คลังชี้ไอเดียโอนหนี้ FIDF กว่า 5.9 แสนล้าน ให้แบงก์ชาติสามารถทำได้ ชี้ช่วยเพิ่มพื้นที่ทางการคลังได้ 5.5% ระบุแก้กฎหมายต้องให้ ธปท.แก้ ฟาก “พิชัย” โยกหนี้ FIDF เป็นแนวคิดที่มีมานานแล้ว ขอพิจารณารายละเอียดอีกที
แหล่งข่าวกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า กรณีที่รัฐบาลมีแนวคิดโอนหนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF) ให้ไปอยู่ในบัญชีบริหารหนี้ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ทั้งหมด เพื่อต้องการขยายพื้นที่ทางการคลังในการทำนโยบายเพิ่มขึ้น เนื่องจากระดับหนี้สาธารณะปัจจุบันอยู่ใกล้ระดับ 70% นั้นสามารถทำได้ โดยการแก้นิยามหนี้สาธารณะในพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 เนื่องจากหนี้ FIDF นี้
- แบงก์แห่ออกแคมเปญเงินฝากเดือน มิ.ย. 67 งัดดอกเบี้ยสูง 2.90% ต่อปี
- เกิดอะไรกับหุ้น Berkshire Hathaway ของบัฟเฟตต์ ราคาร่วงเกือบ 100%
- กรมอุตุฯเตือน 2-11 มิ.ย. อิทธิพลจากมรสุม มีฝนตกหนัก ช่วงบ่ายถึงค่ำ
ในหลักการแล้วไม่ได้เป็นภาระงบประมาณ เพราะปัจจุบัน ธปท.รับชำระทั้งต้นและดอกเบี้ย
ทั้งนี้ หากโอนหนี้ FIDF ไปให้ ธปท. สิ่งที่จะช่วยก็คือ ช่วยลดพื้นที่สาธารณะ หรือเพิ่มพื้นที่ทางการคลังได้ถึง 5.5% ของหนี้สาธารณะ เพราะปัจจุบันการที่หนี้ FIDF มาโชว์อยู่ในหนี้สาธารณะ อาจจะเป็นเรื่องผิดฝาผิดตัว เนื่องจาก ธปท.เป็นหน่วยงานที่ชำระหนี้ โดยใช้เงินจากการเก็บค่าธรรมเนียมเงินฝากจากสถาบันการเงินเข้ากองทุน 0.46% รวมถึงรายได้อื่น ๆ ที่มีด้วย อย่างไรก็ตาม หากจะแก้ ผู้ที่จะแก้ไขกฎหมาย ต้องเป็นหน่วยงานต้นเรื่อง คือ ธปท.
“หากต้องการโอนหนี้ FIDF เพื่อไม่ให้นับหนี้ดังกล่าวเป็นหนี้สาธารณะ ต้องให้หน่วยงานต้นเรื่อง คือ ธปท. เป็นผู้แก้ไขกฎหมาย โดยที่การแก้กฎหมายดังกล่าวทำได้ 2 ทาง คือ แก้ พ.ร.บ.หนี้สาธารณะ ซึ่งจะต้องผ่านการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) กฤษฎีกา สภาผู้แทนราษฎรด้วย หรือใช้วิธีแก้ที่นิยามในพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) FIDF จะทำได้ง่ายกว่า”
ส่วนประเด็นที่ว่า หากจะมีการโอนหนี้ FIDF ไปให้ ธปท. จะต้องโอนทรัพย์สิน เช่น หุ้นที่ถือในธนาคารกรุงไทย ไปด้วยหรือไม่นั้น แหล่งข่าวกล่าวว่า หากโอนหนี้สินไปทั้งหมด ก็ต้องโอนทรัพย์สินทั้งหมดไปให้ ธปท.ด้วย
สำหรับสถานการณ์หนี้สาธารณะล่าสุด กระทรวงการคลังประเมินว่า ณ สิ้นเดือน ก.ย. 2567 หนี้สาธารณะต่อจีดีพีของไทยจะอยู่ที่ 65.03% โดยยังไม่รวมการทำโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเลต
ปัจจุบันหนี้ FIDF ที่เหลืออยู่ มีวงเงินทั้งสิ้น 590,869 ล้านบาท (ณ เม.ย. 2567) จากยอดที่รับมาดำเนินการเมื่อเดือน ม.ค. 2555 ที่อยู่ที่ 1.13 ล้านล้านบาท โดยในบัญชี FIDF 1 ยอดที่รับมาดำเนินการเมื่อเดือน ม.ค. 2555 อยู่ที่ 463,275 ล้านบาท ปัจจุบันเหลือ 265,327 ล้านบาท และ FIDF 3 ยอดที่รับมาดำเนินการเมื่อเดือน ม.ค. 2555 อยู่ที่ 675,030 ล้านบาท ปัจจุบันเหลือ 325,542 ล้านบาท โดยคาดว่าจะชำระหนี้ FIDF ได้ทั้งหมดภายในปี 2574 ซึ่งเร็วกว่าแผนที่กำหนดไว้
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง กล่าวว่า แนวคิดเรื่องการโอนหนี้ FIDF เป็นเรื่องที่มีการเสนอกันมานานแล้ว ซึ่งตนก็เข้าใจว่า หนี้ก้อนดังกล่าว ไม่ว่าอยู่ตรงไหนก็เป็นหนี้ของประเทศ แต่ก็ต้องมานั่งดูว่า ใครกำลังดีกว่า
“เข้าใจว่าถ้าเป็นตอนปี 2540 ตอนนั้น ตัว ธปท.ก็คงลำบากหน่อย จะไปกู้เงินมาทำอะไรก็ลำบาก แต่คนที่พอมีกำลังกู้ได้ก็คือ ภาครัฐ ก็เลยใส่ไปก่อน คือพี่น้องกัน ช่วยกันทำงาน เมื่อได้แล้ว ยังไง เดี๋ยวก็คุยได้ ได้หมด เดี๋ยวดูละกัน เพราะเงินก็อยู่ในตะกร้าเดียวกัน” นายพิชัยกล่าว
