รู้จักหวย L6 หวย N3 สลากรูปแบบใหม่ คืออะไร ซื้อได้ผ่านช่องทางไหน ?

สลากกินแบ่งรัฐบาล หวย สลาก L6 สลาก N3
ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 17 กันยายน 2566

หวย 6 หลัก (L6) หวย 3 หลัก (N3) สลากรูปแบบใหม่ บนความหวังแก้หวยแพงของกองสลากฯ คืออะไร มีรูปแบบ-รางวัลเป็นอย่างไร ซื้อได้ผ่านช่องทางไหน ? 

ตามที่กระทรวงการคลังเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาสลากรูปแบบใหม่ คือ สลากกินแบ่งรัฐบาล 6 หลัก หรือ LOTTERY 6 (L6) และสลากกินแบ่งรัฐบาล ตัวเลข 3 หลัก หรือ NUMBERS 3 (N3) ซึ่งเป็นสลากรูปแบบใหม่ที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ทำขึ้นเพื่อแก้ปัญหาสลากเกินราคา โดยได้เปิดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนและได้ดำเนินการแก้ไขรายละเอียดเรียบร้อยแล้ว เมื่อปี 2565

และคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ (L6 N3) หรือหวย 6 หลัก 3 หลัก เป็นที่เรียบร้อยเมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2566 และอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงและร่างประกาศเกี่ยวกับการออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลแบบ L6 และ N3 รวม 3 ฉบับ เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2566

ล่าสุด สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เตรียมจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลประเภท L6 ตั้งแต่งวดวันที่ 17 กันยายน 2566 เป็นต้นไป

“ประชาชาติธุรกิจ” ชวนทำความรู้จักสลากรูปแบบใหม่นี้ให้มากขึ้น

สลากกินแบ่งรัฐบาล 6 หลัก (L6)

สลากกินแบ่งรัฐบาล 6 หลัก หรือ LOTTERY 6 (L6) เป็นสลากที่คล้ายคลึงกับสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือลอตเตอรี่ชนิดใบ ที่วางจำหน่ายตามแผงสลากในปัจจุบัน แต่สลากแบบ L6 จะเพิ่มสลากพิมพ์แบบดิจิทัล จำหน่ายผ่านทางแอปพลิเคชั่นหรือเครื่องจำหน่ายสลาก และจำหน่ายผ่านระบบ Marketplace

สลากแบบ L6 จะวางจำหน่ายเป็นชุด ชุดละ 1 ล้านฉบับ มีตัวเลขตั้งแต่ 000000-999999 ซึ่งกำหนดตัวเลขไว้แล้วล่วงหน้า และตัวเลขจะไม่ซ้ำกันใน 1 ชุด โดยจำกัดอายุผู้ซื้อ-ผู้ขาย 20 ปี ขึ้นไป

สำหรับรางวัลของสลากประเภท L6 มี 9 รางวัล คือ รางวัลที่ 1 รางวัลข้างเคียงรางวัลที่ 1 รางวัลที่ 2 รางวัลที่ 3 รางวัลที่ 4 รางวัลที่ 5 รางวัลเลขหน้า 3 ตัว รางวัลเลขท้าย 3 ตัว และรางวัลเลขท้าย 2 ตัว รวม 14,168 รางวัล มีรายละเอียดรางวัล ดังนี้

รางวัล จำนวนรางวัล มูลค่าเงินรางวัล
รางวัลละ (บาท)
โอกาสถูกรางวัล
รางวัลที่ 1 1 6,000,000 1 : 1,000,000
ข้างเคียงรางวัลที่ 1 2 100,000 1 : 500,000
รางวัลที่ 2 5 200,000 1 : 200,000
รางวัลที่ 3 10 80,000 1 : 100,000
รางวัลที่ 4 50 40,000 1 : 20,000
รางวัลที่ 5 100 20,000 1 : 10,000
รางวัลเลขหน้า 3 ตัว 2,000 4,000 1 : 500
รางวัลเลขท้าย 3 ตัว 2,000 4,000 1 : 500
รางวัลเลขท้าย 2 ตัว 10,000 2,000 1 : 100
รวม 14,168 รางวัล 48,000,000 บาท

 

ทั้งนี้ สลากประเภท L6 จ่ายเงินรางวัลแบบผันแปร และไม่สมทบเงินรางวัล กล่าวคือ หากสลากถูกจำหน่ายไม่หมด เงินรางวัลจะลดลงตามสัดส่วน แต่ยังต้องอยู่ภายใต้สัดส่วน 60% ของยอดจำหน่ายในงวดนั้น ๆ และหากในงวดใดไม่มีผู้ถูกรางวัล จะถูกนำส่งเป็นรายได้แผ่นดินต่อไป

