“พิชัย” เปิดยุทธศาสตร์การค้า-ส่งออก พาธุรกิจไทยบุกตลาดโลก

พิชัย นริพทะพันธุ์

“พิชัย” รมว.พาณิชย์ เปิดยุทธศาสตร์การค้า-ส่งออก บนเวทีสัมมนาใหญ่สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ประกาศฟื้นการส่งออกกลับมาบวก เศรษฐกิจไทยต้องโตสวนกระแสโลก พานักธุรกิจไทยบุกตลาดโลกให้ได้

วันที่ 17 กันยายน 2567 นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “ยุทธศาสตร์การค้าและการส่งออกไทย” ในงานสัมมนาใหญ่สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ประจำปี 2024 และงานพิธีมอบรางวัลสมาคมการค้าดีเด่นประจำปี 2567 ว่าต้องทำให้เศรษฐกิจไทยโต สวนทางกับเศรษฐกิจโลกให้ได้

หนึ่งในนโยบายของกระทรวงพาณิชย์ คือการเร่งทำหน้าที่ปรับโครงสร้างส่งออกให้ทันสมัย เพราะการส่งออกเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะสินค้าส่งออกของไทยจะต้องเป็นสิ่งที่โลกต้องการ ผลิตตามความต้องการของโลก เพราะปัจจุบันสินค้ามีความล้าสมัย การฟื้นการส่งออกที่เคยติดลบจะต้องกลับมาเป็นบวกให้ได้ จากนี้ไทยจำเป็นที่ต้องเร่งสร้างธุรกิจและสินค้าส่งออกใหม่ในอุตสาหกรรมใหม่ที่มีศักยภาพอย่าง New S-Curve เช่น อุตสาหกรรม PCB เพราะเชื่อว่าเป็นอุตสาหกรรมที่สามารถดึงเม็ดเงินลงทุนเข้ามาได้สูงถึง 1 ล้านล้านบาท

นอกจากนี้ ยุทธศาสตร์การค้ายังต้องอาศัยเรื่องความตกลงการค้าเสรี (FTA) การใช้ประโยชน์จากเรื่องนี้จะทำให้ไทยได้เปรียบในความตกลงกับหลาย ๆ ประเทศ การเจรจา FTA ที่ค้างคาอยู่จะต้องเร่งดำเนินการให้เสร็จ

ในขณะที่การเจรจาใหม่ ๆ ก็ต้องเกิดขึ้นด้วยเช่นกัน เพื่อนำไปสู่การผลักดันให้มีปริมาณการส่งออกที่เพิ่มมากขึ้น รวมถึงผลักดันและส่งเสริมศักยภาพผู้ประกอบการไทยตามกติกาใหม่ของโลก ทั้งสร้างความรู้ความเข้าใจให้แก่ผู้ประกอบการรายเล็ก และเตรียมความพร้อมให้ดำเนินธุรกิจสอดรับกับกฎกติกาใหม่ ๆ ของโลก เช่น Carbon Credit

เพราะการแข่งขันกับโลก ผู้ประกอบการไทยจำเป็นต้องพัฒนากระบวนการผลิต คำนึงถึงเรื่องสิ่งแวดล้อม SDG และสร้างสินค้าแบรนด์ไทยที่สอดคล้องกับมาตรฐานความยั่งยืน ซึ่งเป็นการสร้างความแข็งแกร่งของธุรกิจใหม่ ควบคู่กับการพานักธุรกิจไทยไปบุกต่างประเทศ เพราะอยากเห็นนักธุรกิจไทยเข้มแข็งขยายธุรกิจไปในต่างประเทศได้

Advertisment

ขณะเดียวกัน ไทยยังสามารถใช้ยุทธศาสตร์ในเรื่องของ Soft Power เข้ามาเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการส่งออกได้เช่นกัน ด้วยการสร้าง Story ใช้สินค้ามาเชื่อมโยงกับภาคบริการ เช่น ร้านอาหาร ภาพยนตร์ และการท่องเที่ยว ในขณะเดียวกัน จะต้องแก้ไข ปรับปรุง พัฒนา ด้านการค้าชายแดน โดยเฉพาะพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญอย่าง หนองคาย แม่สาย และสะเดา

“จะพยายามทำให้ดีที่สุดหลังได้รับหน้าที่ตรงนี้ วันนี้กระทรวงพาณิชย์จะช่วยภาคเอกชนอย่างเต็มที่ พาภาคเอกชนไปสู่ความสำเร็จ ซึ่งทุกวันนี้โลกเปลี่ยนเร็วมาก ต้องปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของโลก มีสิ่งที่ต้องระวังหลายเรื่อง เช่น 1.เรื่องการใช้ระบบ AI ในทางที่ผิด 2.เรื่องสภาวะอากาศที่แรงสุดขั้ว และเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว 3.การแบ่งขั้วแบ่งฝ่ายของโลก เช่น รัสเซีย-ยูเครน 4.เรื่อง Cyber Security ที่เป็นปัญหามากขึ้น

Advertisment

5.ความขัดแย้งระหว่างประเทศที่เป็นวงกว้างขึ้น 6.เรื่องโอกาสทางเศรษฐกิจ รัฐต้องช่วยให้คนจนไม่ตาย ต้องให้คนได้มีโอกาสทางเศรษฐกิจ 7.เรื่องเงินเฟ้อ 8.เรื่องการบังคับให้โยกย้ายถิ่นฐาน 9.เรื่องเศรษฐกิจที่ตกต่ำ ปีนี้เศรษฐกิจโลกไม่ค่อยดี การเจริญเติบโตทั้งโลกเฉลี่ย 2% ต้องทำให้เศรษฐกิจไทยโตสวนเศรษฐกิจโลกให้ได้ และ 10.เรื่องมลภาวะ”

