นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย (อีคอนไทย) เปิดเผยว่า กรณีการส่งออกของไทย เดือนมกราคม 2562 มีมูลค่า 18,994 ล้านเหรียญสหรัฐ ติดลบอยู่ที่ 5.7% มีปัจจัยหนึ่งเกิดจากราคาน้ำมันโลกที่ลดลง จึงกระทบต่อราคาสินค้าที่เกี่ยวข้องกับน้ำมัน โดยส่วนตัวไม่เห็นด้วย และไม่ทราบว่า มีการนำข้อมูลใดมาใช้ในการอ้างอิง อย่างไรก็ตาม แม้ว่าไทยจะเป็นผู้ส่งออกน้ำมัน แต่มีสัดส่วนอยู่ที่ 5% ของการส่งออกทั้งหมด ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนที่น้อยมาก อีกทั้ง การส่งออกน้ำมันดังกล่าวอยู่ในส่วนของ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ซึ่งไม่น่าจะมีนัยยะที่เกี่ยวพันกับการส่งออก แต่เป็นการสะท้อนให้เห็นว่า ราคาน้ำมันที่ลดลง เนื่องจากเศรษฐกิจโลกเกิดการชะลอตัว
นายธนิต กล่าวว่า ส่วนเรื่องค่าเงินบาทที่แข็งค่านั้น มีการพูดอย่างต่อเนื่อง แต่ต้องยอมรับว่า ปัญหานี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะกับประเทศไทยประเทศเดียว เกิดขึ้นทั่วทั้งภูมิภาค แต่บังเอิญว่าของไทยแข็งค่ากว่าประเทศอื่น ทั้งนี้ อย่าลืมว่าเวลาทำการซื้อขาย จะใช้อัตราแลกเปลี่ยนเป็นต่อเหรียญสหรัฐ ซึ่งส่งผลต่อผู้ส่งออกที่มีต้นทุนเป็นเงินบาท และเมื่อเทียบกับอัตราแลกเปลี่ยนต่อเหรียญสหรัฐแล้ว ทำให้ผู้ส่งออกมีรายได้ลดลงอยู่ที่ ประมาณ 2%
- “มะพร้าว” ราคาพุ่งเป็นประวัติการณ์ ลูกเดียว 65-80 บาท เกิดอะไรขึ้น?
- บริษัทดังประกาศปิดกิจการ ทุกสาขาทั่วประเทศ เลิกจ้างหลายชีวิต
- หุ้นกู้ออกใหม่ 12 บริษัทดัง เปิดขายเดือน พ.ค.นี้ ชูดอกเบี้ยสูงสุด 7.20%
“ปี 2562 เป็นปีที่หนักหน่วงสำหรับการส่งออก ด้วยหลายปัจจัยที่เข้ามากระทบ แต่ขณะที่ของไทยมีผลพวงจากเศรษฐกิจในประเทศร่วมด้วย เนื่องจากอยู่ในระหว่างการเลือกตั้ง ซึ่งส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน” นายธนิต กล่าว
นายธนิต กล่าวว่า มองว่าการส่งออกปี 2562 ไม่สามารถโตได้ถึง 8% ตามที่รัฐบาลตั้งเป้าไว้ แค่ 4% จะถึงหรือไม่ ซึ่งส่วนตัวก็ไม่ทราบว่า นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ใช้ข้อมูลส่วนใดในการอ้างอิง โดยเป้าการส่งออกนี้ ควรจะเป็นเป้าที่มีความท้าทาย ไม่ใช่เป็นเป้าที่คุณตั้งแล้วคุณไม่คิดจะทำให้ถึงเป้า เพียงแต่ว่าตอนตั้งเป้านั้นมันดูเท่ ส่วนในอีก 10 เดือนข้างหน้า จะเป็นอย่างไร ค่อยไปว่ากันใหม่ และเมื่อถึงเวลานั้น ไม่สามารถทำให้ถึงเป้าที่ตั้งไว้ได้ ก็โทษนั่นโทษนี่
ที่มา มติชนออนไลน์