ภาพจาก – สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล

สลากกินแบ่งรัฐบาล ตัวเลข 3 หลัก (N3)

สลากกินแบ่งรัฐบาล ตัวเลข 3 หลัก หรือ NUMBERS 3 (N3) เป็นสลากชนิดใหม่ มีตัวเลขให้เลือกจำนวน 3 หลัก ตั้งแต่ 000-999 และจำหน่ายเฉพาะช่องทางแอปพลิเคชั่น เว็บไซต์ หรือเครื่องจำหน่ายสลากเท่านั้น

โดยผู้ซื้อต้องมีอายุผู้ซื้อ-ผู้ขาย 20 ปีขึ้นไป และเลือกจำนวน 1 หมายเลขต่อการเลือกซื้อสลาก 1 รายการ การซื้อทุก ๆ 1 รายการ จะได้หมายเลขรางวัลพิเศษ 1 หมายเลข ซื้อสลาก 1 รายการ มีสิทธิลุ้นทุกรางวัล

สลากประเภท N3 จะมีความพิเศษ คือ เป็นสลากประเภทสมทบเงินรางวัล กล่าวคือ หากการออกรางวัลในงวดใดไม่มีผู้ถูกรางวัล จะนำเงินรางวัลที่จัดสรรไว้ไปสมทบเพื่อจ่ายเป็นเงินรางวัลในงวดถัดไป เป็นจำนวน 1 งวด หากไม่มีผู้ถูกรางวัลอีก เงินรางวัลสมทบดังกล่าว จะถูกนำส่งเป็นรายได้แผ่นดิน

สำหรับรางวัลของสลากประเภท N3 มีรายละเอียดดังนี้

รางวัล เงื่อนไข
การถูกรางวัล
สัดส่วนเงินรางวัล โอกาสถูกรางวัล
รางวัล 3 ตรง ตรงเลข
ตรงหลัก
30% 1 : 1,000
รางวัล 3 สลับหลัก ตรงเลข
สลับหลัก
30% 1 : 200 (กรณีเลขไม่ซ้ำ)
1 : 500 (กรณีเลขซ้ำ 2 ตัว)
รางวัล 2 ตรง ตรงเลข
ตรงหลัก
39% 1 : 100
รางวัลพิเศษ ตรงกับ
รางวัลพิเศษ
1% 1 : จำนวนผู้ถูกรางวัล 3 ตัว
รวม 100%

 

ทั้งนี้ การจ่ายเงินรางวัลของสลากประเภท N3 จะเป็นแบบผันแปร ในสัดส่วน 60% จากยอดจำหน่ายในงวดนั้น ๆ และจะหารเฉลี่ยกับผู้ที่ถูกรางวัลในแต่ละรางวัล (ยกเว้นรางวัลพิเศษ) โดยจะจ่ายเป็นเงินจำนวนเต็มไม่มีเศษ (ปัดเศษทิ้ง) และนำเศษที่เหลือ นำไปรวมสมทบกับรางวัลพิเศษ

สำหรับรางวัลพิเศษจะจ่ายจากเงินรางวัลที่ได้รับจัดสรรร้อยละ 1 และเศษของเงินรางวัลที่ถูกนำมาสมทบให้กับผู้ถูกรางวัลตามจำนวนผู้ถูกรางวัลพิเศษ

ภาพจาก – สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล

สลาก L6 และ N3 จำหน่ายช่องทางไหน ออกรางวัลอย่างไร ?

สำหรับสลากประเภท L6 จะจำหน่ายผ่านตัวแทนจำหน่ายสลาก และผ่านช่องทางดิจิทัล ทั้งแอปพลิเคชั่น เครื่องจำหน่ายสลาก และช่องทาง Marketplace ส่วนสลากประเภท N3 จะจำหน่ายผ่านช่องทางดิจิทัลเท่านั้น ทั้งแอปพลิเคชั่น เว็บไซต์ และเครื่องจำหน่ายสลาก

โดยการวางจำหน่ายสลากประเภท L6 และ N3 อย่างเป็นทางการ นายธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการและโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า สำหรับสลาก L6 หาก ครม.เห็นชอบแล้วจะสามารถดำเนินการได้ทันที เนื่องจากเป็นสลากดิจิทัล ซึ่งเพิ่มปริมาณสลากเข้าไปในระบบได้เลยในงวดถัดไป ส่วนสลาก N3 หาก ครม.อนุมัติแล้ว คาดว่าจะสามารถดำเนินการแล้วเสร็จได้ภายใน 6 เดือน

