ตรึงดีเซลอ่วมกองทุนน้ำมันฯติดลบ 1 แสนล้านบาท เตรียมถก กบน.สัปดาห์นี้ กางมาตรการเสริมสภาพคล่อง สกนช. ลั่น “กู้เพิ่ม 2 หมื่นล้าน” เป็นทางเลือกสุดท้าย ลุ้นข้อสรุปทันสิ้นสุดมาตรการลดภาษีสรรพสามิต 19 เม.ย. 67 ปั๊มน้ำมันเชลล์อั้นไม่ไหว ขอปรับราคาก่อน ด้านสมาพันธ์ขนส่งจ่อยื่นหนังสือวอนนายกฯเศรษฐาตรึง 30 บาทต่อลิตร แจงน้ำมันปรับขึ้น 1 บาท กระทบค่าขนส่งขึ้น 3% สินค้าจ่อแพงแน่
นายพรชัย จิรกุลไพศาล ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ในสัปดาห์นี้จะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) เพื่อพิจารณาแนวทางดูแลเสถียรภาพกองทุน เพราะหลังสิ้นสุดมาตรการดูแลราคาดีเซล 30 บาท/ลิตร เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2567 สถานะกองทุนน้ำมันฯสุทธิติดลบ เพิ่มขึ้นเป็น 99,821 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 52,729 ล้านบาท บัญชีก๊าซ LPG ติดลบ 47,092 ล้านบาท หากจะต้องดูแลราคาน้ำมันต่อเนื่อง จะทำให้มีเงินไหลออกเฉลี่ย 8,000 ล้านบาท/เดือนดังนั้นจึงจำเป็นต้องพิจารณามาตรการดูแลเสถียรภาพกองทุน
โดยก่อนหน้านี้ทางคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติขยายกรอบเพดานการกู้เพิ่ม 20,000 ล้านบาทเมื่อปลายปีก่อน ซึ่งถือเป็นทางเลือกหนึ่งที่จะดำเนินการได้ แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยสถานะเครดิตอย่างนี้ โอกาสการกู้อาจจะทำได้ลำบาก ดังนั้นจะเสนอผลสรุปแนวทางการแก้ปัญหาสถานะกองทุนต่อ กบน.อีกครั้งหนึ่งว่าจะมีแนวทางดำเนินการอย่างไร
ซึ่งอาจจะต้องพิจารณาหลายปัจจัยประกอบ โดยส่วนหนึ่งคือ มาตรการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตสินค้าน้ำมันดีเซล 1 บาทต่อลิตร เพื่อตรึงราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร ที่ดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 20 มกราคม ก็จะสิ้นสุดลงในวันที่ 19 เมษายน 2567 ประกอบกับก่อนหน้านี้ กบน.เมื่อวันที่ 27 มี.ค. 2567 ได้พิจารณาให้สามารถปรับราคาจำหน่ายดีเซลเกิน 30 บาทได้ ซึ่งเท่ากับเมื่อเงื่อนไขเปลี่ยน แนวทางจะต้องปรับด้วย
“เรื่องกู้เป็นอันดับสุดท้าย เพราะต้องทำสภาพคล่องให้ดีก่อน เพราะรายได้ไม่มี มีแต่รายจ่ายอย่างเดียว ครม.ยังไม่มีมติ ก็จะนำเสนอ กบน.อีกครั้งในสัปดาห์นี้ และขอความเห็นกรรมการอีกครั้ง และอาจจะหารือนอกรอบกับกรมสรรพสามิต ซึ่งเราก็เข้าใจว่าการช่วยก็ทำให้สูญเสียรายได้เยอะ ส่วนเราก็ต้องเสียเงินกู้ ก็ต้องไปหารือเพื่อพิจารณาตัดสินใจให้ได้ข้อสรุปที่ดีที่สุด”
ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” สำรวจสถานการณ์ราคาน้ำมันล่าสุด วันที่ 2 เม.ย. 67 พบว่าสถานีบริการน้ำมัน PTT Station บางจาก คาลเท็กซ์ พีที ยังคงตรึงราคาดีเซลที่ 29.99 บาท/ลิตร มีเพียงบริษัท เชลล์ แห่งประเทศไทย จำกัด (Shell) ปรับขึ้นราคาดีเซล 30.49 บาท/ลิตร สูงกว่าปั๊มอื่นประมาณ 0.50 บาท/ลิตร
ด้านนายอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า สมาพันธ์เตรียมยื่นหนังสือต่อนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ภายในเดือนเมษายนนี้ เพื่อขอให้รัฐพิจารณาตรึงราคาน้ำมันดีเซล 30 บาทต่อลิตรต่อไป เพราะในฐานะของผู้ประกอบการรถบรรทุกหากปรับขึ้นราคาดีเซล 1 บาท จะส่งผลกระทบต่อค่าขนส่งเพิ่มขึ้น 3% ซึ่งอาจจะมีผลทำให้ผู้ผลิตต้องปรับราคาสินค้าขึ้นไปด้วย ถ้าสมมุติราคาน้ำมันลงมา แต่ราคาสินค้าก็ไม่ได้ปรับตัวลดลงตาม
“สิ่งที่ผมอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานต้องพิจารณาให้รอบคอบ และคำนึงถึงสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบันที่ซบเซา โดยอย่างน้อย ๆ ต้องมีการตรึงราคาดีเซลออกไปก่อน เพื่อให้เศรษฐกิจฟื้น อย่างไรก็ตาม ก็ต้องมีการแก้ไขระยะยาวในเชิงโครงสร้างราคาน้ำมันที่ผู้กลั่นกำไรมหาศาล แต่ประชาชนต้องแบกรับภาระ จึงต้องแก้โครงสร้างราคาให้มีความยุติธรรม เพื่อให้โครงสร้างอยู่ในราคาที่เหมาะสมและรับได้ รวมถึงปราบปรามน้ำมันเถื่อนที่ลักลอบนำเข้ามาจำนวนมาก ทั้งทางบกและทางทะเลจากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งมีราคาถูกมากเฉลี่ยที่ประมาณลิตรละ 20 บาทต้น ๆ ซึ่งก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้รัฐไม่สามารถเก็บภาษีและขาดรายได้”