก และ “นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม” อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งยังเหลืออายุราชการนานถึง 7 ปี

และท้ายสุดคือ “นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม” อธิบดีกรมการค้าภายใน ผู้รับตำแหน่งอธิบดี “อายุน้อยที่สุด” เป็นลูกหม้อที่เติบโตและเชี่ยวชาญในสายงานด้านการค้าภายในประเทศ แต่ยังเหลืออายุราชการ 10 ปี

ซึ่งแม้ว่า “อายุราชการ” จะเป็นปัจจัยหนึ่งในการพิจารณาผู้ที่เหมาะสมในการรับตำแหน่ง แต่ต้องมองควบคู่กับคุณสมบัติและความสามารถด้านอื่น ๆ ซึ่งในอดีตที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์เคยมีทั้งผู้บริหารที่เชี่ยวชาญทั้งในประเทศและต่างประเทศมาแล้ว อาทิ นายศิริพล ยอดเมืองเจริญ นายยรรยง พวงราช นางวัชรี วิมุกตายน ที่มาจากกรมการค้าภายใน

ขณะที่นายการุณ กิตติสถาพร น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค และนายบุณยฤทธิ์ มาจากสายต่างประเทศ ดังนั้นการพิจารณาครั้งนี้ขึ้นอยู่กับ “นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ผู้จะพิจารณาผู้มารับตำแหน่งสำคัญนี้

อย่างไรก็ตาม ภารกิจสำคัญที่ปลัดกระทรวงพาณิชย์คนใหม่ต้องสานต่อนโยบายส่งเสริมและสนับสนุน การผลักดันการส่งออกไทยให้เติบโต 4% เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศฝ่าด่านสงครามการค้าสหรัฐ-จีน และวิกฤตรัสเซีย-ยูเครนที่ยังยืดเยื้อ ตลอดจนแผนการเจรจาความตกลงการค้าระหว่างประเทศเพื่อสร้างโอกาสด้านการค้า การปลดล็อกอุปสรรคทางการค้าท่ามกลางวิกฤตการเมืองระหว่างประเทศ

และประเด็นการดูแลเสถียรภาพราคาสินค้าเกษตร การแก้ปัญหาค่าครองชีพ การกำกับดูแลราคาสินค้า ต้นตอของ “เงินเฟ้อ” ให้ทั้งผู้ผลิต ประชาชน เกษตรกรอยู่ได้ตามสูตรการบริหาร “วิน-วิน” โมเดล ล้วนแต่เป็นงานเผือกร้อนที่รอปลัดคนใหม่อยู่