ติมอร์-เลสเต เปิดตลาดลด-เลิก ส่งออกสินค้าให้ไทย แลกกับเข้าเป็นสมาชิก WTO

ส่องส่งออก

พาณิชย์แจ้งความคืบหน้าติมอร์-เลสเต เปิดตลาดลดเลิกภาษีให้กับสินค้าส่งออกหลายรายการของไทยแล้ว แลกกับการสนับสนุนเข้าเป็นสมาชิก WTO

วันที่ 5 พฤษภาคม 2566 นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ไทยและติมอร์-เลสเต สามารถสรุปผลการเจรจาเปิดตลาดของติมอร์-เลสเต ระดับทวิภาคี ในการสมัครเข้าเป็นสมาชิกขององค์การการค้าโลก (WTO) ของติมอร์-เลสเตสำเร็จแล้ว เมื่อวันที่ 18 เมษายนที่ผ่านมา ณ นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

ซึ่งฝ่ายไทย นำโดย นางพิมพ์ชนก พิตต์ฟีลด์ เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำ WTO และองค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก และฝ่ายติมอร์-เลสเต นำโดยนาย Joaquim Amaral รัฐมนตรีประสานงานการเศรษฐกิจและหัวหน้าคณะเจรจาการภาคยานุวัติเข้าเป็นสมาชิก WTO โดยติมอร์-เลสเต ยอมที่จะเปิดตลาดลดเลิกภาษีศุลกากรที่เก็บกับสินค้าส่งออกหลายรายการของไทยตามที่ไทยร้องขอแล้ว

อรมน ทรัพย์ทวีธรรม
อรมน ทรัพย์ทวีธรรม

สำหรับผลการเจรจาสุดท้ายในภาพรวมที่ติมอร์-เลสเต จะเปิดตลาดให้สมาชิก WTO จะเป็นอย่างไร ต้องรอสรุปผลหลังจากที่ติมอร์-เลสเต สามารถปิดการหารือการเปิดตลาดกับสมาชิก WTO ที่แสดงความจำนงขอเจรจาเปิดตลาดในระดับทวิภาคี

โดยล่าสุด ติมอร์-เลสเต สามารถสรุปผลหารือทวิภาคีกับฟิลิปปินส์ แคนาดา นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย และสหภาพยุโรปได้แล้ว และอยู่ระหว่างหารือทวิภาคีกับอินโดนีเซียและสหรัฐอเมริกา ซึ่งเมื่อติมอร์-เลสเต จบการเจรจาเปิดตลาดระดับ 2 ฝ่ายกับสมาชิก WTO ที่สนใจแล้ว จะต้องแจ้งข้อผูกพันการเปิดตลาดในภาพรวมกับ WTO

โดยการลดหรือยกเลิกภาษีศุลกากรที่จะเก็บกับสินค้าส่งออกของสมาชิก WTO จะต้องเป็นอัตราเดียวกัน ทั้งนี้ ติมอร์-เลสเต ตั้งเป้าจะจบการเจรจาทวิภาคีกับสมาชิก WTO ให้เสร็จ เพื่อสามารถจบกระบวนการเข้าเป็นสมาชิก WTO โดยสมบูรณ์ ภายในการประชุมรัฐมนตรี WTO (Ministerial Conference : MC) ครั้งที่ 13 ซึ่งจะจัดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2567 โดยจะครบ 10 ปี ที่ติมอร์-เลสเต แสดงความสนใจสมัครเข้าเป็นสมาชิก WTO เมื่อปี 2558

นอกจากการเปิดตลาดสินค้าที่ติมอร์-เลสเต จะต้องผูกพันให้สมาชิก WTO แล้ว ติมอร์-เลสเต ยังต้องผูกพันที่จะปฏิบัติตามกฎเกณฑ์การค้าต่าง ๆ ที่กำหนดไว้ในความตกลง WTO อาทิ การลดเลิกการอุดหนุนสินค้าเกษตร กฎระเบียบด้านสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช กฎระเบียบทางเทคนิคที่เกี่ยวกับการค้า และมาตรการเยียวยาทางการค้า

“ติมอร์-เลสเต มีแผนจะเดินหน้าพัฒนาประเทศให้เป็นประเทศที่มีรายได้ปานกลางในระดับสูง (Upper Middle-Income) ภายในปี 2573 และให้ความสำคัญกับภาคการท่องเที่ยว และภาคการเกษตร โดยเฉพาะกาแฟ ประมง และอุตสาหกรรมแปรรูป ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ซึ่งถือเป็นสาขาที่ไทยมีศักยภาพ จึงเป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทยที่จะขยายการค้าการลงทุนไปยังติมอร์-เลสเตได้อีกด้วย”


ทั้งนี้ ติมอร์-เลสเต เป็นคู่ค้าอันดับที่ 10 ของไทยในอาเซียน และไทยเป็นคู่ค้าอันดับที่ 4 ของติมอร์-เลสเต ในอาเซียน โดยในปี 2565 การค้าระหว่างไทยกับติมอร์-เลสเต มีมูลค่า 14.87 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 32.11% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ข้าว ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม และสินค้าเกษตรกรรม ส่วนสินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ น้ำมันดิบ พืชและผลิตภัณฑ์จากพืช ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากโลหะกระดาษและเศษกระดาษ และเครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