สำหรับราคาของสลากประเภท L6 และ N3 มีการวางราคาไว้ในเบื้องต้น โดยสลากประเภท L6 จะอยู่ที่ 80 บาท เช่นเดียวกับสลากกินแบ่งรัฐบาลที่จำหน่ายทั่วไป และสลากประเภท N3 ตั้งราคาเบื้องต้นสำหรับการทำประชาพิจารณ์ไว้ที่ 50 บาท แต่อาจมีการพิจารณาปรับให้เหมาะสมอีกครั้ง

ส่วนการออกรางวัลสลากประเภท L6 และ N3 ยังคงออกรางวัลเดือนละ 2 ครั้ง ทุกวันที่ 1 และ 16 ของเดือน เช่นเดียวกับการออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลที่คุ้นเคยมาอย่างยาวนาน

ทั้งนี้ ผู้ถูกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล ทั้งสลากประเทศ L6 และ N3 ได้รับการยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แต่ต้องชำระอากรแสตมป์ใบรับรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล ในอัตรา 200 บาท หรือเศษของ 200 บาท ต่ออากรแสตมป์ 1 บาท ตามประมวลรัษฎากร (อัตราส่วนค่าอากรแสตมป์ 0.50 บาท ต่อเงินรางวัล 100 บาท หรือเศษของ 100 บาท)

ซื้อสลาก L6 และ N3 แบบดิจิทัล ทำอย่างไร ?

สำหรับการซื้อสลากประเภท L6 และ N3 แบบดิจิทัล จะจำหน่ายผ่านช่องทางดิจิทัลที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลกำหนด มีขั้นตอนการลงทะเบียนและการซื้อผ่านแอปพลิเคชั่น ดังนี้

ขั้นตอนการลงทะเบียนผู้ซื้อ-ผู้ขาย ผ่านแอปพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน (ลงทะเบียนเพียงครั้งเดียว)

  1. ติดตั้งแอปพลิเคชั่น เพื่อลงทะเบียนผ่านแอป หรือเว็บไซต์ที่กำหนด
  2. กรอกข้อมูลผู้ซื้อ-ผู้ขาย และตรวจสอบสถานะบัตรประชาชนกับกรมการปกครอง (ผู้ซื้อต้องมีอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป)
  3. กรอกข้อมูลบัญชีเงินฝาก สำหรับการรับเงินรางวัล หากถูกรางวัล ระบบจะทำการโอนรางวัลเข้าสู่บัญชีที่ระบุไว้
  4. ระบุหมายเลขโทรศัพท์มือถือ และระบุรหัส OTP (One-Time Password) เพื่อยืนยันการลงทะเบียน
  5. สำนักงานสลากฯ พิจารณาข้อมูลการลงทะเบียนผู้ซื้อ-ผู้ขาย
  6. หากการลงทะเบียนสำเร็จ จะได้รับข้อมูลยืนยันและรหัสระบุผู้ซื้อ-ผู้ขาย ดังนี้
    ผู้ขาย จะได้รหัสตัวแทนจำหน่าย
    ผู้ซื้อ จะได้รหัสผู้ซื้อ ซึ่งใช้หมายเลขบัตรประชาชน 13 หลัก

ขั้นตอนการซื้อสลาก

  1. เลือกตัวแทนผู้ขายสลากที่ต้องการใช้บริการ
  2. เลือกรูปแบบสลากที่ต้องการซื้อ
  3. เลือกงวดสลาก
  4. เลือกราคาที่ต้องการซื้อ (กรณีมีหลายราคาให้เลือก)
  5. เลือกหมายเลขที่ต้องการ โดยสลากประเภท L6 และ N3 มีวิธีการเลือกที่แตกต่างกัน
    สลากประเภท L6 เลือกเลขสลาก 6 หลักที่ต้องการ
    สลากประเภท N3 เลือกเลขที่ต้องการ (0-9) จำนวน 3 หลัก โดยต้องเลือกหมายเลขให้ครบทั้ง 3 หลัก และสามารถเลือกเลขซ้ำกันได้ เช่น 122, 555 เป็นต้น
  6. ชำระเงินผ่านช่องทางธนาคาร ทั้งอินเทอร์เน็ตแบงกิ้ง โมบายแบงกิ้ง และระบบพร้อมเพย์ (PromptPay)
  7. การซื้อสำเร็จ ข้อมูลการซื้อจะถูกบันทึกเข้าระบบ

