ครึ่งปีแรกส่งออกมันสำปะหลังไทยพุ่ง 6.7 ล้านตัน คาดทั้งปี’65 ทะลุ 11 ล้านตัน

มันสำปะหลัง

กรมการค้าต่างประเทศ คาดส่งออกมันสำปะหลังปี 2565 ทะลุ 11 ล้านตัน มูลค่า 4,200 ล้านเหรียญสหรัฐ หลังยอดครึ่งปีแรกทะลุ 6.7 ล้านตันแล้ว

วันที่ 19 สิงหาคม 2565 นายพิทักษ์ อุดมวิชัยวัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมการค้าต่างประเทศได้ประชุมหารือร่วมกับ 4 สมาคมมันสำปะหลัง คือ สมาคมการค้ามันสำปะหลังไทย สมาคมแป้งมันสำปะหลังไทย สมาคมโรงงานผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังไทย และสมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2565 และได้คาดการณ์ฤดูกาลผลิตปี 2564/2565 ในช่วงครึ่งหลังของปีว่าราคามันสำปะหลังจะพุ่งสูงต่อเนื่อง เนื่องจากปริมาณความต้องการจากผู้ซื้อต่างประเทศเพิ่มขึ้น

พิทักษ์ อุดมวิชัยวัฒน์
พิทักษ์ อุดมวิชัยวัฒน์

ตลอดจนสถานการณ์ความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน ทั่วโลกเพิ่มปริมาณสำรองธัญพืชเพื่อการบริโภค โดยเฉพาะข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ทำให้อุตสาหกรรมอาหารสัตว์และพลังงานมีความต้องการนำเข้ามันสำปะหลังทดแทนเพิ่มขึ้น อีกทั้งประเทศคู่ค้าสำคัญโดยเฉพาะจีนยังคงสั่งซื้อมันสำปะหลังอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำไปใช้เป็นวัตถุดิบผลิตแอลกอฮอล์และอาหารสัตว์ทดแทนข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ซึ่งราคาอยู่ในระดับสูง ส่งผลให้ผลผลิตไม่เพียงพอและราคามันสำปะหลังยังพุ่งขึ้นต่อเนื่อง

โดยเดือนกรกฎาคม 2565 หัวมันสดเชื้อแป้ง 25% ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 3.15 บาท เพิ่มขึ้น 31.25% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ ในส่วนของการส่งออกมันสำปะหลังอยู่ในเกณฑ์ดีมาก โดยในช่วงครึ่งปีแรกของ 2565 (ม.ค.-มิ.ย.) ส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ได้แก่ มันเส้นมันอัดเม็ด แป้งดิบ แป้งแปรรูป และอื่น ๆ (กากมัน และสาคู) ปริมาณ 6,753,931.02 ตัน มูลค่า 82,795.11 ล้านบาท โดยมูลค่าเพิ่มขึ้น 35.16% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

“จากการหารือร่วมกับ 4 สมาคมข้างต้น คาดการณ์ปริมาณการส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง (มันเส้น มันอัดเม็ด แป้งดิบ แป้งแปรรูป) ปี 2565 ทั้งปีจะเพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับปี 2564 คิดเป็นปริมาณรวม 11 ล้านตัน มูลค่า 4,200 ล้านเหรียญสหรัฐ (130,000 ล้านบาท) โดยในช่วง 6 เดือนหลังของปี 2565 คาดว่าจะสามารถส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังรวมได้เพิ่มขึ้นปริมาณ 4.25 ล้านตัน มูลค่า 1,700 ล้านเหรียญสหรัฐ (47,000 ล้านบาท) โดยส่งออกมันเส้นและแป้งมันได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งปีทองของอุตสาหกรรมมันสำปะหลังไทยที่คาดว่าจะสามารถทำนิวไฮสูงสุดในรอบ 15 ปี”

นอกจากนี้ ผู้ซื้อจากต่างประเทศโดยเฉพาะตลาดใหม่ที่มีศักยภาพเพื่อนำไปผลิตอาหารสัตว์ เช่น ตุรกี นิวซีแลนด์ ซาอุดีอาระเบีย และจีนตอนใต้ เป็นต้น ยังคงสนใจสั่งซื้อมันสำปะหลังของไทยทดแทนธัญพืชที่มีราคาสูง เช่น ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ จึงขอให้ผู้ประกอบการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับปริมาณสั่งซื้อจากต่างประเทศที่เพิ่มมากขึ้น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศผู้ซื้อว่าไทยสามารถจัดหาวัตถุดิบมันสำปะหลังให้กับอุตสาหกรรมต่าง ๆ ได้ ตลอดจนสร้างงาน สร้างรายได้เข้าประเทศอย่างต่อเนื่องต่อไป