ราคาน้ำมันดิบ (8 ธ.ค. 65) ปรับลด หลังสต๊อกเบนซิน-ดีเซลสหรัฐปรับเพิ่มเกินคาด

ราคาน้ำมันดิบ
Photo by Robyn BECK / AFP

ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังสต๊อกน้ำมันเบนซินและดีเซลสหรัฐปรับเพิ่มขึ้นเกินคาด

วันที่ 8 ธันวาคม 2565 หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ ระบุว่าปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคา ดังนี้ ราคาน้ำมันดิบปรับลดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบปี หลังสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) รายงาน สต๊อกน้ำมันเบนซิน สำหรับสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 2 ธ.ค. 65 ปรับเพิ่มขึ้น 5.3 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 219.1 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับเพิ่มขึ้นเพียง 2.7 ล้านบาร์เรล

ส่วนสต๊อกน้ำมันดีเซล ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดเช่นกัน โดยเพิ่มขึ้น 6.2 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 118.8 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้นเพียง 2.2 ล้านบาร์เรล ซี่งข้อมูลคลังสำรองของน้ำมันทั้งสองชนิดนี้เป็นปัจจัยที่กดดันตลาด แม้ว่าสต๊อกน้ำมันดิบปรับลด 5.2 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 413.9 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดว่าจะลดลง 3.3 ล้านบาร์เรลก็ตาม

โดยราคาน้ำมันเวสต์เทกซัสซื้อขายเมื่อ 7 ธ.ค. 2565 อยู่ที่ 72.01 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง -2.24 เหรียญสหรัฐ และราคาน้ำมันเบรนต์อยู่ที่ 77.17 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง -2.18 เหรียญสหรัฐ

ตลาดยังคงกังวลผลกระทบจากการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เพื่อชะลอภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งจะส่งผลต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอย และการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ ทำให้ราคาน้ำมันสูงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น

อุปสงค์ในจีนมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น หลังยกเลิกมาตรการเข้มงวดหลายอย่างในการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 รวมถึงให้กักตัวที่บ้านได้ หลังเกิดการประท้วงต่อต้านครั้งใหญ่เมื่อปลายเดือนก่อน

ราคาน้ำมันเบนซิน

ราคาน้ำมันเบนซินปรับลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังความต้องการใช้น้ำมันเบนซินในอินโดนีเซียปรับตัวเพิ่มขึ้นก่อนเข้าสู่ช่วงวันหยุดปีใหม่ อย่างไรก็ตาม ปริมาณการส่งออกของจีนในเดือน ธ.ค. มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น

ราคาน้ำมันดีเซล

ราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากการส่งออกน้ำมันดีเซลจากเอเชียและตะวันออกกลางไปยังฝั่งตะวันตกที่มีแนวโน้มอ่อนตัวลง ท่ามกลางการจับตาการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 ในจีน