หวย L6 วางขายครั้งแรก 17 ก.ย.นี้-หวย N3 คาดเริ่มปีหน้า

เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2566 พ.ท.หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จะเริ่มเปิดขายสลากกินแบ่งรัฐบาล 6 หลัก หรือสลาก L6 ดิจิทัลงวดแรก ในวันที่ 17 กันยายน 2565 จำนวน 21 ล้านใบ เพื่อตรวจรางวัลในงวดวันที่ 1 ตุลาคม 2566 ซึ่งเป็นไปตามมติบอร์ดบริหารเห็นชอบ และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี ได้อนุมัติไว้แล้ว

โดยสลากงวดวันที่ 1 ตุลาคม 2566 ที่จะเริ่มขายในวันที่ 17 กันยายน 2566 นี้ เป็นงวดแรกที่จะจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลหกหลัก (Lottery 6: L6) ทั้งสลากใบ และสลากดิจิทัล รวม 101 ล้านฉบับ แบ่งเป็น

  • สลากใบ 80 ล้านฉบับ
  • สลากดิจิทัล 21 ล้านฉบับ

ทั้งนี้ สลากใบจะมีลักษณะเหมือนกับสลากที่ขายอยู่ในปัจจุบันทุกประการคือ มีการพิมพ์บนกระดาษป้องกันการปลอมแปลง มีลายน้ำ และเส้นไหมสอดแทรกอยู่ในเนื้อกระดาษ มีการพิมพ์สัญลักษณ์ป้องกันการปลอมแปลงต่าง ๆ รวมถึงพิมพ์ข้อความ L6 แบบใบ ลงบนสลากด้วย

ในขณะที่ สลากดิจิทัล ไม่ได้มีการพิมพ์ขึ้นมาเป็นใบ แต่เป็นข้อมูลที่อยู่ในระบบดิจิทัล มีการพิมพ์ข้อความ L6 แบบดิจิทัล บนสลาก และทำการซื้อขายผ่านแอปเป๋าตัง

สลาก L6

โดยผู้ถูกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลแบบ L6 สามารถขึ้นเงินรางวัลได้ทุกรางวัล รวมถึงรางวัลที่ 1 แบบทันที หรือสามารถถือครองไว้ได้นานถึง 2 ปี ก่อนมาขอขึ้นรางวัลก็ได้ เช่นเดียวกับสลากแบบใบ โดยสามารถขึ้นรางวัลได้ 3 ช่องทาง ดังนี้

  • โอนเงินรางวัลผ่านแอปเป๋าตังไปยังบัญชีธนาคารกรุงไทย
  • โอนเงินรางวัลผ่านแอปเป๋าตังไปยังบัญชีแบงก์ต่าง ๆ
  • นำบัตรประชาชนมาขึ้นเงินที่สำนักงานสลากฯ

นอกจากนี้ คณะกรรมการสลากฯ ได้เห็นชอบแล้วว่าภายในสิ้นปี 2566 นี้จะต้องมีสลาก L6 ทั้งแบบใบและแบบดิจิทัล จำหน่ายรวมกันไม่เกิน 110 ล้านบาท โดยแยกเป็น L6 แบบใบ 80 ล้านใบ และแบบดิจิทัลไม่เกิน 30 ล้านใบ ขึ้นอยู่กับปริมาณความต้องการ

โดยจะพิจารณาว่าสามารถเพิ่มให้ถึง 30 ล้านใบได้หรือไม่ ซึ่งในแต่ละงวดจะเพิ่มไม่เกิน 1-2 ล้านใบขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ซื้อ แต่สูงสุดต่องวดต้องเพิ่มไม่เกิน 2 ล้านใบ

ส่วนสลากกินแบ่งรัฐบาลตัวเลขสามหลัก หรือ N3 ที่มีโอกาสถูกรางวัล 4 รางวัลคือ สามตัวตรง สามตัวสลับ หรือสามตัวโต๊ด สองตัวตรงและรางวัลพิเศษ หรือรางวัลแจ็กพอตนั้น อยู่ระหว่างพิจารณารายละเอียดปลีกย่อย คาดว่าภายในเดือนมีนาคม 2567 จะสามารถสรุปรายละเอียดเรื่องของราคา การจัดจำหน่าย และอื่น ๆ เพื่อให้สามารถขายได้ภายในเดือนกันยายน 2667 ตามที่ ครม.ได้อนุมัติไว้

ข้อมูลจาก มติคณะรัฐมนตรี 14 มีนาคม 2566, สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล