EXIM​ BANK​ เปิดตัว​ 2​ โปรดักต์​การเงินหนุนเอสเอ็มอีส่งออกเจาะตลาด​ CLMV

นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยว่า การส่งออกของไทยปี 2562 ยังมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง แม้อาจจะชะลอลงจากปีก่อนซึ่งมีมูลค่ากว่า 2.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือขยายตัว 6.7% ท่ามกลางสถานการณ์ความไม่แน่นอนทางการค้าและการเมืองระหว่างประเทศ ตลอดจนราคาน้ำมันและค่าเงินบาทยังผันผวนสูง แต่โอกาสในการส่งออกของไทยไปยังตลาดประเทศเกิดใหม่ รวมทั้ง CLMV (กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม) ยังมีอยู่มาก EXIM BANK จึงได้พัฒนาบริการสินเชื่อระยะสั้นครบวงจรสำหรับใช้หมุนเวียนช่วงก่อนและหลังการส่งออก รวมถึงการนำเข้า พร้อมบริการประกันการส่งออกสำหรับ SMEs ที่ต้องการเริ่มต้นหรือขยายการส่งออก โดยให้สิทธิพิเศษสำหรับผู้ที่ต้องการส่งออกไปยัง CLMV ซึ่งเป็นตลาดใหม่ที่มีศักยภาพสูงจากอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจสูงเป็นอันดับต้นๆ ของโลก จำนวนประชากรและแรงงานในวัยทำงานที่มีอยู่มาก และความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากร โดยภูมิภาคนี้ได้รับผลกระทบจากความผันผวนของเศรษฐกิจและการเงินโลกค่อนข้างน้อย ขณะที่ผู้ประกอบการไทยที่ค้าขายใน CLMV มีความได้เปรียบกว่าคู่แข่งชาติอื่นด้านทำเลที่ตั้งของไทย ความคล้ายคลึงของขนบธรรมเนียมและวัฒนธรรม และความนิยมในสินค้าไทย ทำให้มูลค่าการส่งออกของไทยไปยัง CLMV เติบโต 16.6% ในปี 2561 โดยสินค้าไทยที่มีแนวโน้มขยายตัวดีได้แก่ 1) สินค้าทุน อาทิ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เครื่องจักรกลการเกษตร 2) วัตถุดิบ อาทิ เคมีภัณฑ์ เม็ดพลาสติก และวัสดุก่อสร้าง 3) สินค้าอุปโภคบริโภค อาทิ เครื่องดื่ม ผลไม้สด อาหารสำเร็จรูป เสื้อผ้า เครื่องสำอาง และเครื่องประดับ

กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK กล่าวว่า จากการพบปะหารือกับภาครัฐและเอกชนไทยที่สนใจขยายธุรกิจเข้าสู่ตลาด CLMV ปัญหาและอุปสรรคสำคัญของผู้ประกอบการไทย ได้แก่ การขาดเงินทุน การขาดข้อมูลความรู้และทักษะ อาทิ ความรู้ด้านกฎระเบียบและวิธีการส่งออก รวมทั้งทักษะด้านการบริหารจัดการความเสี่ยงทางการค้าระหว่างประเทศ และการขาดคู่ค้า EXIM BANK จึงได้พัฒนาบริการเพื่อเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยจัดให้มีบริการเงินทุนหมุนเวียน พร้อมประกันการส่งออกในรูปแบบที่ไม่ยุ่งยากสำหรับ SMEs ที่ต้องการส่งออก โดยเฉพาะการส่งออกไปยัง CLMV ขณะเดียวกัน EXIM BANK จัดอบรมหลักสูตรบ่มเพาะผู้ประกอบการไทยให้พร้อมเริ่มต้นหรือขยายการส่งออกได้ รวมทั้งกิจกรรมจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) ระหว่างผู้ส่งออก SMEs ของไทยกับคู่ค้าประเทศเพื่อนบ้าน เริ่มต้นจากเมียนมาในเดือนพฤษภาคม 2562 ทั้งนี้ โดยสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของ EXIM BANK ที่มีเป้าหมายเชื่อมไทย เชื่อมโลก ด้วยการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ

บริการใหม่ของ EXIM BANK ด้านเงินทุนหมุนเวียนสำหรับ SMEs ที่ต้องการเริ่มต้นส่งออกไปยัง CLMV ได้แก่ “สินเชื่อเอ็กซิมเชื่อม SMEs ไทยสู่ CLMV (EXIM CLMV SMEs Credit)” เป็นสินเชื่อหมุนเวียนก่อนและหลังการส่งออกไปยังกลุ่มประเทศ CLMV วงเงินสูงสุด 2 ล้านบาทต่อราย อัตราดอกเบี้ย Prime Rate -1.75% ต่อปี หรือ 4.50% ต่อปี (จากอัตรา Prime Rate ปัจจุบัน 6.25% ต่อปี) และลดอัตราดอกเบี้ยอีก 0.50% ต่อปีสำหรับลูกค้าประกันการส่งออกของ EXIM BANK ซึ่งจะได้รับทั้งเงินทุนหมุนเวียนและความคุ้มครองความเสี่ยงจากการไม่ได้รับชำระเงินค่าสินค้าจากผู้ซื้อในต่างประเทศ รวมถึงวงเงินสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า (Foreign Exchange Forward Contract) สูงสุดเท่ากับวงเงินสินเชื่อที่ได้รับอนุมัติ ใช้หนังสือค้ำประกันของบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) และบุคคลค้ำประกันได้ ระยะเวลาอนุมัติตั้งแต่บัดนี้ถึงสิ้นเดือนธันวาคม 2563

นอกจากนี้​ EXIM BANK ได้พัฒนาบริการ “ประกันส่งออก SMEs Easy” เหมาะสำหรับผู้ที่มีแผนจะส่งออกหรือกำลังจะส่งออกในมูลค่าไม่สูงนักแต่ละครั้ง หรือกำลังจะไปเจรจาการค้าที่งานแสดงสินค้าในต่างประเทศ และต้องการความคุ้มครองความเสี่ยงจากการทำการค้ากับผู้ซื้อในต่างประเทศ บริการนี้ให้ความคุ้มครองกว่า 140 ประเทศทั่วโลก ครอบคลุมกลุ่มประเทศ CLMV ด้วย จุดเด่นบริการคือ สมัครง่าย ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก สามารถเลือกรูปแบบวงเงินคุ้มครองที่เหมาะสมกับมูลค่าส่งออกได้ วงเงินรับประกันสูงถึง 2 ล้านบาท โดยคุ้มครอง 85% ของมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้น