ก.ล.ต. พัฒนาระบบตรวจสอบจับความผิดปกติ บจ. เข้าข่ายมูลเหตุจูงใจโกง

ประชุมคณะทำงานศึกษาแผนประทุษกรรมกรณี STARK เผยจัดทำรายงานสรุปแล้วเสร็จภายใน 3 เดือน ปปง.ยึดทรัพย์คดี STARK ได้แล้วกว่า 3 พันล้าน ด้าน ก.ล.ต.กำลังพัฒนาระบบตรวจสอบจับความผิดปกติบริษัทที่เข้าข่ายมีมูลเหตุจูงใจที่จะก่อให้เกิดการกระทำความผิด หวังนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ให้ทัดเทียมกับต่างประเทศ

วันที่ 2 สิงหาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการประชุมคณะทำงานศึกษาแผนประทุษกรรมกรณี บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (STARK) ครั้งที่ 3/2567 โดยมีนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา เป็นประธานการประชุม โดยมีผู้แทนกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ผู้แทนจากกรมบังคับคดี สำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)

สภาวิชาชีพบัญชีในพระบรมราชูปถัมภ์ สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย ตัวแทนผู้เสียหายจากการลงทุนหุ้นสามัญ รวมถึงผู้แทนจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สำนักงาน ปปง.) บมจ.ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) และผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม

ภายหลังการประชุม นายพงศ์เทพได้แถลงความคืบหน้าว่า ก.ล.ต. กำลังพัฒนาระบบในการป้องกันและติดตามการกระทำที่ไม่ถูกต้องในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยที่ประชุมได้รับฟังข้อมูลองค์ความรู้และข้อคิดเห็นจากผู้มีประสบการณ์ทางด้านตลาดทุนถึงปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินคดีพิเศษที่ผ่านมา

ซึ่งพบว่าปัญหาส่วนหนึ่งเกิดจากข้อมูลที่หน่วยงานไม่สามารถให้กับผู้เสียหายได้ ผู้เสียหายที่ไปดำเนินการด้านคดีเอง จึงประสบปัญหาจากการขาดข้อมูลเป็นจำนวนมาก จึงได้เสนอแนะแนวทางให้หน่วยงานที่กำกับดูแล เช่น ก.ล.ต. ว่าจะสามารถดำเนินคดีแบบกลุ่มให้กับผู้เสียหายได้หรือไม่

ADVERTISMENT

รวมถึงรับฟังข้อมูลความคืบหน้าการดำเนินคดี และการติดตามทรัพย์สินในคดีทุจริตหุ้น STARK จากผู้แทนสำนักงาน ปปง. โดยปัจจุบันมีการยึดทรัพย์จำนวนกว่า 3 พันล้านบาท ซึ่งทรัพย์ส่วนใหญ่อยู่ในประเทศไทย และมีที่อยู่ในประเทศสิงคโปร์จำนวนหนึ่ง แต่ไม่ปรากฏข้อมูลว่ามีทรัพย์อยู่ในสหราชอาณาจักรแต่อย่างใด

ADVERTISMENT

ในกรณีผู้เสียหายที่ดำเนินการซื้อหุ้นกันเองในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในส่วนของทรัพย์สินที่สำนักงาน ปปง. ยึดไว้และอยู่ที่ศาล ผู้ที่ขอเฉลี่ยทรัพย์ได้ คือ ผู้ที่ถือหุ้นกู้และผู้ที่ซื้อหุ้นโดยตรงกับบริษัท ซึ่งผู้ที่ซื้อหุ้นกันเองในตลาดหลักทรัพย์ฯไม่สามารถขอเฉลี่ยทรัพย์ในส่วนนี้ได้

และในส่วนของความคืบหน้าของบริษัท เฟ้ลปส์ ดอด์จ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัด (PDITL) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ขณะนี้อยู่ในระหว่างการขอฟื้นฟูกิจการ โดยจะต้องทำแผนฟื้นฟูกิจการเพื่อนำส่งต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ภายในวันที่ 13 สิงหาคม 2567

ทั้งนี้ในส่วนของคณะทำงาน คาดว่าจะสามารถสรุปและจัดทำรายงานผลการศึกษาแผนประทุษกรรม ให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน

ทั้งนี้ ก.ล.ต. กำลังมีระบบของการตรวจสอบบริษัท เพื่อตรวจสอบความผิดปกติของบริษัทตั้งแต่ช่วงต้นว่าบริษัทใดที่จะต้องเข้าไปตรวจสอบอย่างใกล้ชิดเป็นพิเศษ ซึ่งเป็นบริษัทที่เข้าข่ายว่าจะมีมูลเหตุจูงใจที่จะก่อให้เกิดการกระทำความผิด รวมถึงความเสี่ยงต่าง ๆ ในขณะเดียวกัน ก.ล.ต. ได้พัฒนาระบบที่นำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ให้มีประสิทธิภาพทัดเทียมกับต่างประเทศ