ผู้เลี้ยงสุกรรายย่อยขาดทุนหนัก ยื่น ‘ถวายฎีกา’ ขอช่วยแก้หมูเถื่อน-ต้นทุนอาหารสัตว์

ยื่น'ถวายฎีกา' ขอช่วยแก้หมูเถื่อน

กลุ่มผู้เลี้ยงสุกรรายย่อยภาคตะวันตก โอดผู้เลี้ยงหมูขาดทุนหนัก เข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระราชวัง ขอให้พาไปยื่นถวายฎีกา แก้หมูเถื่อน-ต้นทุนอาหารสัตว์ หลังร้องเรียนมาหลายหน่วยงานไม่คืบหน้า 

วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2567 นายมานะพันธ์ ชัยเมธสิทธิ์ ประธานกลุ่มผู้เลี้ยงสุกรรายย่อยภาคตะวันตก เปิดเผยว่า วันนี้ผู้เลี้ยงหมูรายย่อยขอเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจนครบาลพระราชวัง เพื่อให้ช่วยดำเนินการส่งหนังสือขอพระราชทานกราบบังคมทูลถวายฎีกา เพื่อให้ดำเนินการเร่งรัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือผู้เลี้ยงหมูรายย่อยทั้งประเทศ ที่ยังคงได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาหมูเถื่อน และต้นทุนอาหารสัตว์แพง ทำให้ปัจจุบันยังขายหมูขาดทุน

เนื่องจากในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติและกลุ่มผู้เลี้ยงหมูรายย่อย ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือข้อร้องเรียนต่อกรมปศุสัตว์ กรมศุลกากร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมสอบสวนคดีพิเศษ และสำนักงานคณะกรรมการแข่งขันทางการค้า เพื่อให้ดำเนินการแก้ไข ทั้งการปราบปรามหมูเถื่อน ลดการแข่งขันด้านราคาจำหน่ายในประเทศ และส่งเสริมด้านการลดต้นทุนอาหารสัตว์ ตลอดจนได้รวมตัวกันครั้งใหญ่บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีโดยตรง

ยื่น'ถวายฎีกา' ขอช่วยแก้หมูเถื่อน

ซึ่งได้คำมั่นสัญญาว่าจะเร่งแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นโดยเร็ว แต่จนถึงขณะนี้การดำเนินการของรัฐค่อนข้างล่าช้า หมูเถื่อนยังมีหลงเหลืออยู่ในประเทศ ขณะที่การดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดก็จับกุมได้แต่รายย่อย ส่วนนายทุน นักการเมือง และข้าราชการ ขณะนี้ยังไม่มีใครถูกดำเนินคดี

สำหรับข้อร้องเรียนการขอยื่นถวายฎีกา ณ สำนักพระราชวัง กรณีผู้เลี้ยงหมูรายย่อยทั่วประเทศได้รับความเดือดร้อน ประกอบด้วย

  1. มีการลักลอบนำเนื้อหมูเถื่อนเข้ามาในประเทศ ทำให้ราคาหมูถูกลง กระทบต่อผู้เลี้ยงหมูรายย่อย
  2. อาหารสัตว์ปรับราคาขึ้น ทำให้ต้นทุนการเลี้ยงสูง ไม่สามารถทำราคาแข่งขันกับรายใหญ่ที่ผูกขาดการผลิตอาหารสัตว์
  3. การพัฒนาโรงฆ่าสัตว์ในภาพรวมให้มีมาตรฐาน และระบบความปลอดภัยทางชีวภาพได้เหมาะสม
  4. ติดตามความคืบหน้าในการดำเนินคดีกับผู้ลักลอบนำเข้า และผู้จำหน่ายหมูเถื่อน