หุ้น-การเงิน

MGI มูลค่ากิจการแซง ‘ช่อง 3-แกรมมี่’ ณวัฒน์ รวยขึ้นแล้ว 4 พันล้าน

มิสแกรนด์ 2566

MGI หุ้น 10 เด้ง มูลค่ากิจการแซง ‘ช่อง 3-แกรมมี่’

วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2567 บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น MGI ธุรกิจค้าส่งและค้าปลีกผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับความงามและอาหาร และเป็นตัวแทนนายหน้าในการดำเนินการเกี่ยวกับศิลปิน และการจัดประกวดนางงาม “มิสแกรนด์ ไทยแลนด์” และ ”มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล”

ของ “ณวัฒน์ อิสรไกรศีล” กำลังกลายเป็นหุ้นร้อนแรงแห่งปี ที่นักลงทุนและหน่วยงานกำกับ ทั้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กำลังจับตาอย่างใกล้ชิด

เพราะนับตั้งแต่เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 2566 ด้วยราคาไอพีโอ 4.95 บาท ปัจจุบันราคาหุ้นทะยานไปอยู่ที่ระดับ 50 บาท (ราคาปิดวันที่ 22 ก.พ. 2567) ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาแล้วกว่า 45.05 บาท หรือเพิ่มขึ้น 910.10% กลายเป็นหุ้น 10 เด้ง ในเวลานี้

และหากนับตั้งแต่ต้นปีถึงวันที่ 22 ก.พ. 2567 (YTD) หรือเพียงแค่ 2 เดือน หุ้น MGI ดีดตัวขึ้นมาสูงถึง 31.6 บาท เพิ่มขึ้น 171.73% และหนุนให้ “บมจ.มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล” มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) แตะระดับ 10,500 ล้านบาท โดย “ณวัฒน์ อิสรไกรศีล” มีเงินจากการถือหุ้นรวม 4,500 ล้านบาท เพิ่มสูงขึ้น 4,054.5 ล้านบาท จากช่วงเข้าไอพีโอที่มีเงินจากการถือหุ้นแค่ 445.50 ล้านบาท

ซึ่งหากประเมินจากมูลค่ามาร์เก็ตแคประดับ 10,500 ล้านบาท ต้องเรียกว่าในเวลานี้ “บมจ.มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล” มีขนาดใหญ่กว่า บมจ.บีอีซี เวิลด์ (BEC) หรือช่อง 3 ไปแล้ว ซึ่ง “ณวัฒน์ อิสรไกรศีล” เคยเป็นพิธีกรในรายการครัวคุณต๋อยของคุณไตรภพ อากาศทางช่อง 3 โดย BEC มีมูลค่ามาร์เก็ตแคป 9,280 ล้านบาท (คำนวณจากราคาปิดวันที่ 23 ก.พ. 2567)

และที่สำคัญใหญ่กว่า บมจ.จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ (GRAMMY) และ บมจ.เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ (WORK) อีกด้วย โดยตอนนี้ GRAMMY และ WORK มีมูลค่ามาร์เก็ตแคป 4,878.70 ล้านบาท และ 4,327.28 ล้านบาท (ตามลำดับ) (คำนวณจากราคาปิดวันที่ 23 ก.พ. 2567)

อย่างไรก็ตาม ในช่วงนี้หุ้น MGI ถือว่าราคาหุ้นดีดตัวขึ้นอย่างร้อนแรงต่อเนื่อง ประกอบด้วย

  • วันที่ 19 ก.พ. 2567 ปิดตลาดที่ราคา 34.50 บาท +18.97%
  • วันที่ 21 ก.พ. 2567 ปิดตลาดที่ราคา 41.75 บาท +21.01%
  • วันที่ 22 ก.พ. 2567 ปิดตลาดที่ราคา 50 บาท +19.76%

โดยทางตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้แขวนหุ้น MGI เข้าข่ายมาตรการกำกับการซื้อขาย ระดับ 3 (ห้าม Net Settlement, ห้ามคำนวณวงเงินซื้อขาย, Cash Balance) ซึ่งเป็นระดับสูงสุด โดยเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 23 ก.พ.-14 มี.ค. 2567

และขึ้นเครื่องหมาย Pause : P เพื่อหยุดพักการซื้อขาย 1 วันทำการ (มาตรการสูงสุด) ไปแล้วทั้งหมด 2 ครั้ง คือวันที่ 20 ก.พ. 2567 และวันที่ 23 ก.พ. 2567 ที่ผ่านมา

สืบเนื่องจากตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้มีการสอบถาม MGI ถึงพัฒนาการใด ๆ ที่อาจส่งผลต่อราคาหุ้น MGI เนื่องจากพบว่าสภาพการซื้อขายหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากจากวันก่อนหน้า เพื่อให้ผู้ถือหุ้นและหรือผู้ลงทุนได้มีข้อมูลในการประกอบการตัดสินใจลงทุนอย่างครบถ้วน

ซึ่งทาง MGI ชี้แจงว่า ไม่มีมีพัฒนาการใด ๆ ที่ยังไม่ได้เปิดเผย หรือสารสนเทศที่มีนัยสำคัญที่บริษัทอยู่ระหว่างพิจารณาและอาจเปิดเผยต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ในระยะเวลาอันใกล้ เช่น การเพิ่มทุน การร่วมทุน การได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งทรัพย์สิน หรือข้อพิพาทที่สำคัญ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสภาพการซื้อขายที่เปลี่ยนแปลงไป และไม่ทราบถึงสาเหตุอื่นใดที่อาจส่งผลกระทบต่อการซื้อขาย