เผย “ยอดค้าชายแดน” 5 เดือน วูบเกือบ 10% ด่านมาเลเซียร่วง 30%

ด่านศุลกากรปาดังเบซาร์
ด่านศุลกากรปาดังเบซาร์ ภาพ: padangbesar.customs.go.th

เผยสถิติมูลค้าการค้าขายสินค้าชายแดน 5 เดือนแรกของปี 2563 ดิ่งลงเกือบ 10% ขณะที่ชายแดนมาเลเซีย ซึ่งเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่ง ลดลงกว่า 30% หวังการเปิดด่านเพิ่ม 12 จุดช่วยดันยอด

กรมการค้าต่างประเทศ เผยสถิติการค้าชายแดน-ผ่านแดน 5 เดือนแรกของปี 2563 มูลค่ารวมทั้งสิ้น 524,357 ล้านบาท ดิ่งลง 9.71% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 ด้านการค้าชายแดนมาเลเซียยังครองแชมป์ ส่วนการค้าผ่านแดนจีนยังคงเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่ง และพร้อมผลักดันให้มีการเปิดด่านชายแดนเพิ่มเติม

นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า สถิติการค้าชายแดนและผ่านแดนของไทย ปี 2563 (ม.ค.-พ.ค.) มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 524,357 ล้านบาท (ลดลง 9.71%) เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นการส่งออก 305,725 ล้านบาท (ลดลง 9.03%) และการนำเข้า 218,632 ล้านบาท (ลดลง 10.65%) ทำให้ไทยเกินดุลการค้า 87,093 ล้านบาท

สำหรับการค้าชายแดน 4 ประเทศ ในช่วง ม.ค.-พ.ค. 63 พบว่า มาเลเซียเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่ง มีมูลค่าการค้ารวม 87,854 ล้านบาท (ลดลง 32.43%) รองลงมาคือ สปป.ลาว มูลค่า 77,172 ล้านบาท (ลดลง 6.59%) เมียนมา มูลค่า 73,740 ล้านบาท (ลดลง 10.96%) และกัมพูชา มูลค่า 70,872 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 5.20%) เรียงตามลำดับ

ทั้งนี้ สินค้าส่งออกที่สำคัญของไทยไปมาเลเซีย ได้แก่ ยางพารา เครื่องคอมพิวเตอร์ และแผงวงจรไฟฟ้า สปป.ลาว ได้แก่ น้ำมันดีเซล สินค้าปศุสัตว์อื่นๆ และสินค้าแร่และเชื้อเพลิงอื่นๆ เมียนมา ได้แก่ เครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ น้ำมันดีเซล และปูนซีเมนต์ และกัมพูชา ได้แก่ เครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ สินค้าปศุสัตว์ และรถยนต์นั่ง เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม กรมการค้าต่างประเทศ ยอมรับว่าการค้าชายแดน-ผ่านแดนการค้า การส่งออกจะลดลงเนื่องจากปัญหาของโควิด-19 มีผลต่อการขนส่งและการปิดด่านเป็นจำนวนมาก ทำให้การค้า การส่งออกลดลง แต่เชื่อว่าหลังจากนี้สถานการณ์ดีขึ้นคาดว่าด่านชายแดนต่างๆน่าจะพิจารณาเปิดเพิ่มเติม ซึ่งคดาว่าจะทำให้การค้าชายแดนขยายตัวได้เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน

ทั้งนี้ ซึ่งกรมการค้าต่างประเทศ จะเร่งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการผลักดันเรื่องนี้ต่อไป รวมไปถึงกิจกรรมส่งเสริมการค้าชายแดนที่ปรับรูปแบบใหม่ทำการค้าออนไลน์มากขึ้น เพราะต้องยอมรับว่าจากปัญหาทำให้กรมฯไม่สามารถจัดกิจกรรมรุปแบบเดิมได้ แม้หากจะดำเนินการจัดแต่ด่านไม่เปิดการค้าชายแดนก็ทำได้อยากลำบากเนื่องจากคนยังไม่สามารถเดินเข้า-ออกได้ ซึ่งปัจจุบันมีเพียงการขนส่งสินค้าผ่านแดนได้เท่านั้น

นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ
นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ

ตัวเลข “การค้าผ่านแดน”

