มหาวิทยาลัยกรุงเทพได้สร้างนวัตกรรมการเรียนรู้ที่ไม่เคยมีมหาวิทยาลัยใดทำมาก่อน โดยเปิดโอกาสให้นักศึกษาออกแบบการเรียนการสอนวิชาศึกษาทั่วไป (General Education-GE) ในฐานะ Learning Designer (LD) และ Learning Experience Designer (LXD) ร่วมกับ “ครูพันธุ์ใหม่” ผู้ทำหน้าที่เป็นโค้ช
ผลสำเร็จจากการปฏิวัติการเรียนรู้ทุกหลักสูตรด้วยวิชา GE ส่งผลให้ ม.กรุงเทพได้รับการคัดเลือกให้เป็น 1 ใน 3 มหาวิทยาลัยเอกชนนำร่องโครงการสร้าง “บัณฑิตพันธุ์ใหม่” ของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) เพราะสามารถสร้างบัณฑิตที่มีทั้งทักษะชีวิต (soft skill)และทักษะวิชาชีพ (professional skill)
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- ยูโอบี ย้ำลูกค้าบัตรเครดิตซิตี้ ยังใช้งานได้ปกติ แจงสิ่งควรรู้หลังโอนพอร์ต
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
“เพชร โอสถานุเคราะห์” อธิการบดี ม.กรุงเทพ กล่าวว่า ความคิดริเริ่มที่เกิดขึ้นในวิชา GE ถูกต่อยอด และพัฒนาเป็นโมเดล iFIT (Individual Future Innovative Learning of Thailand) มีความหมายว่า เหมาะ หรือ Fit กับทุกความต้องการของนักศึกษา ม.กรุงเทพ โดยมุ่งมั่นสร้างโมเดลนี้ให้กลายเป็น Thailand model ภายใต้ปรัชญาการศึกษาเพื่อการเรียนรู้อย่างยั่งยืน และเป็นต้นแบบในระดับสากลสำหรับการสร้างทรัพยากรมนุษย์คุณภาพตอบรับโลกอนาคต
“เมื่อ สกอ.ริเริ่มโครงการสร้างบัณฑิตพันธุ์ใหม่ ม.กรุงเทพจึงนำเสนอโปรเจ็กต์ iFIT ที่เราทดลองทำจนเห็นผลลัพธ์มาเป็นระยะเวลาหนึ่ง ก่อนที่จะให้ สกอ.พิจารณา ซึ่งโมเดลการเรียนรู้แบบ personalizedlearning ฉบับ ม.กรุงเทพ จะปั้นบัณฑิตพันธุ์ใหม่ให้มี lifelong learningcompetency”
“รศ.ดร.ทิพรัตน์ วงษ์เจริญ” รองอธิการบดีอาวุโสด้านวิชาการ ม.กรุงเทพ ให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า iFIT เป็นรูปแบบการเรียนรู้ที่ตอบสนองความต้องการของนักศึกษาเป็นรายบุคคล เพราะ ม.กรุงเทพตระหนักดีว่า นักศึกษาแต่ละคนต่างมีความสามารถ ความสนใจ และความถนัดเฉพาะตัวที่ต่างกัน การออกแบบเส้นทางสู่อนาคตจึงไม่สามารถยึดรูปแบบการเรียนการสอนแบบที่ใช้กันในปัจจุบัน หรือแม้แต่การวัดผลก็ไม่สามารถใช้ข้อสอบชุดเดียวกันได้ ดังนั้น ต้องปฏิวัติรูปแบบการเรียนการสอนเพื่อให้เป็น personalized learning อย่างแท้จริง
นอกจากหลักสูตรต่าง ๆ จะตอบโจทย์ตลาดงานในอนาคตแล้ว ม.กรุงเทพยังผสมผสานศาสตร์และศิลป์อันหลากหลาย ทลายพรมแดนของคณะวิชา ปรับหลักสูตรและเปลี่ยนการนั่งเรียนเป็นการทำงานจริง รวมถึงเปลี่ยนการบ้านเป็นโปรเจ็กต์ระดับมืออาชีพ และเปลี่ยนตารางสอนเป็นช่วงเวลาของการแลกเปลี่ยนเรียนรู้โดยมีครูเป็นพี่เลี้ยง นอกจากนั้น จะเน้นการทำงานกลุ่ม และส่งเสริมการฝึกฝนทักษะที่หลากหลาย เพื่อเปิดโอกาสการเรียนรู้อย่างครีเอทีฟและฟรีสไตล์แบบ open platform
“วิธีนี้จะทำให้นักศึกษามีทั้งทักษะวิชาชีพเฉพาะทาง และทักษะวิชาชีพที่จำเป็นอื่น ๆ ส่งผลให้มีความเชี่ยวชาญรอบด้าน มีสมรรถนะเพียงพอต่อการรองรับอาชีพที่หลากหลาย เพราะโลกอนาคตเต็มไปด้วยความผันผวน ไม่มีใครสามารถการันตีได้ว่าอาชีพใดจะยั่งยืน การมีความรู้ความเชี่ยวชาญหลายด้านจึงจำเป็นต่อการดำรงชีวิตในอนาคตอย่างมาก”
“นักศึกษาใหม่ยังสามารถเลือกเรียนแทร็กพิเศษที่เปิดโอกาสให้ได้ค้นหาตัวเองก่อน แล้วค่อยเลือกเรียนคณะและสาขาวิชาในภายหลัง โดยสามารถเลือกเรียนวิชาที่จำเป็นต่อการพัฒนาทักษะสำหรับอาชีพการงานที่มุ่งหวังในอนาคตได้อย่างตามที่ต้องการ”
ทิศทางเหล่านี้สะท้อนเจตจำนงของ ม.กรุงเทพ ที่มุ่งสร้างบัณฑิตพันธุ์ใหม่ หรือ Thailand future gen ผู้มีอิสรภาพในการออกแบบการเรียนรู้แห่งอนาคตด้วยตนเอง เพื่อเป็นบุคลากรที่สร้างประโยชน์ให้กับประเทศชาติและสังคมโลก
รับข่าวสาร ผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊ก ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ อย่าลืมกดติดตาม
และกดปุ่ม See first (เห็นโพสต์ก่อน)
www.facebook.com/PrachachatOnline
ทวิตเตอร์ @prachachat
ติดตามอ่านข่าวสารจากประชาชาติออนไลน์ ทันสมัย-ทันใจ
ดาวน์โหลดผ่านแอปพลิเคชั่น >> Prachachat << ได้แล้ววันนี้
ทั้งระบบ ios และ android
อ่านประชาชาติธุรกิจ ทั้งฉบับผ่าน e-Newspaper
ได้ที่แอปพลิเคชั่น Ookbee เลือก “ประชาชาติ”