หอการค้าโรดโชว์ซาอุ ฟื้นลงทุนเปิดประตูส่งออกตะวันออกกลาง

 

“สนั่น” จับมือ กระทรวงการต่างประเทศ เตรียมจัดทัพหอการค้าลุยเปิดประตูการค้า-การลงทุน ซาอุฯ 26 ก.พ.นี้ สานต่อหลังนายกฯฟื้นสัมพันธ์รอบ 32 ปี พาณิชย์มั่นใจดันการค้าปี’65 โต 2.8 แสนล้านบาท

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2565 ได้เข้าพบรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ (นายดอน ปรมัตถ์วินัย)

เพื่อหารือถึงแผนการจัดคณะภาคเอกชน หอการค้า เพื่อเดินทางโรดโชว์เยือนประเทศซาอุดีอาระเบีย ในวันที่ 26 กุมภาพันธ์นี้ เป็นครั้งแรกภายหลังจากที่นายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา) ได้เดินทางเยือนเพื่อฟื้นความสัมพันธ์กับประเทศซาอุดีอาระเบียในรอบ 32 ปี เพื่อผลักดันการค้าและการลงทุนระหว่างกัน

รายงานข่าวระบุว่า มูลค่าการค้าไทย-ซาอุฯ ในปี 2564 เท่ากับ 2.3 แสนล้านบาท โดยไทยส่งออก 51,000 ล้านบาท และนำเข้า 1.8 แสนล้านบาท ทางเอกชนของไทยเล็งเห็นโอกาสขยายการค้า-การลงทุน

โดยได้มีการหารือกับทางอุปทูตมาแล้ว 2-3 ครั้ง ก่อนที่จะมีการจัดคณะเอกชนกลุ่มพิเศษ ซึ่งคาดว่าจะมีประมาณ 20-30 คน เข้าร่วมจากหลากหลายอุตสาหกรรม เพราะที่ผ่านมาสินค้าส่งออกไทยไปซาอุฯมีแนวโน้มเติบโตสูง ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์ยาง อัญมณีและเครื่องประดับ

เครื่องจักรกลและส่วนประกอบของเครื่องจักรกล อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป และผลไม้สดแช่เย็น แช่แข็งและแห้ง ส่วนสินค้านำเข้าจากซาอุฯที่มีแนวโน้มเติบโตสูง ได้แก่ น้ำมันดิบ เคมีภัณฑ์ น้ำมันสำเร็จรูป สินแร่โลหะอื่น ๆ เศษโลหะและผลิตภัณฑ์ แร่และผลิตภัณฑ์จากแร่ เครื่องใช้และเครื่องตกแต่งภายในบ้านเรือน และส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์

สอดคล้องกับที่ก่อนหน้านี้ นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยผลการศึกษาโอกาสการส่งออกสินค้าไปตลาดซาอุดีอาระเบีย หลังมีการฟื้นความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน ซาอุดีอาระเบีย

ซึ่งถือเป็นตลาดเก่าที่จะฟื้นฟูการส่งออกให้กลับมามีมูลค่าเพิ่มขึ้น ช่วยขับเคลื่อนให้ภาพรวมการส่งออกของไทยไปยังภูมิภาคตะวันออกกลางขยายตัวเพิ่มขึ้น หากมองในแง่เศรษฐกิจการค้า ทั้ง 2 ฝ่ายสามารถสร้างความร่วมมือได้ใน 5 ด้านหลัก ได้แก่ แรงงาน การลงทุน การท่องเที่ยว การค้า และอาหาร

ซึ่ง สนค.ประเมินว่า การกระชับความสัมพันธ์ฉันมิตรของทั้งสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการค้าทวิภาคี จะเป็นกลไกความร่วมมือที่สำคัญที่จะส่งเสริมเศรษฐกิจ เปิดประตูการค้า

และแสวงหาโอกาสในการลงทุนร่วมกัน จะเป็นการเพิ่มโอกาสทางการส่งออกไปตลาดซาอุฯ โดยคาดว่ามูลค่าการส่งออกของไทยไปซาอุฯจะสามารถกลับไปเหนือระดับ 100,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นระดับที่ไทยเคยมีมูลค่าการส่งออกไปซาอุฯสูงสุด (ปี 2557)

และคาดการณ์ว่า ในปี 2565 (ณ 1 ก.พ. 65) มูลค่าการค้ารวมระหว่างสองประเทศ จะอยู่ที่ประมาณ 280,336 ล้านบาท ขยายตัว 20.3% โดยการส่งออกจะมีมูลค่า 54,678 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 6.2 การนำเข้า จะมีมูลค่า 225,658 ล้านบาทขยายตัวร้อยละ 24.3 และขาดดุลการค้า 170,980 ล้านบาท