คอลัมน์ : Smart SMEs ผู้เขียน : สิทธิกร ดิเรกสุนทร บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.)
สถานการณ์ SMEs ไทย ผ่านไตรมาสแรกแบบห่วง ๆ เพราะปัจจัยเสี่ยงรุมเร้า การปล่อยสินเชื่ออย่างระมัดระวัง ราคาทองคำที่ผันผวนต่อเนื่อง พุ่งทะยานแบบช็อกโลก ทะลุ 42,000 บาท รวมทั้งผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ล่าสุดเมื่อ 10 เมษายน 2567 ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 2.50 ต่อปี ทำให้ภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งอัดฉีดมาตรช่วยเหลือ “ติดปีก SMEs” เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่องในไตรมาส 2
จากฐานข้อมูล SMEs Data ของบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ตลอดระยะเวลา 33 ปี ตั้งแต่ปี 2535 เป็นต้นมา ได้ช่วย SMEs และ Micro SMEs เข้าถึงแหล่งเงินทุน เป็น SMEs Gateway มากกว่า 810,000 ราย โดยมีสัดส่วนเป็นผู้ประกอบการ Micro SMEs มากกว่า 70% (วงเงินสินเชื่อเฉลี่ยรายละ 120,000 บาทต่อราย) และคิดเป็นสัดส่วนการช่วย SMEs เข้าถึงสินเชื่อ (SMEs Penetration Rate) เพิ่มขึ้นทุกปี
ล่าสุดสัดส่วนเพิ่มเป็น 25.64% ของจำนวน SMEs กว่า 3.3 ล้านราย (ข้อมูล สสว.) เฉพาะในปี 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงการฟื้นเศรษฐกิจหลังสถานการณ์โควิด-19 ได้ช่วย SMEs ที่ขาดหลักทรัพย์ค้ำประกันเข้าถึงสินเชื่อกว่า 99,000 ราย สร้างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจมากกว่า 500,000 ล้านบาท และสร้างสินเชื่อในระบบกว่า 150,000 ล้านบาท
ซึ่งเป็นกลไกที่สร้างความเชื่อมั่นกับสถาบันการเงิน ลดภาระต้นทุนด้านเครดิต (Credit Cost) และความเสี่ยงจากการปล่อยกู้ เปิดโอกาสให้ SMEs ได้สินเชื่อ ที่เชื่อมโยงไปสู่การขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจไทยที่ได้ผลดีทั้งในช่วงเศรษฐกิจขาขึ้น ที่ต้องการเงินทุนเพื่อขยายกิจการ ต่อยอดธุรกิจ วงเงินหมุนเวียน และในช่วงเศรษฐกิจขาลง ที่ชัดเจนที่สุดในช่วงวิกฤตโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา
หัวใจการขับเคลื่อนสำคัญ 3 มาตรการ ที่จะช่วย “ติดปีก SMEs” ให้แข็งแรง สร้างโอกาสการดำเนินธุรกิจ ตั้งแต่ไตรมาส 2 เป็นต้นไป ได้แก่
1.มาตรการสินเชื่อ ผ่านโครงการสินเชื่อของกลุ่มธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ และมาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ
2.มาตรการการค้ำประกันสินเชื่อ เพื่อเป็น “หลักประกัน” SMEs และสร้างความมั่นใจในการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน เสริมความคล่องตัว ลดต้นทุนธุรกิจ
3.มาตรการปรับโครงสร้างหนี้ “บสย. พร้อมช่วย” แก้หนี้ยั่งยืน ให้กับลูกหนี้ค้ำประกันให้พร้อมกลับเข้าสู่สินเชื่อในระบบ
IGNITE Thailand (อิกไนต์ ไทยแลนด์) คืออีกหนึ่งไฮไลต์ตามนโยบายรัฐบาล “ติดปีก SMEs” สร้างความเข้มแข็ง 8 กลุ่มอุตสาหกรรมสู่ฮับอันดับ 1 ในเอเชีย แต่ยังมีอีกหลายโครงการที่ใช้มาตรการการเงินเป็นกลไกการผลักดัน ช่วยผู้ประกอบการกลุ่มอื่น ๆ เช่น กลุ่ม SMEs ไซซ์เล็ก SMEs กลุ่มนวัตกรรม SMEs ที่ดำเนินธุรกิจยั่งยืน กลุ่ม SMEs ที่ปรับธุรกิจสู่ ESG โดยมีสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ และ บสย. ทำหน้าที่เชื่อมโยงแหล่งทุน ค้ำประกันสินเชื่อ
ผู้ประกอบการ SMEs ที่กำลังต้องการสินเชื่อ ปรับโครงสร้างหนี้ โอกาสดี ๆ มาถึงแล้ว อยากให้ติดตามมาตรการที่จะเปิดให้บริการเร็ว ๆ นี้
สำหรับกลุ่มลูกหนี้ค้ำประกัน บสย. ที่ต้องการกลับสู่ระบบสินเชื่อในระบบ และต้องการเข้าร่วมโครงการปรับโครงสร้างหนี้ “บสย. พร้อมช่วย” และปลดหนี้ กับ บสย. สอบถามรายละเอียดเข้าร่วมโครงการปรับโครงสร้างหนี้กับ บสย. ได้ที่ LINE OA @tcgfirst
SMEs สามารถติดตามความคืบหน้าโครงการการสนับสนุนทางการเงิน สินเชื่อ และเงินทุน โครงการค้ำประกันสินเชื่อ การขอรับคำปรึกษาทางการเงิน หรือต้องการเตรียมตัวเพื่อขอสินเชื่อ หรือขอรับคำปรึกษา เตรียมพร้อมก่อนขอสินเชื่อ การบริหารสภาพคล่อง ในช่องทางเดียวกัน
รวมทั้งขอรับคำปรึกษา เทรนด์ใหม่การลงทุนและการขยายธุรกิจโดยใช้กลไก “ค้ำประกันสินเชื่อ” เป็นหลักประกัน ติดปีกธุรกิจ ลดภาระด้านเครดิตทางการเงิน ต่อยอดการลงทุนขยายธุรกิจใหม่ ที่กำลังเป็นเทรนด์ใหม่ของนักลงทุนรุ่นใหม่ สามารถลงทะเบียนขอรับคำปรึกษาการลงทุนอย่างปลอดภัย โดยใช้กลไกค้ำประกันสินเชื่อได้ฟรี LINE OA @tcgfirst
รู้จัก Happy Munchy แบรนด์กำเนิด “ออมุก” สุดไวรัลกับรายได้สูงสุด 70 ล้าน
คลังออกมาตรการ ‘กระบะพี่ มีคลังค้ำ’ ช่วย SMEs เข้าถึงสินเชื่อ
SMEs ธุรกิจโรงแรม กับเส้นทางเปลี่ยนผ่านสู่ “โรงแรมรักษ์โลก”
