“หมูเถื่อน-โคบาลชายแดนใต้” ปัญหาใหญ่กรมปศุสัตว์เร่งแก้

ไชยา พรหมา
ไชยา พรหมา

ไชยา รมช.เกษตรฯ ติดตามความคืบหน้ากรมปศุสัตว์ ปัญหาหมูเถื่อน โคบาลชายแดนใต้ เร่งแก้ปัญหาให้เกษตรกรเร่งด่วน

วันที่ 1 มีนาคม 2567 นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานการประชุมติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานของกรมปศุสัตว์โดยมีผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์เข้าร่วม ณ ห้องพระพิรุณ ตึกอำนวยการ กรมปศุสัตว์

รมช.ไชยาเปิดเผยว่า การประชุมในวันนี้ได้มาติดตามนโยบายที่ได้มอบหมายให้กรมปศุสัตว์ดำเนินการตั้งแต่ที่เข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้แก่ การลดต้นทุนการผลิต ช่วยให้เกษตรกรลดการพึ่งพาภาคเอกชน และส่งเสริมการจัดทำหัวอาหารสัตว์ด้วยตนเองจากการใช้วัตถุดิบในประเทศ เช่น การหมักใบมันสำปะหลัง ที่มีโปรตีนใกล้เคียงกับถั่วเหลือง ซึ่งจะเริ่มจากการให้ศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์นครราชสีมานำร่องเป็นต้นแบบให้กลุ่มสหกรณ์และวิสาหกิจชุมชนมาใช้โมเดลกระบวนการผลิตอาหารสัตว์ด้วยตนเอง ซึ่งช่วยให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น

สำหรับการแก้ไขปัญหาสินค้าปศุสัตว์ราคาตกต่ำ รัฐบาลได้เร่งเจรจาเพื่อระบายสินค้าไปยังต่างประเทศ โดยมีแผนส่งออกโคมีชีวิต จำนวน 2,000 ตัว ไปเวียดนามทางเรือเป็นครั้งแรก และรัฐบาลได้รับสัญญาณที่ดีจากประเทศจีนว่าสนใจการนำเข้าโคมีชีวิตเช่นกัน หากการส่งออกครั้งแรกเป็นไปด้วยความเรียบร้อย จะช่วยให้กลไกตลาดเป็นไปตามปกติ และราคาขยับขึ้น รวมถึงฟาร์มที่ทำการส่งออกจะมารับซื้อวัวจากเกษตรกรเพิ่มขึ้น ทำให้มีรายได้หมุนเวียนในประเทศอย่างต่อเนื่อง

ในส่วนการแก้ไขปัญหาโคบาลชายแดนใต้เฟสแรกจำนวน 3,000 ตัว ต้องขอให้ดำเนินการตามเงื่อนไขของกรมปศุสัตว์ที่ต้องการให้เกษตรกรได้รับโคที่ถูกต้องตามคุณลักษณะ มีการกักกันโรคอย่างถูกต้อง พร้อมชั่งน้ำหนักโคก่อนส่งถึงมือเกษตรกร หรือหากเกษตรกรต้องการหาซื้อโคด้วยตนเองสามารถทำได้เช่นกัน เนื่องจากพี่น้องเกษตรกรเป็นคนแบกรับต้นทุน ทั้งนี้ ต้องขอความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยส่งเสริมเกษตรกรที่ไม่เข้าเงื่อนไขแต่สนใจเข้าร่วมโครงการ เช่น เกษตรกรที่ไม่มีพื้นที่ของตนเอง เป็นต้น

นอกจากนี้ นายไชยาขอยืนยันว่า รัฐบาลนี้ไม่มีการนำเข้าหมูเถื่อนจากภายนอกเพิ่มเติม แต่เป็นการปราบปรามสินค้าเกษตรเถื่อนที่ยังคงอยู่ในประเทศ เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาสินค้าเกษตรราคาตกต่ำ จึงต้องขอให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันกวดขันดูแลไม่ให้เกิดกระบวนการค้าสินค้าเกษตรผิดกฎหมายเพิ่มเติมอีก แม้ว่าตอนนี้ราคาหมูจะขยับขึ้นมาเป็น 4 บาท แต่ตนอยากได้ราคาที่เพิ่มขึ้นกว่านี้

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้าสินค้าเถื่อนกำลังอยู่ในการดำเนินการของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ซึ่งทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไม่ขอก้าวก่ายกระบวนการยุติธรรมถึงแม้จะมีข้อสงสัยเช่นกันจึงขอให้ดีเอสไอให้ความกระจ่างให้สังคมรับทราบในเรื่องนี้ด้วย

สุดท้ายนี้ ขอให้กำลังใจและขอต่อสู้ร่วมกับเกษตรกรเพื่อให้มีรายได้ สามารถดำรงชีพอยู่ได้ด้วยลำแข้งของตนเอง วันนี้ในขณะที่ตนกำลังดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วย และกำกับดูแลกรมปศุสัตว์ มีความเป็นห่วงเกษตรกรรายย่อย มากกว่านายทุน และเข้าใจหัวอก เพราะตนเองก็เป็นเกษตรกรมาก่อน ยืนยันจะแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ให้พี่น้องเกษตรกรมีความเป็นอยู่ที่ดียิ่งขึ้นต่อไป