ด่านสะเดา-ปาดังเบซาร์คึกคัก ดันยอดการค้าชายแดนไทย-มาเลย์พุ่ง 2.96 แสนล้าน

กรมการค้าต่างประเทศ ลงพื้นที่ด่านศุลกากรสะเดา จ.สงขลา หลังการค้าชายแดนและผ่านแดนไทย-มาเลย์ 67 พุ่ง มูลค่าการค้ารวม 296,810 ล้านบาท ด้านยอดส่งออก “ด่านสะเดา” ครึ่งปีแรกปรับเพิ่ม 0.40% ส่วน “ด่านปาดังเบซาร์” ยอดส่งออกเพิ่ม 7.21% เตรียมเปิดด่านสะเดาแห่งที่ 2 เต็มรูปแบบ ตุลาคม 2568

วันที่ 18 สิงหาคม 2567 นางสาวจิตติมา ศรีถาพร รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า กรมการค้าต่างประเทศได้รับมอบหมายให้ติดตามสถานการณ์การค้าชายแดนและผ่านแดนอย่างใกล้ชิด จึงได้จัดคณะเดินทางลงพื้นที่จังหวัดสงขลา ระหว่างวันที่ 15-17 สิงหาคม 2567 เพื่อติดตามสถานการณ์การค้าการลงทุนในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดสงขลา

และติดตามสถานการณ์การค้าชายแดนไทย-มาเลเซีย ณ ด่านสะเดาและด่านปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา ซึ่งเป็น 1 ใน 10 จังหวัดเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ มีฐานการผลิตที่สำคัญ อาทิ อุตสาหกรรมแปรรูปยางพารา อาหารทะเล และอิเล็กทรอนิกส์ และมีความพร้อมเรื่องการคมนาคมขนส่งและเป็นจุดยุทธศาสตร์ด้านเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศไทย

และมีด่านสะเดาและด่านปาดังเบซาร์เป็นประตูเชื่อมการค้าไทยกับประเทศมาเลเซีย รวมทั้งเป็นพื้นที่ภายใต้โครงการความร่วมมือเศรษฐกิจสามฝ่ายอินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย (IMT-GT) ทำให้ด่านสะเดาและด่านปาดังเบซาร์เป็นด่านชายแดนทางบกที่มีมูลค่าการค้าชายแดน-ผ่านแดนสูงสุดเป็นอันดับหนึ่งและอันดับสองของไทย

โดยในปี 2566 มีมูลค่าการค้ารวมทั้งสองด่านกว่า 5.69 แสนล้านบาท เนื่องจากทั้งสองพื้นที่อยู่ใกล้ท่าเรือปีนังและท่าเรือกลางของมาเลเซีย และมีการเชื่อมโยงการรถไฟระหว่างไทย-มาเลเซีย

ADVERTISMENT

นอกจากนี้ยังได้ติดตามความคืบหน้าการมาเลเซียเปิดใช้ด่านศุลกากรแห่งที่ 2 ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างและเริ่มทดลองการปล่อยผ่านสินค้าในด่านใหม่ โดยให้สำคัญในการอำนวยความสะดวกทางการค้าซึ่งเน้นความรวดเร็วและมีศูนย์ให้บริการแบบเบ็ดเสร็จจุดเดียว (One Stop Service : OSS) เพื่ออำนวยความสะดวกการค้าชายแดนและผ่านแดน ลดขั้นตอนและระยะเวลาให้กับผู้ประกอบการที่จะนำสินค้าส่งออกไปยังประเทศมาเลเซีย

ADVERTISMENT

ปัจจุบันกรมได้ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ OSS เรียบร้อยแล้ว โดยนำร่องในจังหวัดที่มีมูลค่าการค้าชายแดนสูง จำนวน 10 แห่ง ใน 8 จังหวัด (เชียงราย ตาก หนองคาย นครพนม มุกดาหาร ตราด อุดรธานี และสงขลา) ซึ่งที่จังหวัดสงขลา ศูนย์ OSS มีจำนวน 2 แห่ง ณ ด่านศุลกากรสะเดาและด่านศุลกากรปาดังเบซาร์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนที่สามารถมาติดต่อขอรับบริการต่าง ๆ ได้ ณ จุดเดียว

โดยจากสถิติปี 2566 มีจำนวนผู้ใช้บริการศูนย์ OSS ณ ด่านศุลกากรสะเดา รวม 1,278 ราย แบ่งเป็น ด่านศุลกากรสะเดา 520 ราย ด่านอาหารและยา 322 ราย ด่านตรวจประมง 210 ราย ด่านตรวจพืช 71 ราย ด่านกักกันสัตว์ 136 ราย และด่านป่าไม้ 19 ราย

