ธปท.เผยเศรษฐกิจไทยเดือน ธ.ค. และไตรมาส 4/65 ขยายตัวต่อเนื่อง จากอานิสงส์ภาคการท่องเที่ยว หลังนักท่องเที่ยวตบเท้าเข้าไทยกว่า 11.15 ล้านคน หนุนการบริโภคขยายตัว 1.4% ด้านดุลบัญชีเดินสะพัดพลิกกลับมาเกินดุล 1.1 พันล้านดอลลาร์ ชี้แรงส่งท่องเที่ยวแผ่วจากเศรษฐกิจคู่ค้า ลั่นจับตา 3 ความเสี่ยง “เศรษฐกิจโลก-เศรษฐกิจจีน-การส่งผ่านต้นทุน”
วันที่ 31 มกราคม 2566 นางสาวชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้ช่วยผู้ว่าการสายองค์กรสัมพันธ์ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในเดือนธันวาคม 2565 เครื่องชี้วัดเศรษฐกิจภาพรวมฟื้นตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อน ซึ่งแรงส่งสำคัญมาจากภาคการท่องเที่ยวเป็นสำคัญ โดยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นทุกสัญชาติ โดยเฉพาะสัญชาติรัสเซียและอินโดนีเซียมีค่อนข้างสูง ส่งผลตัวเลขนักท่องเที่ยวรวมทั้งปี 2565 อยู่ที่ 11.15 ล้านคน และหากดูเฉพาะเดือนธันวาคมมีจำนวนอยู่ที่ 2.241 ล้านคน และไตรมาส 4/2565 อยู่ที่ 5.46 ล้านคน
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- อะไรทำให้ “ทองคำ” แพง สงคราม หรือการเก็งกำไร ?
และจากภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว สนับสนุนให้ภาคการบริโภคเอกชนขยายตัวต่อเนื่องอยู่ที่ 1.4% เทียบเดือนก่อน ส่วนใหญ่มาจากการบริโภคภาคบริการ ทั้งโรงแรม ขนส่ง และภัตตาคาร เนื่องจากรายได้ภาคท่องเที่ยวที่ดีขึ้นสนับสนุนกำลังซื้อภาคครัวเรือนยังดีขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะการจ้างงานปรับตัวดีขึ้น สอดคล้องกับความเชื่อมั่นผู้บริโภค อย่างไรก็ตาม ค่าครองชีพที่ยังอยู่ในระดับสูง รวมทั้งรายได้เกษตรกรในบางภูมิภาคที่ชะลอลงเป็นปัจจัยกดดันการบริโภคในภาพรวม
อย่างไรก็ดี ภาคการส่งออกแม้ว่าจะกลับมาดีขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า แต่ยังคงได้รับแรงกดดันจากเศรษฐกิจคู่ค้าทำให้ขยายตัวต่ำ 0.6% ส่งผลให้การผลิตภาคอุตสาหกรรมและเครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนลดลงตามแรงกดดันเศรษฐกิจคู่ค้าชะลอตัว
ทั้งนี้ หากมองแนวโน้มเศรษฐกิจในระยะข้างหน้าเดือนมกราคม โดยดูจากเครื่องชี้วัดเร็วยังคงสะท้อนว่าการเดินทางของประชาชนที่ยังขยายตัว สอดคล้องกับการจองตั๋วเครื่องบินของนักท่องเที่ยวต่างชาติยังเพิ่มขึ้น ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจยังคงสะท้อนการฟื้นตัวต่อเนื่อง
ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 5.89% จากผลของฐานต่ำในปีก่อน ทั้งในหมวดอาหารสดและหมวดพลังงาน รวมทั้งราคาผักที่เพิ่มขึ้นตามผลผลิตที่ออกสู่ตลาดน้อย ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานทรงตัวใกล้เคียงกับเดือนก่อนอยู่ที่ 3.23%
สำหรับดุลบัญชีเดินสะพัดกลับมาเกินดุลอยู่ที่ 1,100 ล้านดอลลาร์ มาจากดุลการค้าที่เกินดุลเพิ่มขึ้นเป็นสำคัญ ประกอบกับดุลบริการ รายได้ และเงินโอนที่กลับมาเกินดุลเล็กน้อยตามรายรับภาคการท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น โดยทั้งปี 2565 ขาดดุลอยู่ที่ 1.69 หมื่นล้านดอลลาร์
“เศรษฐกิจเดือน ธ.ค. และไตรมาส 4/65 มีภาพคล้ายกันคือ ฟื้นตัวต่อเนื่องจากภาคบริการจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นเป็นสำคัญ ทำให้การบริโภคดีขึ้น อย่างไรก็ดี ธปท.ยังคงต้องติดตาม 3 ปัจจัยเสี่ยงคือ เศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจจีน และการส่งผ่านต้นทุนจากเงินเฟ้อ โดยภาพรวมเศรษฐกิจไตรมาส 4 ยังคงต้องรอประเมินอีกครั้ง
แม้ว่าภาคการท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นค่อนสูง แต่มีสัดส่วนต่อจีดีพีเพียง 11-12% หากเทียบกับการส่งออกที่ชะลอตัว แต่มีสัดส่วนต่อจีดีพีสูงถึง 53% ทำให้มีทั้งฝั่งที่เป็น + และ – ทำให้เศรษฐกิจไม่ได้วิ่งสูงขึ้นจากภาคการท่องเที่ยวอย่างเดียว”
