หอการค้า หวั่นปิดประเทศ สะเทือนธุรกิจ 2.4 แสนล้าน

ธนวรรธน์ เผยหากปิดประเทศโอกาสกระทบเศรษฐกิจเสียหายต่อเดือนถึง 2.4 แสนล้านบาท ส่วน สอท. เร่งรัฐสร้างความเชื่อมั่นเพื่อให้เกิดการจับจ่ายสินค้ากลับมา

นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า หากรัฐบาลประกาศปิดประเทศเพื่อป้องกันการระบาดไวรัสโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นอย่างรุนแรง คาดว่าจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยเสียหายมูลค่าเดือน 240,000 ล้านบาท หรือ 8,000 ล้านบาทต่อวัน แบ่งเป็นความเสียหายจากนักท่องเที่ยวที่ไม่สามารถเข้ามาในประเทศไทยคิดเป็นมูลค่า 180,000 ล้านบาท หรือ 6,000 ล้านบาทต่อวัน และผลกระทบจากค้าชายแดนต้องหยุดชะงักลง 60,000 ล้านบาทต่อเดือน หรือ 2,000 ล้านบาทต่อวัน

อย่างไรก็ตาม นโยบายจะปิดประเทศหรือไม่ปิดประเทศนั้นก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของรัฐบาล และต้องให้ความสำคัญต่อความปลอดภัยของชีวิตของประชาชนมากกว่าเศรษฐกิจ ทั้งนี้ คงต้องติดตามว่าสถานการณ์การระบาดไวรัสโควิดในไทยจะก้าวกระโดดเหมือนกับมาแลเซีย และฟิลิปินส์ หรือในยุโรปหลายประเทศที่ได้ประกาศปิดประเทศไปก่อนหน้านี้หรือไม่ ถ้าหากมีคนติดเชื้อแบบก้าวกระโดดก็น่าเป็นห่วง

ในส่วนของไทยสถานการณ์ไม่รุนแรงถึงขั้นระดับ 5 เหมือนกับหลายประเทศ ดังนั้นหากรัฐบาลจะปิดประเทศหรือไม่ปิดในตอนนี้ก็อยากให้เห็นความสำคัญของชีวิตประชาชนเป็นหลัก แต่ปัญหาในบ้านเราตอนนี้ไม่ใช่เชื้อมาจากต่างประเทศสู่คนไทยแล้ว แต่เป็นการขยายเชื้อจากคนไทยสู่คนไทยแล้ว และขณะนี้ ทำอย่างไรที่จะให้ชะลอการติดเชื้อ และการดำเนินการของรัฐบาลจากนี้ก็ต้องเตรียมการรับมือด้วยเมื่อทุกอย่ฟื้นตัวและกลับมาปกติ

ด้าน นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า เอกชนเสนอให้ภาครัฐเพิ่มมาตรการความเชื่อมั่นการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เพื่อให้เกิดการใช้จ่ายในประเทศเพิ่มขึ้น

นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ รองประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การปิดประเทศหรือนั้นมองว่าปัจจุบันเสมือนเป็นการปิดประเทศอัตโนมัติอยู่แล้ว เห็นได้จากต่างประเทศประกาศปิดด่านพรหมแดน ทั้งสหรัฐ ยุโรป เป็นต้น ไม่ให้มีการเดินทางและเลี่ยงออกจากบ้าน ซึ่งเป็นการปิดการเดินทางทั้งภายในประเทศและต่างประเทศโดยอัตโนมัติ แต่หากไทยจะปิดประเทศต้องดูด้วยว่าจะปิดอย่างไร มาตรการปัจจุบันที่ให้ปิดสถานบริการ สถานบันเทิง 14 วัน และให้ประชาชนดูแลตัวเอง ลดการเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยง เป็นการดำเนินการที่เหมาะสม

“การปิดประเทศเลยมองว่าประเทศไทยยังทำไม่ได้เราอยู่ตัวคนเดียวไม่ได้ เพราะเรายังต้องพึ่งพอภายนอกอยู่ เราต่างจากประเทศจีนที่สามารถพึ่งพาตนเองได้ทั้งการบริโภค การผลิต การท่องเที่ยว อย่างไรก็ดี ประเทศไทย ทำอย่างไรที่จะชะลอปัญหาไวรัสและฟื้นตัวกลับมาให้ได้เร็วที่สุดซึ่งเป็นสิ่งสำคัญ”