ขณะที่ การค้าผ่านแดน ในช่วง ม.ค.- พ.ค. 63 พบว่า จีนเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่งมีมูลค่าการค้ารวม 90,740 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 15.74%) โดยสินค้าที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ ผลไม้สดฯ ยางพารา และเครื่องคอมพิวเตอร์ฯ รองลงมา คือ สิงคโปร์ มูลค่า 36,102 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 20.83%) โดยสินค้าที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ เครื่องยนต์สันดาปฯ เครื่องคอมพิวเตอร์ฯ และแผงวงจรไฟฟ้า เวียดนาม มูลค่า 24,697 ล้านบาท (ลดลง 26.71%) โดยสินค้าที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ อุปกรณ์กึ่งตัวนำฯ ผ้าผืนและด้าย และรถยนต์ฯ ประเทศอื่นๆ มูลค่า 63,180 ล้านบาท (ลดลง 16.85%) ตามลำดับ

ส่วนสถานการณ์การค้าชายแดนและผ่านแดนทั่วประเทศยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตั้งแต่ต้นปี 2563 ส่งผลให้มีการปิดจุดผ่านแดนของไทยทั่วประเทศทั้งหมด จากจำนวน 97 จุด เหลือเพียง 28 จุด ซึ่ง คต. ได้มีส่วนร่วมในการผลักดันให้มีการเปิดจุดผ่านแดนเพิ่มเติม 9 จุด

นอกจากนี้ จากการลงพื้นที่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นที่จังหวัดสงขลา เพื่อติดตามและผลักดันการค้าให้ไทยส่งออกสินค้าได้ทุกประเภท จากเดิมที่ให้เฉพาะสินค้ายางพาราและผลิตภัณฑ์ยางพาราเท่านั้น โดยผ่านระบบรางต่อรางและรถต่อราง และลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อผลักดันการเปิดจุดผ่อนปรนการค้าบ้านนาหินโหง่น อำเภอนาตาล จังหวัดอุบลราชธานี ในการอำนวยความสะดวกทางการค้าให้กับผู้ส่งออกของไทย-สปป.ลาว

โดยเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2563 รัฐบาลได้ออกข้อกำหนดตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 11) ข้อ 5 ผ่อนผันการใช้ช่องทางเข้ามาในราชอาณาจักรเฉพาะเพื่อการขนส่งสินค้า เพื่อบรรเทาผลกระทบและขับเคลื่อนเศรษฐกิจการค้าชายแดนให้ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจารณาเปิดช่องทางเข้าออกด่านจุดผ่านแดนหรือจุดผ่อนปรนในพื้นที่รับผิดชอบ เฉพาะเพื่อการนำเข้าส่งออกสินค้าผ่านแดนได้ตามความจำเป็น โดยต้องมีมาตรการป้องกันโรคและกำกับการปฏิบัติเพื่อให้เป็นไปตามกฎ ระเบียบ และเงื่อนไขที่ทางราชการกำหนดอย่างเคร่งครัด โดยเริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2563

ปัจจุบันมีการเปิดจุดผ่านแดน ณ วันที่ 7 กรกฎาคม 2563 จำนวน 12 จุด ดังนี้

ไทย-มาเลเซีย จำนวน 4 จุด

1. จุดผ่านแดนถาวรด่านบ้านประกอบ จ.สงขลา

2. จุดผ่านแดนถาวรด่านบูเก๊ะตา จ.นราธิวาส

3. จุดผ่านแดนถาวรปาดังเบซาร์ จ.สงขลา

4. จุดผ่านแดนถาวรด่านตากใบ จ.นราธิวาส

ไทย-เมียนมา จำนวน 6 จุด

1. จุดผ่านแดนถาวรบ้านพุน้ำร้อน จ.กาญจนบุรี

2. จุดผ่อนปรนพิเศษด่านสินขร จ.ประจวบคีรีขันธ์

3. จุดผ่อนปรนการค้าช่องทางบ้านห้วยต้นนุ่น จ.แม่ฮ่องสอน

4. จุดผ่อนปรนการค้าบ้านห้วยผึ้ง จ.แม่ฮ่องสอน

5. จุดผ่อนปรนการค้าบ้านแม่สามแสบ จ.แม่ฮ่องสอน

6. จุดผ่อนปรนทางการค้าด่านพระเจดีย์สามองค์ (จุดผ่านแดนชั่วคราวเพื่อการท่องเที่ยว) จ.กาญจนบุรี

ไทย-สปป.ลาว จำนวน 1 จุด

1. จุดผ่อนปรนการค้าบ้านใหม่ชายแดน อ.สองแคว จ.น่าน

ไทย-กัมพูชา จำนวน 1 จุด

1. จุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี