บ้านล้านหลัง เฟส 3 ครม.ไฟเขียวคลังเดินหน้า วงเงิน 2 หมื่นล้านบาท

บ้านล้านหลัง

“อาคม” เผย ครม.ไฟเขียวกระทรวงการคลังดำเนินโครงการบ้านล้านหลัง เฟส 3 อีก 2 หมื่นล้านบาท ยื่นขอกู้ได้ถึง 30 ธ.ค. 2568

วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2566 นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2566 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบโครงการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยแห่งรัฐ (โครงการบ้านล้านหลัง ระยะที่ 3) ของธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองในราคาที่ไม่สูง และเหมาะสมกับศักยภาพของประชาชนแต่ละกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อยที่ไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ กลุ่มวัยทำงาน หรือประชาชนที่กำลังเริ่มต้นสร้างครอบครัว รวมถึงกลุ่มผู้สูงอายุ

ซึ่งเป็นโครงการต่อเนื่องจากโครงการบ้านล้านหลัง ระยะที่ 2 ที่มียอดคำขอสินเชื่อเต็มกรอบวงเงินแล้ว โดยมียอดอนุมัติสินเชื่อแล้วจำนวน 22,240 ราย เป็นจำนวนเงิน 19,937.46 ล้านบาท ทั้งนี้ สัดส่วนของจำนวนผู้ที่ได้รับการอนุมัติสินเชื่อภายใต้โครงการบ้านล้านหลัง ระยะที่ 2 มีการกระจายตัวอยู่ในช่วงวงเงิน

ได้แก่ 1) ต่ำกว่า 500,000 บาท 2) 500,001-1,000,000 บาท และ 3) 1,000,001-1,500,000 บาท ร้อยละ 11, 47 และ 42 ตามลำดับ และอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล และจังหวัดภูมิภาค คิดเป็นร้อยละ 36 และ 64 ตามลำดับ จะเห็นได้ว่า สัดส่วนการปล่อยสินเชื่อให้กับประชาชนผู้มีรายได้น้อยส่วนใหญ่อยู่ระหว่างช่วงระดับราคาที่ 500,001-1,500,000 บาท และอยู่ในพื้นที่จังหวัดภูมิภาค

โครงการบ้านล้านหลัง ระยะที่ 3 มีวงเงินโครงการ 20,000 ล้านบาท โดย ธอส.สนับสนุนสินเชื่อให้แก่ประชาชนทั่วไปที่มีความต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ในอัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 3 ในช่วง 5 ปีแรก วงเงินอนุมัติสูงสุดไม่เกิน 1,500,000 บาทต่อรายต่อหลักประกันและมีระยะเวลากู้ยืมสูงสุดไม่เกิน 40 ปี โดยประชาชนที่สนใจเข้าร่วมโครงการสามารถยื่นคำขอกู้กับ ธอส.ได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2568 หรือจนกว่า ธอส.ให้สินเชื่อเต็มตามกรอบวงเงินของโครงการแล้ว

“กระทรวงการคลังได้ให้ความสำคัญและสนับสนุนให้ผู้มีรายได้น้อยได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองในราคาที่ไม่สูง และเหมาะสมกับศักยภาพของตนเองใต้เงื่อนไขที่ผ่อนปรน ซึ่งการดำเนินโครงการดังกล่าว จะส่งผลให้เกิดการยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของผู้เข้าร่วมโครงการให้ดีขึ้น” รมว.คลังกล่าว

สาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้ 

หลักเกณฑ์และเงื่อนไข : ที่อยู่อาศัยใน กทม.และปริมณฑล และ ตจว. ในราคาซื้อขายไม่เกิน 1.5 ล้านบาท/หน่วย เช่น ที่อยู่อาศัยที่สร้างบนที่ดินของตนเอง หรือที่อยู่อาศัยที่สร้างใหม่ สร้างเสร็จพร้อมอยู่ที่สร้างบนที่ดินของเอกชน ผู้ประกอบธุรกิจพัฒนา อสังหาริมทรัพย์ หรือที่ดินของรัฐ ที่ดินของการเคหะแห่งชาติ 

บ้านมือสองและทรัพย์สินรอการขาย (Nonperforming Assets : NPAs) ของสถาบันการเงินของรัฐ (SFI) ทรัพย์สินรอการขายของบริษัท บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (BAM) และบริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (SAM) รวมท้ังทรัพย์รอการขายของกรมบังคับคดี เป็นต้น 

โดยมีกลุ่มเป้าหมาย : ประชาชนทั่วไป – วงเงินโครงการ : 20,000 ล้านบาท ประเภทสินเชื่อ/วงเงินกู้/ระยะเวลาการกู้ : วงเงินกู้ต่อรายไม่เกิน 1.5 ล้านบาท/หน่วย ระยะเวลากู้สูงสุดไม่เกิน 40 ปี ส่วนอัตราดอกเบี้ย ปีที่ 1-5 : อัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 3 ต่อปี ปีที่ 6-7 : อัตราดอกเบี้ยร้อยละ MRR-2.00 ต่อปี  

ปีที่ 8 ตลอดจนอายุสัญญากู้เงิน – กรณีรายย่อยทั่วไป อัตราดอกเบี้ยร้อยละ MRR-0.75  ต่อปี – กรณีสวัสดิการหักเงินเดือน อัตราดอกเบี้ยร้อยละ MRR-1.00 ต่อปี – กรณีกู้ซื้ออุปกรณ์ อัตราดอกเบี้ยร้อยละ MRR 

ฟรีค่าธรรมเนียม ค่าประเมินราคาหลักประกัน ไม่เกิน 2,300 บาท และค่าจดทะเบียน นิติกรรมจำนอง ร้อยละ 1 ของวงเงินจำนอง 

ส่วนระยะเวลาโครงการ ยื่นคำขอกู้เงินตั้งแต่วันที่ ครม.มีมติเห็นชอบถึงสิ้นสุดโครงการวันที่ 30 ธันวาคม 2568 หรือเมื่อ ธอส.ให้สินเชี่อเต็มตามกรอบวงเงินของโครงการแล้ว               

ทั้งนี้ ธอส.จะได้รับความชดเชยส่วนต่างระหว่างรายได้ดอกเบี้ยรับตามแผนวิสาหกิจของ ธอส. กับรายได้ดอกเบี้ยรับจากโครงการบ้านล้านหลัง ระยะที่ 3 จำนวนเงิน 2,193.76 ล้านบาท        

ปัจจุบันโครงการบ้านล้านหลัง ระยะที่ 2 มียอดคำขอสินเชื่อเต็มกรอบวงเงิน 20,000 ล้านบาทแล้ว โดย ณ วันที่ 26 ธันวาคม 65 ธอส.มียอดอนุมัติสินเชื่อจำนวน 22,240 ราย วงเงิน 19,937.46 ล้านบาท