“กอบศักดิ์” ประธานสรรหา ไฟเขียวเปิดชิงซีอีโอโออาร์

OR

เปิดฉากสรรหาซีอีโอใหม่ OR แล้ว กอบศักดิ์ประธานคกก.สรรหา เปิดรับสมัคร 5-25 ต.ค. 65 “รวิศ” ย้ำความคาดหวัง “ผู้มีความรู้เข้าใจธุรกิจสานต่องานได้ทันที”

นายรวิศ หาญอุตสาหะ กรรมการอิสระ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ถึงความคืบหน้าในการดำเนินกระบวนการสรรหาผู้จะมารับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ OR แทน น.ส.จิราพร ขาวสวัสดิ์ ซึ่งได้เกษียณไปเมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2565 ที่ผ่านมาว่า ขณะนี้คณะกรรมการสรรหา ซึ่งมีองค์ประกอบจากกรรมการอิสระในบอร์ดโออาร์ได้ดำเนินการสรรหาแล้ว

“ผมไม่ได้อยู่ในชุดกรรมการสรรหา อย่างไรก็ตาม กระบวนการสรรหาไม่ได้หยุดนิ่ง เราพยายามจะสรรหาให้เร็วที่สุด ทุกคนก็พยายามเร่ง ซึ่งบอร์ดมีความคาดหวังว่าผู้ที่จะมารับตำแหน่งซีอีโอจะต้องมีความเข้าใจในธุรกิจ สามารถสานต่อภารกิจงานของโออาร์ได้ทันที ต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถ ในส่วนของคุณจิราพรไม่มีการต่ออายุ”

รายงานข่าวระบุว่า นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานคณะกรรมการสรรหาประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) ลงนามประกาศเมื่อวันที่ 3 ต.ค. 2565 เปิดรับผู้สมัครซีอีโอใหม่ ระหว่างวันที่ 5-25 ต.ค. 2565 หลังจากนั้นผู้ที่ผ่านการคัดเลือก จากพิจารณาข้อมูลและเอกสาร จะได้รับเชิญให้เข้ารับการสัมภาษณ์เพื่อแสดงวิสัยทัศน์

ทั้งนี้ ผู้สมัครที่จะสมัครซีอีโอโออาร์ จะต้องจบการศึกษาไม่ต่ำกว่าระดับปริญญาตรี และมีคุณสมบัติทั่วไป 14 ข้อ อาทิ มีสัญชาติไทย อายุไม่เกิน 58 ปี ไม่เป็นกรรมการของ OR ในวันที่ยื่นสมัคร สามารถทำงานได้เต็มเวลา ไม่เป็นบุคคลวิกลจริต ไม่เคยได้รับโทษจำคุก ไม่ต้องคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลให้ทรัพย์ตกเป็นของแผ่นดิน เพราะร่ำรวยผิดปกติ หรือมีทรัพย์เพิ่มขึ้นผิดปกติ

ไม่เป็นผู้บริหารหรือพนักงานของรัฐวิสาหกิจ ข้าราชการ พนักงานหรือลูกจ้าง ข้าราชการการเมือง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา สภาท้องถิ่น หรือเจ้าหน้าที่ของพรรคการเมือง และในระยะเวลา 3 ปี ก่อนสมัคร ไม่เคยเป็นกรรมการ หรือผู้บริหาร หรือผู้มีอำนาจ ในการจัดการหรือมีส่วนได้ส่วนเสีย ในนิติบุคคลซึ่งเป็นผู้รับสัมปทาน ผู้ร่วมทุนหรือมีประโยชน์ได้เสียเกี่ยวข้องกับกิจการของ OR เว้นแต่การเป็นประธานกรรมการ หรือกรรมการในนิติบุคคลดังกล่าว โดยการมอบหมายของ OR

นอกจากนี้ยังกำหนด “คุณสมบัติเฉพาะตำแหน่ง” เช่น มีความรู้ความสามารถ ประสบการณ์ ที่เหมาะสมกับการดำเนินการและการขยายธุรกิจของโออาร์ มีความรู้และมีประสบการณ์บริหารองค์กรขนาดใหญ่ ซึ่งในกรณีที่เป็นหรือเคยเป็นผู้บริหาร ภาคเอกชนหรือรัฐวิสาหกิจ ต้องดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าระดับรองผู้บริหารสูงสุดขององค์กร เป็นระยะเวลาร่วมกันไม่น้อยกว่า 2 ปี

เป็นองค์กรที่มีรายได้รวมไม่ต่ำกว่า 30,000 ล้านบาทต่อปี และต้องแนบข้อมูลงบการเงิน และโครงสร้างองค์กรมาประกอบการพิจารณาด้วย ส่วนในกรณีที่เคยเป็นผู้บริหารองค์กรภาครัฐ ระดับกรมหรือเทียบเท่า ในตำแหน่งไม่น้อยกว่ารองอธิบดี หรือรองผู้บริหารสูงสุดขององค์กร เป็นระยะเวลา 2 ปี

ทั้งนี้ ซีอีโอโออาร์ จะมีวาระดำรงตำแหน่งคราวละไม่เกิน 4 ปี หรือจนกว่าอายุครบ 60 ปี ส่วนผลตอบแทนจะเป็นไปตามตกลง