
บทความโดย "สิทธิชัย สิงห์ทอง" ที่ปรึกษาการเงิน AFPTTM สมาคมนักวางแผนการเงินไทย
ช่วงเวลาตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน การใช้ชีวิตร่วมกันของชายและหญิงที่เรียกว่าคู่สมรสหรือคู่สามีภรรยา จะมีการความผูกพันทางกฎหมาย คือใช้การจดทะเบียนสมรส เป็นเครื่องมือที่ทำให้ทั้งฝ่ายหญิงและฝ่ายชาย แต่ละฝ่ายจะมีสิทธิและประโยชน์ที่ได้รับตามที่กฎหมายกำหนด รวมทั้งหากมีบุตรก็จะได้สิทธิและประโยชน์ตามกฎหมายเช่นเดียวกัน
แต่ก็ยังมีคู่สามีภรรยาอีกบางส่วนที่ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน โดยไม่ได้จดทะเบียนสมรส คือเป็นการใช้ชีวิตรวมกัน แต่ไม่มีข้อผูกพัน หรือความสัมพันธ์ทางกฏหมายแต่อย่างใด ซึ่งในระหว่างที่อยู่กินกันนั้น หากฝ่ายภรรยาเกิดตั้งครรภ์และให้กำเนิดบุตร บุตรที่เกิดขึ้นจะถือว่าเป็นบุตรนอกกฎหมายหรือบุตรนอกสมรส
บุตรนอกกฎหมายหรือบุตรนอกสมรส คือบุตรที่เกิดจากหญิง-ชาย หรือมารดากับบิดาที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน แต่บุตรที่เกิดขึ้นนั้นทางกฎหมายจะถือว่าเป็นบุตรของมารดาและมีสิทธิได้รับมรดกจากมารดาเสมอ
คำถามตามมาคือ ในส่วนของมรดกของฝ่ายบิดา บุตรที่เกิดขึ้นจะมีสิทธิได้รับมรดกของบิดาเหมือนกันหรือไม่ ซึ่งในทางกฎหมายระบุไว้ว่า บุตรที่เกิดจากการที่บิดาและมารดาที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกันจะไม่มีสิทธิได้รับมรดกจากบิดา
ทางออกของปัญหานี้คือ ฝ่ายบิดาจะต้องไปยื่นจดทะเบียนรับรองบุตร หรือยื่นคำร้องต่อศาลให้มีคำพิพากษาออกมาให้บุตรเป็นของฝ่ายบิดา ก็จะทำให้สถานภาพของบุตรนอกสมรสเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย มีสิทธิได้รับมรดกจากฝ่ายบิดา ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตราที่ 1627 ที่วางหลักไว้ว่า
บุตรนอกกฎหมายที่บิดาได้รับรองแล้วและบุตรบุญธรรมนั้น ให้ถือว่าเป็นผู้สืบสันดาน เหมือนกับบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย
นอกจากวิธีการยื่นจดรับรองบุตร ยังมีพฤติกรรมบางอย่างที่จะสามารถรับรองบุตรนอกกฎหมายให้กลายเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายโดยปริยายได้ เช่น การให้บุตรใช้นามสกุลของบิดา หรือการไปแจ้งในใบเกิดของบุตรว่าเป็นบิดา หรือการพาเข้าโรงเรียนไปรับ-ไปส่ง หรือการส่งเสียเลี้ยงดูอย่างเปิดเผยต่อสาธารณชนเป็นปกติ ก็จะส่งผลให้จากบุตรนอกกฎหมายหรือนอกสมรสได้รับการรับรองให้เป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของบิดา เป็นผู้สืบสันดาน และเป็นทายาทโดยธรรมของบิดาเช่นกัน
หากบิดาเกิดเสียชีวิตและมีการแบ่งทรัพย์มรดก ก็จะมีสิทธิในการรับมรดกของบิดา เพราะถือว่าเป็นทายาทโดยธรรมลำดับที่ 1 เช่นเดียวกับบุตรตามกฎหมายของบิดา ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1629
นอกจากวิธีที่กล่าวมาข้างต้น ยังมีอีกวิธีที่เป็นผลดีและเป็นการลดปัญหาความยุ่งยากทางกฎหมายคือ ให้ฝ่ายบิดาทำพินัยกรรมระบุชื่อบุตรดังกล่าวเป็นทายาทที่ได้รับมรดกตามพินัยกรรม จะทำให้บุตรนอกกฎหมายสามารถรับมรดกตามเจตนาและความต้องการของฝ่ายบิดาได้อย่างชัดเจน
โดยสรุป บุตรนอกกฎหมายหรือบุตรนอกสมรสจะมีสิทธิที่เกิดตามธรรมชาติ คือเป็นบุตรของฝ่ายมารดา มีสิทธิในการรับมรดกของมารดา แต่ในส่วนของบิดาจะต้องมีการรับรองตามกฎหมาย โดยการไปจดทะเบียนรับรองบุตร มีคำสั่งศาล หรือฝ่ายบิดามีพฤติกรรมที่แสดงออกโดยเปิดเผยต่อสาธารณชน ว่าบุตรที่เกิดดังกล่าวเป็นบุตรของตน ซึ่งจะทำให้บุตรเป็นทายาทโดยธรรมและมีสิทธิที่จะได้รับมรดกของฝ่ายบิดาตามความต้องการ