ราคาน้ำมันดิบ (19 มี.ค. 67) ปรับเพิ่ม หลังเศรษฐกิจจีนฟื้นตัว

Oil

ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น หลังเศรษฐกิจจีนฟื้นตัว ประกอบกับอุปทานน้ำมันจากกลุ่ม OPEC ตึงตัวขึ้น

วันที่ 19 มีนาคม 2567 หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ระบุว่า ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคามีดังนี้ ราคาน้ำมันดิบเบรนต์และเวสต์เทกซัสปรับเพิ่มขึ้น หลังตัวเลขทางเศรษฐกิจของจีนส่งสัญญาณฟื้นตัวอย่างชัดเจนในเดือน ก.พ. 67 หลังดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีนในเดือน ก.พ. 67 เติบโตที่ระดับ 7.0% สูงกว่าคาดการณ์ที่ 5.3% ตัวเลขเศรษฐกิจดังกล่าวส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น

โดยราคาน้ำมันเวสต์เทกซัสซื้อขายเมื่อ 18 มี.ค. 2567 อยู่ที่ 82.72 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น +1.68 เหรียญสหรัฐ และราคาน้ำมันดิบเบรนต์อยู่ที่ 86.89 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น +1.55 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล

การส่งออกน้ำมันดิบของซาอุดีอาระเบียในเดือน ม.ค. 67 อยู่ที่ระดับ 6.30 ล้านบาร์เรลต่อวัน และถือเป็นการปรับลดลง 2 เดือนติดต่อกัน นอกจากนี้ ในเดือน เม.ย. 67 กลุ่มผู้ผลิตน้ำมันดิบที่นำโดยซาอุดีอาระเบียจะมีการขยายระยะเวลาการลดกำลังการผลิตโดยสมัครใจออกไปในไตรมาสที่ 2/2567

นอกจากนี้ ตลาดยังคงได้รับแรงหนุนจากการที่อิรักเตรียมปรับลดการส่งออกน้ำมันดิบลงจากระดับ 3.43 ล้านบาร์เรลต่อวัน มาอยู่ที่ระดับ 3.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในเดือน มี.ค. 67 หลังปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของอิรักในเดือน ม.ค. 67 และ ก.พ. 67 สูงกว่าโควตาที่กำหนดโดยกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันดิบ (OPEC)

ราคาน้ำมันเบนซิน

ราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ ภายหลังเศรษฐกิจของจีนฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง สะท้อนจากตัวเลขทางเศรษฐกิจในเดือน ก.พ. 67 ที่ปรับตัวดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากปริมาณการนำเข้าน้ำมันเบนซินของอินโดนีเซีย ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 13 มี.ค. 67 ที่ปรับลดลง 56.4% มาอยู่ที่ระดับ 0.19 ล้านตัน

ราคาน้ำมันดีเซล

ราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปทานน้ำมันดีเซลมีแนวโน้มตึงตัวขึ้น จากการโจมตีโรงกลั่นในรัสเซียของยูเครน โดยกำลังการผลิตที่ได้รับผลกระทบจากการโจมตีในครั้งนี้คิดเป็นกว่า 18% ของกำลังการผลิตรวม อย่างไรก็ตาม ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการประมูลขายน้ำมันดีเซลของประเทศเกาหลีใต้สำหรับส่งมอบเดือน เม.ย. 67