“เฉลิมชัย” ชี้ไม่ต้องนำเข้าหมู พร้อมส่งตลาด อ.ต.ก. กิโล 140 บาท

เนื้อหมู

เฉลิมชัยชี้อาจไม่จำเป็นต้องนำเข้าหมู ต้องพิจารณาความเหมาะสม มั่นใจอีกไม่นานราคากลับสู่ภาวะปกติเตรียมจำหน่ายหมูโครงการ “เกษตรช่วยประชาชนลดค่าครองชีพ” ในราคาถูกกว่าท้องตลาด เพียงกิโลกรัมละ 140 บาทตลาด อ.ต.ก. ระหว่างวันที่ 12 – 19 ก.พ. จนกว่าจะหมด

วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2565 นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวภายหลังเป็นประธานการแถลงข่าวเปิดตัวโครงการ “เกษตรช่วยประชาชนลดค่าครองชีพ” ว่า ความคืบหน้าสถานการณ์โรค African Swine Fever (ASF) หรือโรคอหิวาต์แอฟริกันในหมู มีการดำเนินการในการป้องกัน และมีการใช้กฎหมายมาตรการอื่น ๆ และสำรวจจำนวนสุกรทั้งหมดของประเทศ

เบื้องต้น ผลการสำรวจหาย เกษตรกรรายย่อยหยุดเลี้ยงไปประมาณ 10-12% ซึ่งยังมีปริมาณหมูอยู่ในระบบกว่า 90% ดังนั้น จำนวนปริมาณที่ลดลงไป รัฐบาลพยายามดูแลราคาหมูตามกลไกตลาด โดยพบว่าราคาเฉลี่ยปรับลดลงอยู่ที่ 180 บาท/กก. โดยปีนี้คาดว่าจะสามารถกลับมาผลิตได้ 20 ล้านตัน ซึ่งในรอบของการเลี้ยง แม่พันธุ์หมู 1 ตัว ภายใน 1 ปี จะได้ ประมาณ 2-5 รอบ มั่นใจว่าจากมาตรการที่กำหนดอย่างเข้มข้นในการที่จะฟื้นฟูผู้เลี้ยง การสำรวจการกักตุนจะไม่ทำให้ปริมาณขาดตลาดอีก

“การบริหารจัดการที่จะไม่ทำให้เนื้อหมูราคาสูงเกินไปยอมรับว่าต้องใช้เวลาในการที่จะให้แม่พันธุ์หมู จากปัจจุบันมีจำนวนพ่อพันธุ์เสียหายไปเป็นจำนวนมาก วันนี้ทางกรมปศุสัตว์ได้เตรียมพร้อมในการที่จะผสมเทียม ซึ่งจะมีความปลอดภัยมากกว่าและแม่นยำมากกว่า มั่นใจได้เลยว่าสถานการณ์จะดีขึ้นเรื่อย ๆ และใช้เวลา 1-2 รอบในการผลิตสุกรก็จะกลับเข้ามาสู่ภาวะปกติ”

สำหรับแนวทางการนำเข้าหมูนั้น จะมีการพิจารณาตามความเหมาะสม และความจำเป็น บนสมุมติฐานหากเกินกว่า 200 บาท/กก.อีก แต่หากสถานการณ์ยังอยู่ในสถานการณ์ปกติ ด้วยราคาปัจจุบันเฉลี่ยที่ 180 บาท/กก. และเป็นราคาที่ประชาชนรับได้ กรมปศุสัตว์ก็จะพิจารณาอาจจะไม่ต้องนำเข้าดังนั้น อยากจะขอความร่วมมือโบรกเกอร์ พ่อค้าแม่ค้า ร่วมมือกันเพื่อให้ราคากลับสู่สภาวะปกติให้เร็วขึ้น

นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต กล่าวว่า กรณีที่อาจมีการกักตุนสินค้าประเภทเนื้อสุกรเพื่อผลประโยชน์ทางการค้า โดยได้สั่งการให้กรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมเครือข่ายปฏิบัติงานเร่งตรวจสอบห้องเย็นเพื่อแก้ปัญหา ทุกหน่วยงานเกี่ยวข้องกำลังเร่งตรวจสอบห้องเย็นเพื่อกันการกักตุนซากสุกรทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง มีการตรวจพบซากสุกรรวมแล้ว 25 ล้านตัน

อย่างไรก็ดี จากสถานการณ์ราคาหมูแพง ซึ่งส่งผลกระทบต่อหลายภาคส่วน โดยเฉพาะกับประชาชนผู้บริโภค รวมไปถึงผู้ประกอบการร้านอาหาร ที่ต่างได้รับความเดือดร้อน จากปัญหาราคาเนื้อหมูที่ปรับตัวสูงขึ้น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมปศุสัตว์ และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.)

จึงได้จัดโครงการ “เกษตรช่วยประชาชนลดค่าครองชีพ” ที่กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 12 – 19 กุมภาพันธ์ 2565 หรือจนกว่าสินค้าจะหมด ณ ลานกิจกรรมตลาดริมน้ำ อ.ต.ก. เลียบคลองบางซื่อ ถ.พหลโยธิน เขตจตุจักร กทม. เพื่อเป็นการช่วยเหลือประชาชน ลดภาระค่าใช้จ่าย และบรรเทาความเดือดร้อนจากสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ด้วยการจัดจำหน่ายหมูเพื่อประชาชน ซึ่งเป็นหมูเนื้อแดง คุณภาพดี การันตีด้วยมาตรฐานปศุสัตว์ OK ในราคาถูกกว่าท้องตลาด เพียงกิโลกรัมละ 140 บาท ซึ่งจะนำมาจำหน่ายที่ตลาด อ.ต.ก. จำนวน 150,000 กิโลกรัม โดยกำหนดซื้อได้คนละไม่เกิน 5 กิโลกรัม เพื่อให้ทั่วถึงกันทุกคน

“กระทรวงเกษตรและสหกรณ์พร้อมบูรณาการร่วมกับทุกหน่วยงานและทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงพาณิชย์ และเครือข่ายภาคเอกชน เพื่อให้สถานการณ์ราคาหมูกลับมาสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด ซึ่งที่ผ่านมา กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ยังได้เดินหน้าในหลายกิจกรรม เพื่อช่วยเหลือประชาชนในสภาวะเศรษฐกิจฝืดเคือง อย่างเช่น โครงการร้านข้าวแกง 20 บาท ที่ได้เปิดตัวเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา


และเชื่อมั่นว่าโครงการ “เกษตรช่วยประชาชนลดค่าครองชีพ” จำหน่ายหมูราคาถูกเพื่อประชาชนในครั้งนี้ จะเป็นอีกหนึ่งโครงการ ที่ช่วยแบ่งเบาภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน ได้สามารถบริโภคหมูที่มีคุณภาพ ปลอดภัยในราคาที่เหมาะสมและเป็นธรรม”