ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประเมินแบงก์ไทย รับมือเศรษฐกิจโลกได้-กำไรปี’66 ดีขึ้น

ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประเมินแบงก์ไทย
แฟ้มภาพ

ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประเมินภาคธนาคารไทยผลการดำเนินงานปี 2566 ดีขึ้น เหตุตั้งสำรองหนี้สูญลดลง-ปล่อยสินเชื่อโต ชี้ปัจจัยสนับสนุนมาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

วันที่ 31 มีนาคม 2566 ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จัดสัมมนา ในหัวข้อ “2023 Thailand Economic and Bank Outlook” โดย ดร.สมประวิณ มันประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Economic Intelligence Center (EIC) ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มขยายตัวได้ดีกว่าที่เคยประเมินไว้

เศรษฐกิจจีนน่าจะเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งหลังกลับมาเปิดประเทศ SCB EIC คาดว่าธนาคารกลางรายใหญ่มีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย และน่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ในระดับสูงเป็นเวลาต่อเนื่อง จากการที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่ยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูง

ทั้งนี้ SCB EIC ปรับเพิ่มประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2566 เป็น 3.9% จากเดิม 3.4% โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการฟื้นตัวที่ดีขึ้นมากของภาคท่องเที่ยวและภาคบริการ

นางสาวจินดารัตน์ สิริสิทธิโชติ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายจัดอันดับเครดิตสถาบันการเงินของฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ฟิทช์ฯคาดว่าธนาคารพาณิชย์ไทยน่าจะมีผลการดำเนินงานที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปในปี 2566 เนื่องจากการตั้งสำรองหนี้สูญที่ลดลงและสินเชื่อที่เติบโตสูงขึ้น

ในขณะที่ธนาคารไทยยังคงเผชิญกับแรงกดดันด้านคุณภาพสินทรัพย์ต่อเนื่องจากการที่มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ทยอยหมดอายุลง และการที่ธนาคารทยอยลดสัดส่วนสินเชื่อที่ได้รับการปรับโครงสร้าง

Advertisment

อย่างไรก็ตาม ธนาคารไทยยังคงมีความสามารถในการรองรับความเสี่ยงที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง เช่นในด้าน เงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่นับเป็นส่วนของเจ้าของ (Common Equity Tier 1) และอัตราส่วนสำรองต่อหนี้สูญต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ โดยมีค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมที่ 15.3% และ 171% ตามลำดับ ณ สิ้นปี 2565

นอกจากนี้ ฟิทช์ฯยังคาดว่าฐานะสภาพคล่องของธนาคารไทยจะยังคงมีเสถียรภาพ เนื่องจากธนาคารไทยส่วนใหญ่มีการระดมเงินจากเงินฝากโดยไม่ได้มีการพึ่งพาการระดมเงินจากตลาดทุนหรือจากต่างประเทศในระดับที่มีนัยสำคัญ

Advertisment

ทั้งนี้อัตราส่วนของปริมาณสินทรัพย์สภาพคล่องทั้งสิ้นต่อประมาณการกระแสเงินสดไหลออกสุทธิ (Liquidity Coverage Ratio) เฉลี่ยของอุตสาหกรรมยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูงที่ 192% ณ สิ้นปี 2565 ทั้งนี้ ฟิทช์ฯเพิ่งมีการปรับประมาณการการเติบโตของเศรษฐกิจไทย (GDP) เป็น 4.0% จาก 3.8% จากการคาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมท่องเที่ยวน่าจะฟื้นตัวได้ดีขึ้น โดยได้แรงหนุนจากการเปิดประเทศของจีน