ราคาน้ำมันดิบ (15 ส.ค. 65) ปรับลด น้ำมันดิบอ่าวเม็กซิโกเริ่มกลับมาผลิต

น้ำมันดิบ
Photo : Pixabay

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนต์ปรับลด หลังการผลิตน้ำมันดิบในอ่าวเม็กซิโกของสหรัฐเริ่มกลับมาดำเนินการผลิต

วันที่ 15 สิงหาคม 2565 หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ ระบุว่า ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนต์ปรับลดลงกว่า 2% หลังปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในอ่าวเม็กซิโกของสหรัฐที่หยุดชะงักไปก่อนหน้านี้จากปัญหาท่อขนส่งน้ำมันเสียหาย กลับมาดำเนินการผลิตได้ตามปกติ เนื่องจากมีการซ่อมท่อขนส่งดังกล่าวเสร็จสิ้นแล้วภายในวันศุกร์ที่ผ่านมา

โดยก่อนหน้านี้ตลาดกังวลหากท่อขนส่งดังกล่าวหยุดชะงักไป จะส่งผลให้ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐได้รับผลกระทบถึงกว่า 410,000 บาร์เรลต่อวัน

โดยราคาน้ำมันเวสต์เทกซัสซื้อขายเมื่อ 12 ส.ค. อยู่ที่ 92.09 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง -2.25 เหรียญสหรัฐ และราคาน้ำมันเบรนต์อยู่ที่ 98.15 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง -1.45 เหรียญสหรัฐ

ความต้องการใช้น้ำมันในปีนี้มีแนวโน้มชะลอตัวลง จากปัญหาเศรษฐกิจที่ชะลอตัว โดยในรายงานประจำเดือนล่าสุดของกลุ่มโอเปก (OPEC) มีการปรับลดความต้องการใช้น้ำมันในปีนี้ลง 0.26 ล้านบาร์เรลต่อวันจากรายงานก่อนหน้า โดยความต้องการใช้น้ำมันทั้งปีคาดจะเติบโตที่ราว 3.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งสวนทางกับสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ที่ปรับเพิ่มความต้องการใช้น้ำมันขึ้น หลังคาดราคาก๊าซธรรมชาติที่ปรับตัวสูงขึ้นจะส่งผลให้มีการหันมาใช้น้ำมันทดแทนก๊าซธรรมชาติมากขึ้นในไตรมาส 4 ของปีนี้

ปริมาณการขุดเจาะน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติปรับลดลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกัน หลังราคาน้ำมันดิบเริ่มปรับลดลงและหลายบริษัทปรับเพิ่มงบลงทุนในระดับจำกัดในปีนี้ โดย Baker Hughes รายงานปริมาณการขุดเจาะน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติปรับลดลง 1 แท่นมาอยู่ที่ราว 763 แท่น สำหรับสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 12 ส.ค. อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาเฉพาะปริมาณการขุดเจาะน้ำมันดิบจะพบว่าปรับเพิ่มขึ้นราว 3 แท่น มาอยู่ที่ 601 แท่น

ราคาน้ำมันเบนซิน

ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงกดดันจากอุปสงค์ในภูมิภาคที่ชะลอตัวลงจากเวียดนามและอินโดนีเซีย นอกจากนี้ ราคายังได้รับแรงกดดันจากปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสิงคโปร์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ที่ราว 17.7 ล้านบาร์เรล

ราคาน้ำมันดีเซล

ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังสิงคโปร์ที่ปรับตัวลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม ราคายังได้รับแรงกดดันจากอุปทานในภูมิภาคที่มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจากอินเดียและเกาหลีใต้