GI Fest ขนสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์พรีเมี่ยม ขึ้นห้างพาราไดซ์พาร์ค

กรมทรัพย์สินทางปัญญา เชิญชวน ช้อป ชิล สินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ไทย จากทั่วประเทศ ในงาน “GI Fest” เดินงานเดียว ช้อปได้ทั่วไทย

วันที่ 31 สิงหาคม 2565 นางสาวกนิษฐา กังสวนิช รองอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า กรมร่วมมือกับศูนย์การค้าในเครือเอ็ม บี เค จัดงาน GI Fest เดินงานเดียว ช้อปได้ทั่วไทย ต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 31 สิงหาคม-4 กันยายน 2565 ณ ลานรอยัล พาร์ค พลาซ่า ชั้น 1 ศูนย์การค้าพาราไดซ์ พาร์ค

โดยนำสินค้า GI เกรดพรีเมี่ยมจากทั่วประเทศกว่า 40 รายการมาไว้ในงานเดียว ซึ่งล้วนเป็นสินค้าที่มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับในคุณภาพ อีกทั้งยังมีลักษณะเฉพาะที่โดดเด่นแตกต่างจากสินค้าประเภทเดียวกันที่มาจากแหล่งอื่น โดยมีสินค้าที่น่าสนใจ

Advertisment

อาทิ ทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ ทุเรียนจันท์ จังหวัดจันทบุรี ลำไยอบแห้งเนื้อสีทองลำพูน จังหวัดลำพูน ส้มโอทับทิมสยามปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ จังหวัดร้อยเอ็ด ถั่วลายเสือแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน รวมถึงสินค้าที่เตรียมขึ้นทะเบียน GI ในอนาคต เช่น ปลากะพงสามน้ำทะเลสาบสงขลา จังหวัดสงขลา ข้าวเกรียบปลาปัตตานี จังหวัดปัตตานี เป็นต้น

อย่างไรก็ดี กรมยังเดินหน้าให้ความสำคัญกับการสร้างรายได้แก่เกษตรกรและผู้ประกอบการท้องถิ่น ผ่านการส่งเสริมสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) อย่างครบวงจร ตั้งแต่การส่งเสริมการขึ้นทะเบียน การจัดทำระบบควบคุมคุณภาพ ตลอดจนส่งเสริมช่องทางการตลาดสินค้า GI จนสามารถสร้างมูลค่าการตลาดได้สูงถึง 40,000 ล้านบาท

โดยมีภาคเอกชนเป็นแนวร่วมสำคัญในการสนับสนุนช่องทางจำหน่ายสินค้า GI ดังความสำเร็จจากงาน GI Fest ครั้งที่ผ่านมา ที่จัดขึ้น ณ ศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์เมื่อช่วงกลางเดือนสิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา มียอดจำหน่ายสินค้า GI กว่า 1 ล้านบาท ภายในช่วงระยะเวลาเพียง 5 วัน

Advertisment

​นายสมพล ตรีภพนารถ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจศูนย์การค้า บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เอ็ม บี เค ขอขอบคุณ กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ที่ให้ความไว้วางใจให้ศูนย์การค้าในเครือเอ็ม บี เค เป็นสถานที่จัดงาน GI Fest มาอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อช่วงกลางเดือนที่ผ่านมาได้จัดงานที่เอ็ม บี เซ็นเตอร์

ซึ่งมีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ให้ความสนใจมาจับจ่ายของดีประจำถิ่นจากทั่วเมืองไทยเป็นอย่างมาก และเพื่อเป็นการสร้างรายได้และการกระจายสินค้าให้กับผู้ประกอบการและเกษตรกรไทยอย่างต่อเนื่อง จึงขยายความร่วมมือมาจัดต่อที่พาราไดซ์ พาร์ค เป็นครั้งแรก

ซึ่งนอกจากศูนย์การค้า จะมีความพร้อมของสถานที่แล้ว ลูกค้าที่นี่ยังได้มีโอกาสเลือกซื้อสินค้าและของดีประจำถิ่นจากทั่วเมืองไทย ที่สำคัญยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก รวมทั้งสร้างบรรยากาศการจับจ่ายกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศอีกด้วย