METI ญี่ปุ่นคอนเฟิร์ม โซนี่กรุ๊ป เตรียมขยายโรงงานผลิตเซมิคอนดักเตอร์ในไทย

สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ

“สุริยะ” จับมือ กระทรวง METI ประเทศญี่ปุ่นสานต่อทุกโครงการกับไทย ยืนยัน “โซนี่กรุ๊ปคอร์ปอเรชั่น” จ่อขยายโรงงานผลิตเซมิคอนดักเตอร์ในไทย พร้อมทั้ง “โตโยต้า” ลุย EV

วันที่ 16 พฤศจิกายน 2565 นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรม (Ministry of Economy, Trade and Industry, METI) ประเทศญี่ปุ่น ได้ร่วมมือกันในด้านการพัฒนาและยกระดับภาคอุตสาหกรรมของทั้ง 2 ประเทศมาอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุดได้ร่วมประชุมกับ นายนิชิมุระ ยาสึโทชิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรม (METI) ประเทศญี่ปุ่น ผ่านการหารือเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินงานด้านการส่งเสริมภาคอุตสาหกรรม และกำหนดแนวทางการดำเนินงานความร่วมมือในอนาคต ระหว่างการประชุมเอเปค 2022 ที่ประเทศไทย

โดยการประชุมครั้งนี้มุ่งส่งเสริมภาคอุตสาหกรรม พร้อมกำหนดความร่วมมือในอนาคต ภายใต้กรอบการทำงาน Cooperation Framework on Human Resource Development for Realizing Industry 4.0 ผ่าน 3 ประเด็นหลัก

ประกอบด้วย 1.แนวทางการร่วมกันพัฒนาทักษะด้านเทคโนโลยีดิจิทัลให้แก่บุคลากรในภาคอุตสาหกรรม 2.การขับเคลื่อนนโยบาย BCG ในสาขาอุตสาหกรรมเป้าหมาย และ 3.การเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับห่วงโซ่อุปทานผ่านแนวคิดการร่วมสร้าง (Cocreation) และการพัฒนาความร่วมมือระหว่างภาคเอกชนไทยและญี่ปุ่น

“การแลกเปลี่ยนกรอบความร่วมมือครั้งนี้ จะเป็นการสร้างบุคลากรที่มีคุณภาพเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรมไทย มุ่งเน้นการสร้างโอกาสด้านการค้าและการลงทุน ตลอดจนโอกาสทางเศรษฐกิจใหม่ ๆ ผ่านการถอดบทเรียนหลังการระบาดของโรคโควิด-19 รวมทั้งสอดคล้องกับโมเดลเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว หรือ Bio-Circular-Green Economy : BCG Model ของไทย”

ที่ผ่านมากระทรวงอุตสาหกรรม และ METI ร่วมกันยกระดับภาคอุตสาหกรรมสู่ Thailand 4.0 อย่างเป็นรูปธรรม ทั้งการใช้เทคโนโลยีเข้ามายกระดับภาคการผลิตตามเป้าประสงค์ต่าง ๆ อาทิ โครงการ Lean Automation and System Integrators (LASI) และการใช้วิธีการแก้ปัญหาด้วยความคิดสร้างสรรค์ หรือโมโนซึกุริ ที่ใช้พลังกลที่มีอยู่ในธรรมชาติแก้ปัญหา ซึ่งสามารถลดต้นทุนค่าพลังงาน

โดยกรอบการทำงานที่ทั้ง 2 กระทรวง ได้มีการแลกเปลี่ยนกันไปเมื่อวันที่ 13 ม.ค. 2565 และจะได้รับการยกระดับไปอีกขั้น โดยเฉพาะในด้านการสร้างบุคลากรเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรม ด้วยการแลกเปลี่ยนกรอบความร่วมมือในวันนี้ ยิ่งไปกว่านั้นภายใต้กรอบความร่วมมือดังกล่าว ยังมุ่งเน้นให้เกิดการพัฒนาระบบการขึ้นทะเบียนที่ปรึกษาเพื่อรองรับบุคลากรที่ได้รับการพัฒนาทักษะ และองค์ความรู้จากโครงการต่าง ๆ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้าน Digitalization เพื่อตอบสนองต่อเป้าหมายการสร้าง System Integrator (SI) เพื่อยกระดับภาคการผลิตเข้าสู่อุตสาหกรรม 4.0 ให้ประเทศไทยเป็นผู้นำการผลิตและใช้หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติของอาเซียน

นอกจากนี้ กระทรวงอุตสาหกรรม ยังมีความร่วมมือกับประเทศญี่ปุ่นในด้านอื่น ๆ อาทิ การดำเนินงานโครงการการจัดตั้งศูนย์ต้นแบบการจัดการซากยานยนต์แบบครบวงจรในประเทศไทย (End-of-life Vehicles in Thailand : ELV Project) ซึ่งจะช่วยในเรื่องของการกำจัดขยะรถยนต์ที่จะเกิดขึ้นเป็นจำนวนมากในประเทศไทย และโครงการศึกษาแนวทางในการพัฒนา “นิคมอุตสาหกรรมที่มุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน” ในพื้นที่มาบตาพุด (Carbon Neutral Industrial Estate Project at Map Ta Phut Industrial Estate)

ซึ่งการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ได้มีการลงนาม MOC ร่วมกับหน่วยงานเครือข่ายจากไทยและญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 10 พ.ย. 2564 และได้รับการสนับสนุนจาก METI ในการศึกษาความเป็นไปได้ในการผลิตพลังงานไฮโดรเจนด้วยพลังงานหมุนเวียนและพลังงานสะอาดที่หลากหลาย

ทั้งนี้ แม้สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 กระทบต่อการลงทุนภาคอุตสาหกรรมไทยและทั่วโลก แต่ญี่ปุ่นยังคงเป็นคู่ค้าทางเศรษฐกิจที่สำคัญของไทย โดยจากข้อมูลสถิติการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศรายเดือนสะสมเดือน ม.ค.-มี.ค. 2565 ของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) พบว่า โครงการต่างชาติที่ได้รับอนุมัติให้การส่งเสริมการลงทุน มีจำนวน 198 โครงการ เงินลงทุน 77,290 ล้านบาท

ส่วนใหญ่อยู่ในหมวดบริการและสาธารณูปโภค รองลงมาเป็นหมวดผลิตภัณฑ์โลหะเครื่องจักรและอุปกรณ์ขนส่ง เฉพาะญี่ปุ่น มีจำนวน 45 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวมกว่า 13,788 ล้านบาท หรือคิดเป็น 23% ของโครงการลงทุนจากต่างประเทศทั้งหมด

นายนิชิมุระ ยาสึโทชิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรม (METI) ได้เปิดเผยว่า METI ได้ตัดสินใจที่จะให้การสนับสนุนการลงทุนในประเทศไทย เพื่อขยายฐานการผลิตของบริษัทญี่ปุ่น โดยในปัจจุบันบริษัทญี่ปุ่นรายใหญ่หลายราย ต่างมีแผนการขยายฐานการผลิตมายังประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็น บริษัท โซนี่กรุ๊ปคอร์ปอเรชั่น ที่ต้องการขยายโรงงานการผลิตเซมิคอนดัคเตอร์ บริษัท เอจีซี ที่มีแผนการลงทุนในไทยเพิ่มขึ้นอีก 1 แสนล้านเยน และบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ที่มีการลงนาม MOU กับภาครัฐของไทยในด้านการผลิต EV