
คลังเตรียมเสนอมาตรการ Easy e-Receipt ให้ ครม.อนุมัติสัปดาห์หน้า ลดหย่อนภาษีค่าซื้อสินค้า/บริการได้สูงสุด 50,000 บาท เริ่ม ม.ค. 68
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังเตรียมเสนอมาตรการ Easy e-Receipt เพื่อเป็นการสนับสนุนการบริโภคในประเทศซื้อสินค้าและบริการเพื่อลดหย่อนภาษี ต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในสัปดาห์หน้า (24 ธ.ค. 67) สำหรับรายละเอียดเงื่อนไขมาตรการจะใช้หลักเกณฑ์เดิม สามารถลดหย่อนภาษีสูงสุด 50,000 บาท สำหรับปีภาษี 2568 ซึ่งจะเริ่มดำเนินงานเดือน ม.ค. 2568
สำหรับ Easy e-Receipt เป็นมาตรการลดหย่อนภาษี ที่ให้สิทธิประชาชนผู้เสียภาษีทุกคน สามารถนำค่าใช้จ่าย ค่าซื้อสินค้า และบริการภายในประเทศมาลดหย่อนภาษีได้ตามจริง สูงสุดไม่เกิน 50,000 บาท โดยจะต้องมีใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบ ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt ของกรมสรรพากร โดยมีรายละเอียดเงื่อนไขเดิมดังนี้
เงื่อนไขรับสิทธิ Easy e-Receipt
คุณสมบัติผู้เข้าร่วม
กำหนดให้ผู้มีเงินได้ซึ่งมีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แต่ไม่รวมถึงห้างหุ้นส่วนสามัญ หรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล
จะต้องมีใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบ ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt ของกรมสรรพากร ตามมาตรการมีการกำหนดสินค้าและบริการที่ไม่จำเป็นต้องอยู่ในระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม ได้แก่
– ค่าหนังสือ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร
– ค่าบริการหนังสือ หนังสือพิมพ์ และนิตยสารที่อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต
– ค่าสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ซึ่งเป็นสินค้าที่ได้ลงทะเบียนกับกรมการพัฒนาชุมชนแล้ว
สิทธิประโยชน์
– หักลดหย่อนค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการในปี 2568 (ยื่นแบบต้นปี’69) ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 50,000 บาท
– ซื้อสินค้าหรือการรับบริการในราชอาณาจักร สามารถนำมาหักลดหย่อนตามมาตรการนี้ได้ ยกเว้นค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการ
1.ค่าซื้อสุรา เบียร์ และไวน์
2.ค่าซื้อยาสูบ
3.ค่าซื้อรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และเรือ
4.ค่าน้ำมันและก๊าซสำหรับเติมยานพาหนะ
5.ค่าสาธารณูปโภค ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า ค่าบริการสัญญาณโทรศัพท์ ค่าบริการสัญญาณอินเทอร์เน็ต และค่าบริการสำหรับบริการที่มีข้อตกลงการให้บริการระยะยาวซึ่งเริ่มต้นก่อนวันที่ 1 มกราคม 2568 หรือสิ้นสุดหลังวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2568 แม้ว่าจะจ่ายค่าบริการระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2568 ถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2568 ก็ตาม
6.ค่าเบี้ยประกันวินาศภัย โดยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขอื่น ๆ เป็นไปตามที่อธิบดีกรมสรรพากรประกาศกำหนด
สำหรับผู้ประกอบการนิติบุคคลและบุคคลธรรมดาที่เป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม และมีรายได้ไม่เกิน 30 ล้านบาทต่อปี สามารถจัดทำใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบบริการ e-Tax Invoice by e-Mail
อัพเดตล่าสุดวันที่ 20 ธันวาคม 2567
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า ในสัปดาห์หน้า (24 ธ.ค.) กระทรวงการคลังจะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณามาตรการของขวัญปีใหม่ Easy E-Receipt เพื่อสนับสนุนการบริโภคในประเทศ โดยมีวงเงินลดหย่อนที่ 50,000 บาท และคาดว่าจะมีเม็ดเงินหมุนเวียนจากมาตรการดังกล่าวกว่า 70,000 บาท โดยระยะเวลาดำเนินโครงการจะเริ่มตั้งแต่ช่วงกลางเดือน ม.ค.-สิ้นเดือน ก.พ. 68 (15 ม.ค.-28 ก.พ. 68)
สำหรับเงื่อนไข จะแบ่งวงเงิน 50,000 บาทเป็น 2 ส่วน ประกอบด้วย 30,000 บาทแรก จะสามารถใช้ได้กับสินค้าและบริการ และเพิ่มเติมแพ็กเกจการท่องเที่ยว และโรงแรมสำหรับในประเทศเท่านั้น เพื่อที่จะสนับสนุนให้เกิดการเดินทาง ใช้จ่ายในการท่องเที่ยว เช่น แพ็กเกจทัวร์ สามารถดำเนินการได้ในครั้งนี้
ส่วนที่ 2 วงเงิน 20,000 บาท จะใช้ได้สำหรับการใช้จ่ายกับร้านค้าวิสาหกิจชุมชน และสินค้า OTOP เท่านั้น เพื่อกระตุ้นการใช้จ่าย SMEs ให้เกิดการเข้มแข็งมากขึ้น ซึ่งร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการจะต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) และจดทะเบียนระบบใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) เท่านั้น โดยมองว่ามาตรการดังกล่าวจะส่งผลให้ร้านค้าเข้ามาจดทะเบียน Vat เพิ่มมากขึ้น
สำหรับสินค้าที่ไม่สามารถเข้าร่วมโครงการได้ ได้แก่ สุรา เบียร์ ไวน์ ยาสูบ ค่าบริการบรรจุไฟฟ้ายานพาหนะ ซื้อรถจักรยานยนต์ ซื้อจักรยาน ค่าซื้อเรือ ค่าบริการไฟฟ้า ค่าบริการน้ำประปา ค่าเบี้ยประกัน ค่าบริการมือถือ ค่าบริการอินเทอร์เน็ต ทองคำ จะไม่สามารถเข้าร่วมโครงการได้ เป็นต้น