เปิด 3 ฉากทัศน์ จัดตั้งรัฐบาล หุ้นไทยก้าวไปไหน ถ้า “พิธา” ได้เป็นนายกรัฐมนตรี
วันที่ 6 กรกฎาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเมืองไทยมีความคืบหน้ามากขึ้น หลังจากเมื่อวันที่ 4 ก.ค. 2566 ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติเลือกนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา พรรคประชาชาติ ดำรงตำแหน่งประธานสภา และเลือกนายปดิพัทธ์ สันติภาดา พรรคก้าวไกล ดำรงตำแหน่งรองประธานสภาคนที่ 1 และเลือกนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน พรรคเพื่อไทย ดำรงตำแหน่งรองประธานสภาคนที่ 2 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ประกอบกับ 8 พรรคร่วมยังคงมีเอกภาพ ซึ่งช่วยลดภาพความไม่แน่นอนของการเมืองไทยระหว่างรอเข้าสู่การเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 13 ก.ค. 2566 และต้นเดือน ส.ค. นายกรัฐมนตรีจะจัดตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ และนำคณะรัฐมนตรีเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณเข้าทำหน้าที่ เพื่อบริหารราชการแผ่นดิน
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟิลลิป (ประเทศไทย) เผยฉากทัศน์การจัดตั้งรัฐบาลและการเคลื่อนไหวของดัชนี SET Index ดังนี้
- นายกฯ พิธาและพรรคร่วม ดัชนี SET แกว่งตัวบริเวณ 1,550-1,575 จุด
- นายกฯ จากพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วม ดัชนี SET แกว่งตัวบริเวณ 1,600-1,630 จุด
- นายกฯ ภายใต้ ครม.ผสมขั้วเดิม ดัชนี SET แกว่งตัวบริเวณ 1,400 จุด
โดยประเมินหุ้นรับนโยบายของรัฐบาลใหม่ ภายใต้การนำของนายกฯ พิธา ดังนี้
– ความเท่าเทียมทางเพศ : นโยบายสมรสเท่าเทียม คู่รักทุกเพศแต่งงานกันได้ คาดว่าหุ้นได้ประโยชน์คือ BLA, CENTEL, ERW, MINT, SHR, TLI
– ลดความเหลื่อมล้ำ : ปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำทุกปี เริ่มทันทีวันละ 450 บาท ทำงานไม่เกิน 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ หากเกินต้องได้ OT คาดว่าหุ้นได้ประโยชน์คือ BTG, CPAXT, CRC, DOHOME, GLOBAL, HMPRO, M, MINT และกลุ่มไฟแนนซ์
และยกเลิกใบอนุญาต 50% ยกเลิกทุกกฎหมายที่เป็นอุปสรรค ลดภาษีนิติบุคคล SME ให้เหลือ 0-15% หวยใบเสร็จ ซื้อของร้านค้ารายย่อย ทั้งคนซื้อคนขายได้หวย และทุนแสนตั้งตัว 2 แสนรายต่อปี ทุนล้านตั้งตัว 2.5 หมื่นรายต่อปี ไม่ต้องวางหลักประกัน คาดว่าหุ้นได้ประโยชน์คือ KBANK, SCB, TTB
– เกษตรและประมง : เปลี่ยนระบบภาษีที่ดิน ลดความเหลื่อล้ำในการถือครองที่ดิน ปลดล็อกที่ดิน ส.ป.ก. โดยการเปลี่ยนที่ดิน ส.ป.ก.ให้เป็นโฉนด ปลดล็อกการผลิตสุราของผู้ผลิตรายย่อยและสุราชุมชน สนับสนุนการเลี้ยงสัตว์ ลดต้นทุน เพิ่มเงินทุน ขยายตลาด ดอกเบี้ย 0% ผ่อนโดรน รถไถ รถดำนาเครื่องจักรการเกษตร คาดว่าหุ้นได้ประโยชน์คือ AEONTS, ASK, KBANK, SAT, SAWAD, SINGER, THANI, TIDLOR, TK
– พลังงาน : เปิดตลาดซื้อ-ขายไฟฟ้าเสรี รัฐดูแลระบบสายส่ง เปลี่ยนนโยบายก๊าซธรรมชาติให้โรงแยกก๊าซร่วมหารต้นทุนก๊าซใน Energy Pool ด้วย และให้ก๊าซจากอ่าวไทยขายให้โรงไฟฟ้า ปลดล็อกให้ประชาชนทุกบ้านติดแผงโซลาร์ ด้วยระบบ net metering คาดว่าหุ้นได้ประโยชน์คือ ADVANC, GUNKUL, SOLAR
และเลิกโรงไฟฟ้าถ่านหินทั้งหมดภายในปี 2035 กำหนดเพดานปล่อยก๊าซเรือนกระจกรายอุตสาหกรรม เปิดตลาดค้าขายแลกเปลี่ยนรถเมล์ไฟฟ้าทุกคันภายใน 7 ปี คาดว่าหุ้นได้ประโยชน์คือ BYD, EA, NEX
– สุขภาพ : ตรวจสุขภาพประจำปี ฟรีทั้งค่าตรวจ-ค่าเดินทาง มีกองทุนดูแลผู้สูงอายุ-ผู้ป่วยติดเตียง งบประมาณเฉลี่ย 9,000 บาก/คน/เดือน เพิ่มเงินผู้สูงวัยให้เป็นอัตราเดียวแบบถ้วนหน้า เดือนละ 3,000 บาท ภายใน 4 ปี และนำประชาชนวัยแรงงานนอกระบบเข้ามาสู่ระบบประกันสังคมถ้วนหน้า คาดว่าหุ้นได้ประโยชน์คือ BCH, CHG, PR9, RJH, EKH
– อื่น ๆ : จัดทำงบประมาณในปต่ละปี โดยอ้างอิงจากความเร่งด่วนและขนาดของปัญหาที่ประเทศเผชิญในแต่ละปีเป็นหลัก คาดว่าหุ้นได้ประโยชน์คือ กลุ่ม Spending และรับเหมาก่อสร้าง ส่วนการยกฐานะให้ประเทศไทยกลับมาเป็นประเทศผู้นำในการเจรจาด้านต่าง ๆ คาดว่าหุ้นได้ประโยชน์คือ AH, AMATA, CENTEL, ERW, PRM, ROJNA, SAT, WHA
