ส.อ.ท. ชี้ขึ้นค่าแรงแค่สลึงหรือบาทเดียวก็กระทบผู้ผลิต ย้ำไม่อยากมานั่งลุ้นค่าไฟ-ค่าแรงเป็นครั้ง ๆ หวั่นจีดีพีปี 2566 หวืดเป้า 2.5% โตได้แค่ 2.2% หลัง 3 ไตรมาสแผ่ว โตแค่ 1.9% ลุ้นไตรมาส 4 โต 3% ชูนวัตกรรมขับเคลื่อนประเทศแก้เกมต้นทุนพุ่ง ประเดิมผนึก IRPC ใช้กองทุนอินโนเวชั่นวัน ต่อยอดผลิต ปุ๋ยหมีขาว
วันที่ 13 ธันวาคม 2566 นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ลงนามบันทึกข้อตกลง Memorandum of Understanding (MOU) โครงการ “กองทุนอินโนเวชั่นวัน” ร่วมกับ นายกฤษณ์ อิ่มแสง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) (IRPC)
- กองทุนประกัน อนุมัติจ่ายเงิน 7.29 พันล้าน มี.ค.-เม.ย. รับรองมูลหนี้เพิ่ม 560 ล้าน
- “ทางรัฐ” ซูเปอร์แอปแห่งชาติ รองรับแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท
- BITE SIZE : ถอนเงินไม่ใช้บัตร ข้ามแบงก์ได้แล้ว ธนาคารไหนรองรับบ้าง
นายเกรียงไกรกล่าวว่า โครงการนี้เป็นจุดเริ่มต้น ในการพัฒนานวัตกรรมเพื่อขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมประเทศจากเดิมที่ประเทศไทยเรามีแต่อุตสาหกรรมเก่าดั้งเดิมและใช้แรงงาน ส่งผลให้ภาคอุตสาหกรรมต้องมาลุ้นต้นทุนค่าแรงในแต่ละงวดว่าจะมีการปรับขึ้นหรือปรับลงอย่างไร ซึ่งทุกคนต่างก็ได้รับผลกระทบ ดังนั้นการที่จะหยุดผลกระทบจะต้องมีการพัฒนานวัตกรรม ซึ่งเป้าหมายก็คือทำอย่างไรที่เราจะสามารถยกระดับอุตสาหกรรมไทยจากผู้รับจ้างผลิต (OEM) ไปสู่การเป็น ODM และ OBM
ขึ้นค่าแรงกระทบอุตสาหกรรม
“ในเรื่องค่าแรงจากที่นายกรัฐมนตรีไปงานสัมมนาเดลินิวส์เมื่อเช้า การปรับขึ้นค่าจ้างแรงงานมอง 2 มุม การขึ้น 2 บาทถึง 16 บาทนั้นอาจจะถูกมองว่าน้อย 2 บาทที่ปรับขึ้นมาซื้อไข่ยังไม่ได้ แต่ถ้าเรามองในมุมของคนที่ทำภาคอุตสาหกรรมต้นทุนแค่สลึงหรือ 1 บาทก็ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญ ซึ่งตอนนี้สภาอุตสาหกรรมมีสมาชิก 46 กลุ่มอุตสาหกรรมครึ่งหนึ่งสามารถก้าวข้ามผ่านปัญหาเรื่องค่าแรงได้แล้ว เพราะจ่ายเกินไปถึง 700-800 บาทต่อคนต่อวัน การปรับขึ้นค่าแรงไม่สำคัญเท่ากับการพัฒนาทักษะแรงงาน”
เศรษฐกิจไทย ปี 2566 โตแค่ 2.2%
นายเกรียงไกรกล่าวว่าไทยจำเป็นต้อง transform ประเทศเพื่อพ้นจากการเป็นประเทศที่ติดกับดักรายได้ปานกลางที่ผ่านมาเศรษฐกิจไทยมีอัตราการขยายตัวเพียง 1.9% ซึ่งถือว่าน้อยมาก
และล่าสุดในการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน หรือ กกร. มีการตั้งเป้าหมาย GDP ปีนี้ว่าจะขยายตัว 2.5 ถึง 3% ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ค่าเฉลี่ยของ GDP ในช่วง 3 ไตรมาสที่ผ่านมายังอยู่ที่ 1.9% โดย GDP ไตรมาส 3 เราสามารถทำได้เพียง 1.5% ต่ำกว่าเป้าหมายที่คาดไว้ 2.2% เพราะฉะนั้นการที่จะให้ขยายตัวทั้งปี 2.5% เท่ากับว่าไตรมาส 4 จะต้องทำได้ 4% กว่าจึงจะสามารถได้ตามเป้านั้น
ซึ่งส่วนตัวคิดว่าท้ายที่สุดแล้วอัตราการขยายตัวของ GDP จะเหลือเพียง 2.2% ซึ่งเฉพาะในไตรมาส 4 อาจจะขยายตัวได้ประมาณ 3%
“เราไม่อยากจะต้องมานั่งลุ้นว่า GDP จะเท่าไหร่เหมือนกับการลุ้นค่าไฟไม่ได้เราต้องก้าวสู่อุตสาหกรรมใหม่โดยใช้นวัตกรรมขับเคลื่อนการพัฒนาอุตสาหกรรม นั่นจึงเป็นที่มาของการเข้ามามีส่วนในการพัฒนาภาคเอกชนและเราได้รับความไว้วางใจจาก อว. ให้เข้ามาบริหารกองทุนอินโนเวชั่นวัน 1,000 ล้านบาท หาบริษัทมาแมทชิ่ง”
ส.อ.ท. ผนึก IRPC นำร่องนวัตกรรมเกษตร
