ดอลลาร์อ่อนค่า ขานรับ CPI ต่ำกว่าคาดการณ์

ธนบัตร U.S.dollar banknotes
REUTERS/Dado Ruvic/Illustration/File Photo

ดอลลาร์อ่อนค่า ขานรับ CPI ออกมาต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ ทำให้นักลงทุนให้น้ำหนักถึง 99.9% ที่ธนาคารกลางสหรัฐจะคงดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้านี้

ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพ รายงานว่า สภาวะการเคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันพฤหัสบดีที่ 12 มิถุนายน 2568 ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ (12/6) ที่ระดับ 32.51/52 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ โดยค่าเงินบาทแข็งค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันพุธ (11/6) ที่ระดับ 32.62/64 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าหลังจากเมื่อคืนกระทรวงแรงงานสหรัฐมีการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค CPI ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงานมีการปรับตัวขึ้น 2.4% ในเดือน พ.ค.เมื่อเทียบรายปี แต่ยังคงออกมาต่ำกว่าตัวเลขที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.5%

ในส่วนของดัชนี CPI พื้นฐานปรับตัวขึ้นที่ 2.8% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งออกมาต่ำกว่าตัวเลขที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.9% โดยตัวเลข CPI ที่ออกมาต่ำกว่าที่คาดการณ์ ส่งผลให้นักลงทุนให้น้ำหนัก 99.9% ที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะคงดอกเบี้ยอยู่ที่ 4.25-4.50% ในการประชุมนโยบายการเงินและแถลงอัตรามติดอกเบี้ยสัปดาห์หน้า

นอกจากนี้ประธานาธิบดีสหรัฐ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศว่าสหรัฐสามารถบรรลุข้อตกลงกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง โดยทางสหรัฐจะเก็บภาษีอยู่ที่ 55% และจีนเก็บภาษีที่ 10% และตามที่ทั้งสองให้คำมั่นร่วมกันก่อนหน้านี้ ทางจีนจะยกเลิกข้อจำกัดของการส่งออกแร่ธาตุ ขณะที่ทางสหรัฐจะผ่อนคลายการควบคุมในการขายสินค้าเทคโนโลยีให้จีน

ในส่วนของการเรียกเก็บภาษีจากประเทศอื่น นายทรัมป์ได้กล่าวว่าเขาเตรียมจะส่งจดหมายถึงประเทศคู่ค้าในอีก 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า โดยจะมีการกำหนดภาษีศุลกากรกับประเทศคู่ค้าก่อนถึงวันกำหนดวันที่ 9 ก.ค. ซึ่งเป็นวันที่สหรัฐจะกลับมาใช้มาตรการภาษีศุลกากรหลังจากเลื่อนมาแล้วเป็นเวลา 90 วัน อย่างไรก็ดี นายสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของสหรัฐ เปิดเผยว่ามีโอกาสสูงที่จะขยายระยะเวลาเรียกเก็บภาษีให้กับประเทศคู่ค้าที่สำคัญ หากพวกเขาเจรจาด้วยความจริงใจ

สำหรับปัจจัยภายในประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในเดือน พ.ค. ปี 68 ปรับตัวลงอยู่ที่ระดับ 54.2 ซึ่งเป็นการลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 และอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 27 เดือน โดยดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยโดยรวม, ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสในการหางาน และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคต ก็มีปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน

ADVERTISMENT

โดยปัจจัยหลักที่ส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นทุกรายการปรับตัวลงนั้นคือ ความกังวลเรื่องภาษีศุลกากรของสหรัฐ และการที่เศรษฐกิจไทยชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่ารัฐบาลจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้มีการผ่อนคลายนโยบายการเงิน เช่น การลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายถึง 2 ครั้ง แต่อย่างไรก็ตามผู้บริโภคยังรู้สึกว่าเศรษฐกิจไทยนั้นยังคงฟื้นตัวได้ช้า รวมถึงกังวลเรื่องความยากของการเข้าถึงสินเชื่อ

มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยได้ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยไตรมาส 2 นั้น มีโอกาสขยายตัวอยู่ที่ 1% หรือมากกว่า แต่หากเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลังนั้นไม่สามารถโตได้ถึง 2% อาจจะทำให้เศรษฐกิจไทยทั้งปี 68 โตต่ำกว่า 2% อย่างแน่นอน โดยภาพรวมประเมินว่าเศรษฐกิจไทยจะเติบโตได้ 1.5-2% ในปีนี้ แต่ยังต้องระมัดระวังความเสี่ยงเพิ่มเติม หากสหรัฐยังใช้มาตรการภาษีศุลกากรกับทุกประเทศอย่างเข้มข้น

ทั้งนี้ในระหว่างวันค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเคลื่อนไหวกรอบระหว่าง 32.41-32.56 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 33.47/49 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโรเปิดตลาดเช้าวันนี้ (12/6) ที่ระดับ 1.1525/27 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร แข็งค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันพุธ (11/6) ที่ระดับ 1.1435/36 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร โดยเมื่อวานนี้ (11/6) ได้มีการเปิดเผยรายงานจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ว่าตอนนี้ธนาคารกลางทั่วโลกมีความต้องการถือทองคำเป็นอันดับสองในระบบทุนสำรองรองจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ

โดยรายงานจาก ECB ระบุว่า ทองคำมีความน่าดึงดูดในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา เนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับการคว่ำบาตรและความเป็นไปได้ที่บทบาทของสกุลเงินหลักในระบบการเงินระหว่างประเทศจะมีการปรับตัวลง โดยราคาทองคำเริ่มมีการผันผวนในช่วงไม่กี่เดือนนี้ เนื่องจากตลาดได้รับผลกระทบจากนโยบายภาษีศุลกากรของสหรัฐ ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

ทั้งนี้ในระหว่างวันค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวกรอบระหว่าง 1.1485-1.1565 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร และปิดตลาดที่ระดับ 1.1556/58 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินเยนเปิดตลาดเช้าวันนี้ (12/6) ที่ระดับ 143.86/87 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันพุธ (11/6) ที่ระดับ 145.07/08 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ ทางสำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า คณะบริหารของนายทรัมป์กำลังพูดคุยกับประเทศญี่ปุ่นเพื่อบรรลุข้อตกลงทางการค้า

โดยในวันพรุ่งนี้ (13/6) นายอากาซาวะ หัวหน้าคณะเจรจาด้านภาษีศุลกากรของญี่ปุ่นจะมีการพบปะกับคณะรัฐมนตรีสหรัฐ เป็นรอบที่ 6 ซึ่งถือเป็นครั้งสุดท้ายที่จะหาข้อตกลงร่วมกัน ทั้งนี้ในระหว่างวันค่เางินเยนเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 143.64-144.56 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ 143.74/76 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐ (12/6), ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือน พ.ค.ของสหรัฐ (12/6), ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือน มิ.ย. จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน (13/6)

สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ -7.45/-7.35 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยงภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ -7.7/-6.45 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