กระทรวงพลังงานจ่อขึ้น LPG ขยักแรก 15 บาท/ถัง

ภาพจาก แฟ้มภาพ

พลังงานจ่อถก “คลัง-สภาพัฒน์” จัดหาแหล่งเงินเสริมสภาพคล่องดูแลโครงสร้างพลังงานทั้งระบบ ก่อนขยับราคาก๊าซหุงต้ม(แอลพีจี) ขยักแรก 15 บาท/ถัง เดินหน้าอัดมาตรการช่วยเหลือบัตรสวัสดิการ 100 บ./ถัง

วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2565 นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า มาตรการดูแลก๊าซหุงต้ม(แอลพีจี) ภาคครัวเรือนที่ตรึงราคาก๊าซหุงต้มที่ 318 บาท/ถัง 15 กก.จะสิ้นสุดลงวันที่ 31 มี.ค. 2565 ทางกระทรวงพลังงานมีแนวทางปรับขึ้นแบบขั้นบันไดจากปัจจุบันอยู่ที่ 318 บาท/ถัง 15 กก.ขึ้นไป ขยักแรก 15 บาทอยู่ที่ 333 บาท/ถัง 15 กิโลกรัม และขยับระดับต่อไปอีก 30 บาท เป็น 363 บาท/ถัง 15 กก.

เพราะที่ผ่านมากระทรวงพลังงานอุดหนุนราคาก๊าซหุงต้มตั้งแต่เดือน มี.ค. 2563 จนถึงปัจจุบันใช้เงินกองทุนอุดหนุนไปแล้วกว่า 25,000 ล้านบาท จากราคาจริงปัจจุบันอยู่ที่ 432 บาท/ถัง 15 กก. ซึ่งการปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้มทุก 1 บาท/ถัง 15 กก. จะช่วยลดภาระการอุดหนุนกองทุนได้ประมาณ 270-280 บาท/เดือน

อย่างไรก็ตาม กระทรวงพลังงานจะยังคงมีมาตรการดูแลผู้มีรายได้น้อยในช่วงที่ราคาก๊าซหุงต้มทยอยขึ้นแบบขั้นบันได โดยกระทรวงการคลังยังคงอุดหนุนราคาก๊าซหุงต้มสำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิรการของรัฐ 13.5 ล้านคน เป็นเงิน 45 บาท/3 เดือนตามเดิม และกระทรวงพลังงานมีแนวคิดที่จะอุดหนุนอีก 55 บาท/3 เดือน รวมเป็นรัฐอุดหนุน 100 บาท/3 เดือน ซึ่งกระทรวงพลังงานต้องหาข้อสรุปเรื่องแหล่งเงินให้ได้ ภายในเดือน ก.พ.นี้

“กระทรวงการคลังเตรียมเงินช่วยเหลือแอลพีจีผ่านบัตรสวัสดิการไว้แค่เพียง 45 บาท/3 เดือน หากกระทรวงพลังงานจะช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยเพิ่มอีก 55 บาท/3 เดือน ต้องหาแหล่งเงินอื่นมาช่วย”

สำหรับแหล่งเงินที่จะนำมาช่วยจะมาจากแหล่งเงินกู้จากสถาบันการเงิน และเงินงบประมาณ เพื่อใช้ดูแลทั้งราคาแอลพีจีและน้ำมันด้วย เพิ่มเติมจากที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติวงเงินให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงกู้ 20,000 ล้านบาท ภายใต้กรอบวงเงินที่ ครม.ให้ไว้ 30,000 ล้านบาท

โดยจากนี้กระทรวงพลังงานจะหารือสำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สภาพัฒน์ หรือ สศช.) เพื่อจัดหาแหล่งเงินเข้ามาเสริมสภาพคล่องในการดูแลโครงสร้างพลังงานทั้งระบบ