
บล.เอเซีย พลัส วิเคราะห์กลยุทธ์ลงทุนเดือน ส.ค. หวัง SET วิ่งต่อ เหตุปัจจัยภายนอกดูดี-ดอกเบี้ยใกล้จบขาขึ้น-กังวลถดถอยลดลง-จีนกระตุ้นเพิ่ม ส่วนในประเทศมองการเมืองพ้นจุดร้อนแรงสุดไปแล้ว ประเมินแนวรับต่ำสุดดัชนี 1,480 จุด แนวต้านลุ้น 1,610 จุด
วันที่ 2 สิงหาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส ได้ออกบทวิเคราะห์กลยุทธ์ลงทุน ระบุว่าในเดือน ส.ค.นี้ คาดหวังให้ SET วิ่งต่อ โดยได้รับแรงหนุนจากปัจจัยภายนอกที่ดูดี วัฏจักรของดอกเบี้ยขาขึ้นใกล้จบ อีกทั้งความความกังวลในเรื่อง Recession (เศรษฐกิจถดถอย) ลดลง และจีนพร้อมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม
- ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล ตรวจผลรางวัล งวด 1 ธ.ค. 2566
- เช็กเงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท เข้าบัญชีวันนี้ 5 จังหวัด
- วิธีเช็กเงินช่วยเหลือชาวนา ไร่ละ 1,000 บาท chongkho.inbaac.com
ในส่วนของปัจจัยภายในประเทศมองว่าการเมืองพ้นจุดที่ร้อนแรงที่สุดไปแล้ว กำไรงวด 2Q66 น่าจะลดลง แต่จะกลับมาฟื้นชัดเจนขึ้นในปี 2H66 ทุก ๆ ปัจจัยสนับสนุนให้ Fund Flow และสภาพคล่องกลับมาหนุนไทยมากขึ้น หุ้นเด่นเดือน ส.ค. แนะนำ ERW, SCGP, GPSC, CK, SIRI, PLANB และ SNNP
ทั้งนี้ ในเดือน ส.ค. 2566 คาดหวัง SET ได้แรงหนุนจากปัจจัยภายนอก และปัจจัยภายในดังนี้ ปัจจัยภายนอก 1) วัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้นใกล้จบ หลังจาก Fed (ธนาคารกลางสหรัฐ) ขึ้นดอกเบี้ยมาแล้วใน 1 ปี 7 เดือน จาก 0.25% มาเป็น 5.5% ซึ่งสูงกว่าเงินเฟ้อปัจจุบันที่ลดลงเหลือ 3% พอสมควร ส่งผลให้ตลาดคาด Fed น่าจะคงดอกเบี้ยไปจนถึงต้นปี 2567 ในเดือนมิ.ย. 66 ที่ผ่านมา
2) ความกังวลเศรษฐกิจโลกเผชิญ Recession ลดลงหลังจาก IMF (กองทุนการเงินระหว่างประเทศ) มีการปรับคาดการณ์ GDP โลกปี 2566 ขึ้นจาก 2.8% เป็น 3%
3) จีนเตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ถือว่าดีต่อเศรษฐกิจไทยที่มีมูลค่ากับไทยมากสุดเป็นอันดับ 1 หรือคิดเป็นสัดส่วนถึง 22% ของมูลค่ารวมทั้งโลก
ส่วนปัจจัยภายในประเทศ 1) การเมืองพ้นจุดที่ร้อนแรงที่สุดไปแล้ว หลังผ่านระยะเวลาการเปลี่ยนผ่านรัฐบาลใหม่มาเกินกว่า 2 เดือนครึ่ง และน่าจะเห็นการเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาลใหม่ในช่วงที่เหลือของปี
2) เป็นช่วงการรายงานกำไรบริษัทจดทะเบียนงวด 2Q66 ฝ่ายวิจัยคาดว่าจะลดลงทั้ง QoQ และ YoY แต่ในช่วงที่เหลือของปีคาดจะเห็นการเติบโตที่ดีขึ้น จากฐานกำไรที่ต่ำ 2H65 ที่ต่ำเพียง 4.04 แสนล้านบาท ปกติอยู่ในโซน 4.5-5 แสนล้านบาท พร้อมกับแนวโน้มเศรษฐกิจที่มีโอกาสฟื้นตัวต่อเนื่อง ทั้งจากนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น การเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน และการเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศจากรัฐบาลใหม่
บล.เอเซีย พลัส ประเมินว่า ในส่วนของ Fund Flow (เงินทุนเคลื่อนย้าย) แรงกดดันจากประเด็นการเมืองร้อนแรง และการเร่งขึ้นดอกเบี้ยนโยบายถึง 3 ครั้งในปีนี้ จาก 1.25% เป็น 2% น่าจะค่อย ๆ ลดน้อยลงส่งผลให้ Fund Flow ต่างชาติมีโอกาสสลับเข้ามาซื้อสะสมหุ้นไทยเพิ่มเติม หลังจากผ่านช่วงสุญญากาศทางการเมือง
โดยฝ่ายวิจัยประเมิน Valuation ด้วยวิธี Marketing Earning Yield Gap (MEYG) แบบอนุรักษนิยม จะได้รับแนวทางพื้นฐานอยู่ที่ 1,480 จุด แต่ถ้าลดระดับดอกเบี้ยนโยบายมาอยู่ที่ 2% จะได้แนวต้านพื้นฐานที่ 1,542 จุด แต่ถ้าสภาพคล่องกลับมา รวมถึงต่างชาติสลับเข้ามาซื้อสุทธิ (MEYG ตลาดหุ้นไทยอยู่ที่ 3.7%) หนุนให้แนวต้านพื้นฐานขยับขึ้นไปอยู่ที่ 1,610 จุด
สำหรับกลยุทธ์ลงทุนเดือน ส.ค. แนะนำหุ้น 3 ธีม 1) หุ้น CHINA PLAY คือ ERW, SCGP 2) หุ้น ELECTION PLAY คือ GPSC, CK, SIRI 3) หุ้น EARNING MOMENTUM PLAY คือ PLANB, SNNP