
AH ราคาหุ้นดิ่ง 29% เซ่นกระแสข่าว “อีซูซุ” ย้ายฐานผลิตไปอินโดนีเซีย ด้าน บล.บัวหลวง เผยเรื่องนี้น่าจะเป็นไปได้ยาก เพราะไม่มีฝ่ายไหนทราบข่าวเลย ต้องรออีซูซุญี่ปุ่นชี้แจง ด้านราคาหุ้นร่วงรับเซนติเมนต์ล้วน ๆ แนะ “ซื้อ” P/E เหลือแค่ 7 เท่า ถูกมาก ให้ราคาเป้าหมาย 45 บาท ทิศทางหุ้นช่วงบ่ายน่าจะฟื้นตัวขึ้นได้
วันที่ 8 มิถุนายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น บริษัท อาปิโก ไฮเทค จำกัด (มหาชน) หรือ AH เปิดตลาดภาคเช้าวันนี้อยู่ที่ราคา 34 บาท ลดลง 5.25 บาท หรือติดลบ 13.37% จากราคาปิดวันก่อนหน้า โดยลงไปทดสอบจุดต่ำสุดที่ 27.75 บาท ลดลง 11.5 บาท หรือติดลบ 29.3% โดยปิดตลาดภาคเช้ายืนอยู่ที่ราคา 35.50 บาท ลดลง 3.75 บาท หรือติดลบ 9.55%
- หวั่น EV ไทย…ซ้ำรอยจีน
- “ทรู-ดีแทค” ถล่มโปร “คืนค่าเครื่อง” ย้ำรวมกันได้มากกว่า
- เปิด “ผังน้ำ” ประกบผังเมือง เขย่าราคาที่ดินทั่วประเทศ
นายนภนต์ ใจแสน นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) บัวหลวง กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ราคาหุ้น AH ที่ร่วงหนักเช้าวันนี้ มาจากกระแสข่าวที่ว่า นายอะกุส กูมิวัง คาตาซามิตา รัฐมนตรีอุตสาหกรรมอินโดนีเซีย เปิดเผยว่า บริษัท อีซูซุ มอเตอร์ ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของญี่ปุ่น มีแผนที่จะโยกย้ายการผลิตรถยนต์จากโรงงานแห่งหนึ่งในประเทศไทยไปยังอินโดนีเซีย โดยจะเริ่มการผลิตอย่างเร็วที่สุดในปีหน้านั้น
ทั้งนี้ถ้าอ้างอิงข้อมูลที่ได้รับมาจากฝั่งบริษัท ยืนยันว่ายังไม่มีแผนปรับเปลี่ยนอะไร ซึ่งโดยปกติยิ่งเป็นอุตสาหกรรมยานยนต์ (Automotive) และกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ เวลาจะย้ายฐานการผลิตต้องใช้เวลาสักระยะ อย่างกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ต้องมีคุณสมบัติ (Qualified) ประมาณ 3 ปี กว่าจะผลิตตัวใหม่ได้ เนื่องจากรถมีความเกี่ยวเนื่องกับความปลอดภัยของคน จึงต้องใช้คุณภาพโรงงานที่มาก
ขณะเดียวกันในฝั่งของ AH เองที่ทำธุรกิจกับอีซูซุมานาน ยังไม่เห็นสัญญาณอะไรเช่นกัน ซึ่งถ้าจะย้ายฐานผลิตจริง ๆ คาดว่าน่าจะต้องแจ้งก่อนอย่างน้อย 1-2 ปี ดังนั้นตามกระแสข่าวที่ระบุว่าจะเริ่มการผลิตในปีหน้าถือว่าค่อนข้างเป็นไปได้ยาก เพราะต้องแจ้งแต่ละส่วนที่เกี่ยวข้อง และต้องหาซัพพลายเออร์ภายในประเทศ (Local Supply Chain) ซึ่งล้วนต้องใช้เวลาพอสมควร
นอกจากนี้ข่าวล่าสุดที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เข้าไปเช็กพบว่าฝั่งอีซูซุประเทศไทยยังไม่ทราบเรื่องดังกล่าว ฉะนั้นต้องรอไปเช็กทางอีซูซุญี่ปุ่น (บริษัทแม่) ว่ามีแนวทางอย่างไร เพราะฉะนั้นเมื่้อประกอบภาพออกมา ถือว่ายังเป็นเรื่องที่น่าจะเป็นไปได้ยาก เพราะไม่มีฝ่ายไหนทราบข่าวเลย มาจากแหล่งข้อมูลฝั่งเดียวจากทางอินโดฯ
ปัจจุบัน AH เป็นโรงงานที่รับผลิต (OEM) ให้อีซูซุ มีสัดส่วนรายได้จากอีซูซุประมาณ 20-25% ของรายได้รวม อย่างไรก็ดี จากที่ราคาหุ้น AH ร่วงลงมาแรงเมื่อช่วงเช้าวันนี้นั้น ตามกรณีพื้นฐาน (Base Case) ของฝ่ายวิจัยถือว่าเป็นไปได้ยาก ฉะนั้นราคาที่ลงมาเกิดจากเซนติเมนต์ล้วน ๆ จึงแนะนำ “ซื้อ” โดยให้ราคาเป้าหมายยืนอยู่ที่ 45 บาท ซึ่งอิง P/E ที่ 9 เท่า แต่เช้าวันนี้ P/E ลงมาเหลือแค่ 7 เท่า ฉะนั้นถือว่าเป็นระดับราคาหุ้นที่ถูกมาก
โดยทิศทางราคาหุ้นในช่วงบ่าย ประเมินว่าเนื่องจากความชัดเจนต้องรอทางอีซูซุญี่ปุ่นออกมาชี้แจง ดังนั้นถ้าดูทิศทางข่าวที่ไล่เรียงออกมาตั้งแต่เช้า มองว่าราคาหุ้นน่าจะฟื้นตัวขึ้นได้ ไม่น่าจะย้อนลงไปเหมือนเมื่อเช้าแล้ว