
รมว.คลัง ผุดโครงการ ”รถเก่าแลกใหม่“ ค้ำผ่าน บสย. พร้อมลดภาษีคันใหม่ให้ หวังอุ้มลูกหนี้-กระตุ้นตลาดรถกระบะ พร้อมลุ้นชง ครม.ปรับเงื่อนไข ”คุณสู้ เราช่วย” วันนี้ (24 มิ.ย.) สภาอุตฯขานรับ ช่วยยอดขายในประเทศดีขึ้น
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังเตรียมนัดหารือกับน็อนแบงก์ เพื่อหามาตรการใหม่ช่วยลูกหนี้สินเชื่อรถยนต์ โดยมีแนวคิดพิจารณาโครงการ “รถเก่าแลกรถใหม่” เพื่อช่วยให้รถกระบะใหม่ขายได้มากขึ้น และกระตุ้นอุตสาหกรรมรถยนต์ โดยจะให้นำรถกระบะเก่าอายุ 20-25 ปี มาแลกรถคันใหม่โดยจะให้เงื่อนไขทางภาษีที่ดึงดูดใจ
พร้อมกับใช้กลไกการค้ำประกันของบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (บสย.) ด้วย ซึ่งแนวคิดคือให้นำรถเก่ามาแลก แล้วก็จะลดภาษีรถใหม่ให้
นอกจากนี้ ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (24 มิ.ย.) คาดว่าจะมีการเสนอการปรับเงื่อนไขมาตรการ “คุณสู้ เราช่วย” เพื่อให้ครอบคลุมแนวทางการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ได้มากขึ้น หรืออย่างช้าที่สุดภายในสัปดาห์หน้า ซึ่งจะมีการปรับเงื่อนไข เช่น มาตรการจ่าย ปิด จบ จากเดิมที่ภาระหนี้เสียต้องไม่เกิน 5,000 บาท ปรับเป็นหนี้เสียแบบไม่มีหลักประกัน ภาระหนี้ไม่เกิน 10,000 บาทต่อบัญชี และหนี้เสียแบบมีหลักประกัน ภาระหนี้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อบัญชี สามารถเข้าร่วมมาตรการนี้ได้
“ปัจจุบันหนี้เสียหรือเอ็นพีแอลในระบบอยู่ที่ 1.22 ล้านล้านบาท โดยเป็นส่วนที่ต่ำกว่า 1 แสนบาทประมาณ 65-66% หรือคนที่เป็น NPL รวมมีอยู่ 5 ล้านกว่าบัญชี เป็นหนี้ที่ต่ำกว่า 1 แสนบาทประมาณ 3 ล้านบัญชี ดังนั้น ถ้าเราแก้หนี้ต่ำกว่า 1 แสนได้หนี้ตรงนี้ก็จะลดลง” นายพิชัยกล่าว
นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างหาแนวทางที่ทำให้ลูกหนี้ที่หลุดจากการเป็นหนี้เสียแล้วหลุดจากประวัติของเครดิตบูโรด้วย เพื่อให้สามารถเข้าถึงสินเชื่อใหม่ได้
ส.อ.ท. ชี้กระตุ้นยอดขายได้
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า โครงการรถเก่าแลกรถใหม่ เป็นข้อเสนอที่ทางกระทรวงการคลัง จะนำเข้า ครม. ซึ่งน่าจะทำให้ยอดขายในประเทศดีขึ้น ปัจจุบันรถเก่าอายุ 20 ปี ในระบบมีประมาณ 2 ล้านคัน มีโอกาสเกิดขึ้นได้ อยู่ที่ว่าจะลดภาษีรุ่นไหนแลกอะไร ขณะเดียวกันรัฐต้องคุยกับไฟแนนซ์ด้วยเพื่อให้เขาปล่อยสินเชื่อให้มากขึ้น
ไม่อย่างนั้นโครงการไม่เดิน และควรมีกองทุน 5,000 ล้านบาท เหมือนตัวที่ทำกับรถกระบะมารองรับ เพื่อไม่ให้รถขาดทุนต้องไม่เกิน 50,000 บาทต่อคัน แบบนี้ไฟแนนซ์น่าจะปล่อย ซึ่งอาจจะช่วยกระตุ้นยอดขายรถทั้งระบบได้ 50,000-100,000 คัน ส่วนสถานการณ์หนี้เสียลด เพราะไฟแนนซ์ไม่ปล่อย แต่ก็อยากให้ขอให้รถที่มีอายุ 5-7 ปี ให้เข้าเงื่อนไขด้วย