สำหรับทิศทางและนโยบายของกระทรวงพาณิชย์ผ่านกรอบ 10 นโยบายสำคัญ ในการช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส ประกอบด้วย

1.นโยบายลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส ที่เป็นนโยบายของพรรคเพื่อไทย ลดรายจ่ายให้ประชาชน เพิ่มรายได้และให้โอกาสกับประชาชนเพิ่มขึ้น โดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย เพราะโลกเปลี่ยนแปลงเร็ว

2.การบริหารให้เกิดความสมดุลระหว่างผู้บริโภค เกษตรกร และผู้ประกอบการ ให้ทุกฝ่ายอยู่ได้ ถ้าคนรายได้ดีก็สามารถซื้อของแพงได้

3.การทำงานเชิงรุกระหว่างพาณิชย์จังหวัดและทูตพาณิชย์ เชื่อมโยงสินค้าของแต่ละจังหวัดไปยังต่างประเทศผ่านทูตพาณิชย์ เราจะดำเนินการอย่างไม่มีรอยต่อ นำสินค้าไทยขายในตลาดโลกได้อย่างรวดเร็ว

4.การแก้ข้อจำกัดของกฎหมาย ปรับปรุงข้อกฎหมายที่ล้าสมัย รัฐบาลมุ่งหวังที่จะตัดปัญหาข้อกฎหมายให้ทำงานได้คล่องขึ้น เร่งแก้ไขสิ่งที่เป็นอุปสรรค โดยเฉพาะการค้าออนไลน์ที่โตขึ้นเรื่อย ๆ

5.ร่วมขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจฐานราก โดยที่ความสำเร็จรัฐบาลวัดจากที่ว่าเราช่วยคนลำบากได้ขนาดไหน ต้องมองคนข้างหลังแล้วเดินไปด้วยกัน คนระดับล่างต้องอยู่ได้ มีความเป็นอยู่ที่ดี

6.เร่งผลักดันการส่งออกให้ตัวเลขเป็นบวกขึ้น ปีนี้โชคดี 7-8 เดือนแรกการส่งออกเติบโตถึง 3.8% แต่จะทำอย่างไรให้ขยายโตต่อไป สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) บอกว่าการส่งออกไทยยังมีแนวโน้มที่จะขยายตัวได้อีก เดือนล่าสุด (ก.ค. 67) การส่งออกไทยโตถึง 15.2% หวังว่าเราจะสามารถรักษาการเติบโตของการส่งออกต่อไปได้

7.การเร่งเจรจา FTA เป็นเรื่องที่จำเป็น ที่กระทรวงพาณิชย์จะเร่งเดินหน้า FTA ปีนี้ ไทย-เอฟต้า (EFTA) น่าจะสำเร็จ ซึ่งเอฟต้าประกอบด้วยสมาชิก 4 ประเทศ สวิตเซอร์แลนด์ นอร์เวย์ ไอซ์แลนด์ และลิกเตนสไตน์
และจะเร่งเจรจา FTA ไทย-อียู ให้สำเร็จ พร้อมผลักดันใช้ประโยชน์ FTA อย่างเต็มที่

8.พานักธุรกิจไทยไปบุกต่างประเทศ ซึ่งภาครัฐกับเอกชนต้องร่วมมือกัน

9.ปรับโครงสร้างการส่งออกให้ทันสมัย ที่ผ่านมาเรากินบุญเก่า ต้องหาธุรกิจใหม่ ๆ เช่น เรื่อง PCB (แผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์) ต้องเร่งให้เกิดมากขึ้น ปีที่แล้วมีการลงทุนแล้วกว่า 150,000 ล้านบาท และวันที่ 25-29 กันยายนนี้ จะมี International Live Commerce Expo 2024 พาอินฟลูฯจากจีนมาไลฟ์ขายสินค้าไทย และเรื่องการค้ากับจีนจะร่วมมือกัน การขายสินค้าต้องมีมาตรฐาน มี มอก. อย. เราต้องทำดีกับทุกประเทศ ให้มีการลงทุนจากจีนและอเมริกามาไทยเยอะ ๆ และกับอินเดียก็เป็นโอกาสการค้าและการลงทุน

10.ต้องส่งเสริมสินค้าที่รักษ์โลก เพราะปัญหาโลกร้อนจะเพิ่มขึ้นเร็ว ๆประเทศไทยกำลังจะเทรดคาร์บอนเครดิต

“ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่กระทรวงพาณิชย์อยากทำและอยากเห็น เรามีหน้าที่ช่วยพวกท่าน ให้พวกท่านสามารถประสบความสำเร็จ กรอบคิดของเราคือซัพพอร์ต ทำอย่างไรให้พวกท่านรวยขึ้น นำเงินเข้ามาประเทศเยอะ ๆ พัฒนาประเทศเยอะ ๆ จ่ายภาษีเยอะ ๆ เพื่อนำเงินมาพัฒนาประเทศ กระทรวงพาณิชย์พร้อมยินดีต้อนรับทุกท่าน พร้อมเปิดกว้าง พร้อมรับฟังทุกความเห็นทุกข้อเสนอที่จะช่วยสร้างโอกาสให้กับคนไทยทุกคน”