และในส่วนด่านศุลกากรปาดังเบซาร์ มีจำนวนผู้ใช้บริการ รวม 3,756 ราย แบ่งเป็น ศุลกากรปาดังเบซาร์ 289 ราย ด่านอาหารและยา 2,400 ราย ด่านตรวจประมง 210 ราย ด่านตรวจพืช 300 ราย ด่านกักกันสัตว์ 432 ราย ด่านตรวจสัตว์ป่า 114 ราย และด่านป่าไม้ 11 ราย

ด้านนายเผดิมเดช มั่งคั่ง นายด่านศุลกากรสะเดา กล่าวว่า ด่านศุลกากรสะเดาแห่งที่ 2 คาดว่าจะพร้อมเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการประมาณหลังเดือนตุลาคม 2568 เนื่องจากการก่อสร้างถนนของมาเลเซียจะแล้วเสร็จช่วงเดือนตุลาคม 2568 ส่วนฝั่งไทยจะเสร็จก่อนเดือนมิถุนายน 2568

ซึ่งตามแผนเมื่อฝั่งชายแดนไทยเปิดให้บริการ ฝั่งมาเลเซียก็ยังเปิดให้บริการ ดังนั้นจะเป็นทางเลือกให้กับนักท่องเที่ยวและอำนวยความสะดวกให้กับผู้เดินทางผ่านชุมชนด่านนอก เนื่องจากรถสินค้าจะวิ่งผ่านเส้นทางใหม่

ทั้งนี้ การเตรียมเปิดด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่ กรมศุลกากรได้ดำเนินการก่อสร้างบนเนื้อที่ 596 ไร่ 1 งาน 18 ตารางวา เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2559 วงเงินทั้งสิ้น 1,532.7 ล้านบาท ประกอบด้วย อาคารสำนักงาน อาคารตรวจปล่อยสินค้า อาคารผู้โดยสารและยานพาหนะ อาคารพักอาศัย และส่วนประกอบ โดยก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2562

สำหรับภาพรวมการค้าชายแดนและผ่านแดนไทย-มาเลเซีย ปี 2567 (ม.ค.-มิ.ย.) มีมูลค่าการค้ารวม 296,810 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.41% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็น การส่งออก 171,900 ล้านบาท (+8.89%) และการนำเข้า 124,910 ล้านบาท (-9.31%) โดยไทยได้ดุลการค้า 46,990 ล้านบาท

การค้าชายแดนและผ่านแดนของด่านศุลกากรสะเดา ปี 2567 (ม.ค.-มิ.ย.) มีมูลค่าการค้ารวม 214,411 ล้านบาท ลดลง 3.51% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็น การส่งออก 112,761 ล้านบาท (+10.40%) และการนำเข้า 101,650 ล้านบาท (-15.35%) โดยไทยได้ดุลการค้า 11,111 ล้านบาท

มีสินค้าส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ น้ำยางข้น เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่าง ๆ ถุงมือยาง ยางธรรมชาติที่กำหนดไว้ทางเทคนิค แผงวงจรไฟฟ้า ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ ไม้แปรรูป แผงสวิตช์และแผงควบคุมกระแสไฟฟ้า ไม้อัด และผลิตภัณฑ์ยางอื่น ๆ

ขณะที่การค้าชายแดนและผ่านแดนของด่านศุลกากรปาดังเบซาร์ ปี 2567 (ม.ค.-มิ.ย.) มีมูลค่าการค้ารวม 78,554 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.77% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็น การส่งออก 55,960 ล้านบาท (+7.21%) และการนำเข้า 22,594 ล้านบาท (+39.08%) โดยไทยได้ดุลการค้า 33,365 ล้านบาท

มีสินค้าส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ ยางธรรมชาติที่กำหนดไว้ทางเทคนิค ไม้แปรรูป ผลิตภัณฑ์ยางอื่น ๆ ยางแผ่นรมควัน ชั้นที่ 3 ส่วนประกอบและอุปกรณ์อื่น ๆ น้ำยางข้น ส่วนประกอบและอุปกรณ์รถยนต์นั่ง เครื่องตัดต่อและป้องกันวงจรไฟฟ้า ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ เครื่องจักรที่ใช้กรองแยกของเหลวหรือก๊าซ