หมูแพง พาณิชย์ลุยเช็กสต๊อกหมูในโรงเย็น เขตกรุงเทพฯ

พาณิชย์ลงพื้นที่ตรวจสอบห้องเย็นเขตกรุงเทพฯ เช็กสต๊อกหมู ซึ่งเป็นไปตาม กกร. ที่มีมติให้เอกชนรายงานสต๊อกหมูทุก 7 วัน

วันที่ 20 มกราคม 2565 นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยระหว่างลงพื้นที่เพื่อสอบภาวะราคาและปริมาณสุกร ณ ห้องเย็น บริษัท พิชชามีท กรุ๊ป จำกัด เขตมีนบุรี กรุงเทพฯ พร้อมด้วย พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายอาวุธ วงศ์สวัสดิ์ รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เจ้าหน้าที่กรมการค้าภายใน และเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ว่า

ทั้งนี้ การลงพื้นที่นั้นเป็นตามที่คณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) กำหนดให้ผู้เลี้ยงหมูรายใหญ่ ตั้งแต่ 500 ตัวขึ้นไป และผู้ครอบครองหรือห้องเย็นที่มีสต๊อกหมู ตั้งแต่ 5,000 กิโลกรัมขึ้นไป แจ้งปริมาณ และราคาทุก 7 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 10 ม.ค.นี้เป็นต้นไป เพื่อดูแลปริมาณหมูและสต๊อกหมูที่มีอยู่ทั้งประเทศ

ตนจึงได้นำคณะลงพื้นที่ตรวจสอบปริมาณหมูที่บริษัท พิชชามีท กรุ๊ป จำกัด ซึ่งเป็นห้องเย็นขนาดกลาง รองรับได้ 50 ตัน ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า มีสต๊อกเข้าออกทุกวัน โดยจะมีการรับส่งเนื้อหมูตามออร์เดอร์ และจะไม่เก็บไว้นาน เพื่อรักษาคุณภาพไม่ให้ลดลง และอาจศูนย์เสียน้ำหนักลงไปได้

สำหรับหมูแช่แข็งก็จะมีการจัดส่งตามออร์เดอร์ไปยังร้านอาหารต่าง ๆ เช่น หมูสไลด์ หมูสำหรับทำสเต๊ก เป็นประจำทุกวัน สำหรับปริมาณสต๊อกหมูชำแหละทั่วประเทศที่ได้รับแจ้ง ตามประกาศ กกร. ณ วันที่ 17 ม.ค. 65 มีปริมาณรวม 8,352 ตัน

สำหรับข่าวที่ว่ามีการเก็บสต๊อกหมูเป็นจำนวนมาก ของห้องเย็นขนาดกลางและใหญ่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ ได้สั่งการให้พาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัดบูรณาการกับจังหวัดออกตรวจสอบ หากตรวจแล้วพบว่าไม่แจ้งปริมาณ จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท และปรับอีกวันละ 2,000 บาท ตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืนหรือจนกว่าจะแจ้ง หรือทั้งจำทั้งปรับ

และหากพบเห็นว่ามีการกักตุนจะมีโทษตามมาตรา 29 แห่ง พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ซึ่งมีโทษจำคุก 7 ปีปรับ 140,000 บาทหรือทั้งจำและปรับ ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็นการกักตุนหรือจำหน่ายสินค้าในราคาที่ไม่เป็นธรรม สามารถแจ้งได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