การลงนาม MOU โครงการ “กองทุนอินโนเวชั่นวัน” ระหว่างสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) เป็นความร่วมมือที่จะส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาสตาร์ตอัพไทยตั้งแต่ช่วง Early-Stage Deep Tech ที่เกิดจากงานวิจัยของศูนย์นวัตกรรมไออาร์พีซี ผ่านการประสานความร่วมมือระหว่างสตาร์ตอัพ กับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องในเครือข่าย ของ ส.อ.ท. ที่มีความต้องการนวัตกรรมเข้ามาสนับสนุนธุรกิจ เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมให้เข้มแข็ง นำไปสู่ธุรกิจเชิงพาณิชย์
“IRPC มีพื้นที่ 5,000 ไร่ติดทะเลมีห้องแล็บที่พัฒนานวัตกรรมมีอุปกรณ์พร้อม การที่ IRPC เข้ามาช่วยทำในธุรกิจปุ๋ยนั้นนอกจากจะเป็นการพัฒนานวัตกรรมแล้วยังเป็นการช่วยแก้หนี้ด้วยเพราะเรื่องปุ๋ยเป็นเรื่องที่สร้างหนี้นอกระบบรูปแบบหนึ่งให้กับเกษตรกรของไทยประสบความยากจนมาอย่างต่อเนื่อง เพราะร้านก็จะให้ตกเขียวเอาปุ๋ยมาใช้ก่อนแล้วค่อยจ่ายทีหลัง ซึ่งต้นทุนค่าปุ๋ยคิดเป็นสัดส่วน 40-42% ของต้นทุนทั้งหมด หลังจากนี้หากมีการพัฒนาปุ๋ยก็จะช่วยให้ประเทศไทยสามารถลดการนำเข้าปุ๋ยได้
IRPC ชู ปุ๋ยหมีขาว นวัตกรรมใหม่
นายกฤษณ์ อิ่มแสง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า IRPC รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ดำเนินโครงการ กองทุนอินโนเวชั่นวัน ร่วมกับ ส.อ.ท. ในวันนี้ จากการที่ประเทศไทยมีแผนพัฒนาทางเศรษฐกิจ ผ่านการผลักดันการสร้างนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยมีการส่งเสริมธุรกิจสตาร์ตอัพเป็นนโยบายเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญ
นอกจากนี้ สตาร์ตอัพของไทยมีศักยภาพทั้งในเรื่องของความสามารถด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม ที่จะช่วยส่งเสริมให้เกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจ และสร้างความเข้มแข็งของระบบนิเวศนวัตกรรมของประเทศได้ แต่สตาร์ตอัพเหล่านี้ยังขาดการสนับสนุนทั้งในด้านการวิจัยและพัฒนานวัตกรรม เพื่อให้สามารถเข้าสู่ตลาดและขยายธุรกิจไปสู่เชิงพาณิชย์ได้
ดังนั้นโครงการ กองทุนอินโนเวชั่นวัน จะช่วยส่งเสริมและสนับสนุนให้สตาร์ตอัพไทยได้มีโอกาสเข้าถึงตลาดภาคอุตสาหกรรมได้อย่างรวดเร็ว โดย IRPC ตระหนักถึงความสำคัญในการแสวงหาเทคโนโลยีและสร้างสรรค์นวัตกรรม โดยเฉพาะนวัตกรรมอนาคตที่เป็น New S-Curve ของโลก ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการผลักดันเศรษฐกิจของประเทศ โดยเราจะบูรณาการองค์ความรู้ ความชำนาญในธุรกิจและแนวคิดนวัตกรรม รวมทั้งการร่วมมือและสนับสนุนสตาร์ตอัพ เพื่อให้นวัตกรรมสามารถผลิตและออกสู่ตลาดเชิงพาณิชย์ได้ สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของ IRPC
“IRPC มุ่งสร้างสรรค์นวัตกรรมการใช้วัสดุและพลังงาน เพื่อชีวิตที่ลงตัว นวัตกรรมของ IRPC ที่อยู่ระหว่างการดูแล ได้แก่ ธาตุอาหารสำหรับพืชที่ใช้เทคโนโลยีนาโนมาช่วยให้พืชสามารถดูดซึมธาตุอาหารไปใช้ประโยชน์ได้อย่างดี ในชื่อ REINFOXX หรือปุ๋ยหมีขาว หลังจากที่สเกลอัพแล้วต่อยอดในเชิงพาณิชย์ได้แล้วก็จะคืนผลตอบแทนกลับมาสู่กองทุน”
นายอนุชา สมจิตรชอบ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC กล่าวว่า โครงการ pilot project นี้ IRPC มุ่งที่จะพัฒนาเพิ่มกำลังการผลิตปีหน้าอีก 40,000-50,000 ลิตรจากปัจจุบันที่ทำได้ 78,000 ลิตร/วัน โดยมีเป้าหมายจะสร้างการเติบโตให้เป็นตัวเลข 2 หลัก
ทั้งนี้ สำหรับงบประมาณการลงทุนในเฟสแรกของโครงการนี้จะอยู่ที่ 20 ล้านบาท โดยจะเป็นการลงทุนการคนละครึ่ง