ธนาคารแห่งประเทศไทยเปิดตัว “มายพร้อมคิวอาร์ (MyPromptQR)” ขยายสู่ภาคธุรกิจหนุนร้านค้าสแกนชำระเงินผ่านคิวอาร์โค้ดแบบใหม่ลดขั้นตอนประหยัดเวลา คาดไตรมาส 4/62 ประเดิมนำร่อง 5 แบงก์พร้อมให้บริการ ต.ค.นี้ และอีก 4 แบงก์พร้อมเปิดช่วงต้นปี 63 มั่นใจกลางปีหน้าทุกแบงก์พัฒนาสู่ระบบชำระเงินนี้ ด้านภาคธุรกิจห้างสรรพสินค้า “JD Central-เดอะมอลล์-บิ๊กซี” กำลังพัฒนาสู่ระบบ
นายรณดล นุ่มนนท์ รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.ได้ขยายบริการ QR Payment รูปแบบใหม่ เพื่อเป็นการขยายมาตรฐาน Thai QR Payment สู่ภาคธุรกิจ ตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจที่มีขนาดใหญ่ขึ้นและมีเครือข่ายสาขาจำนวนมาก เช่น ร้านสะดวกซื้อและห้างสรรพสินค้า โดยมายพร้อมคิวอาร์ (MyPromptQR) จะช่วยให้ภาคธุรกิจรับชำระเงินได้สะดวกและรวดเร็วขึ้น สามารถเชื่อมโยงระบบการรับชำระเงินกับระบบ Point of Sale ที่จุดรับชำระเงินของร้านค้าได้อัตโนมัติ
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 16 เมษายน ย้อนหลัง 10 ปี
- “พลังงานไฮโดรเจน” ถูกกว่าน้ำมัน 60% ไทยเริ่มศึกษาแต่ เยอรมัน กำลังจะเลิกใช้
- อย.เปิดชื่ออาหารเสริม พบสารอันตราย ร้ายแรงจนถึงแก่ชีวิต เตรียมดำเนินการตามกฎหมาย
ขณะนี้มีธนาคารและภาคธุรกิจต่างๆ สนใจและพร้อมที่จะพัฒนาดิจิทัลแพลตฟอร์มนี้ เพื่อรองรับโครงสร้างพื้นฐานของระบบชำระเงินของประเทศ โดยช่วงต้นไตรมาส 4/62 ช่วงเดือน ต.ค.-พ.ย.นี้ จะมี 5 ธนาคารพาณิชย์ ที่พร้อมเปิดให้บริการ MyPromptQR ได้แก่ ธนาคารกสิกรไทย ไทยพาณิชย์ กรุงศรีอยุธยา ธนชาต และธนาคารออมสิน ทั้งนี้ อีก 4 ธนาคารพาณิชย์ ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ กรุงไทย ยูโอบี (ไทย) และธนาคารซีเอ็มบีไทย จะพร้อมเปิดให้บริการในช่วงต้นปี 2563
“มั่นใจว่าในช่วงกลางปีหน้าทุกแบงก์จะพัฒนาสู่ระบบชำระเงินดังกล่าว อีกทั้งภาคธุรกิจด้านห้างสรรพสินค้า ได้แก่ JD Central, เดอะมอลล์ และบิ๊กซี ก็กำลังอยู่ในระยะพัฒนาระบบเพื่อรองรับการเปิดใช้บริการ” นายรณดลกล่าว
ทั้งนี้ ธปท. ยังมีการหารือร่วมกันกับธนาคารต่างประเทศให้มาร่วมกันพัฒนาระบบเป็นมาตรฐานเดียวกัน โดยคาดว่าในอนาคตจะสามารถรองรับการเชื่อมโยงกับต่างประเทศได้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในการใช้ประโยชน์จากการวิเคราะห์ข้อมูลชำระเงินเพื่อต่อยอดนวัตกรรมที่หลากหลาย และตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น
นายรณดล กล่าวต่อว่า การให้บริการดังกล่าวนี้ ร้านค้าจะต้องเป็นระบบชำระเงินด้วยระบบ Point of Sale โดยร้านค้าจะเป็นผู้สแกนคิวอาร์โค้ดจาก MyPromptQR ของลูกค้า และเมื่อร้านค้าสแกนแล้ว ระบบก็จะระบุจำนวนเงินที่ต้องจ่ายตามราคาสินค้า โดยคิวอาร์โค้ดนั้นๆ จะสามารถใช้ได้เพียงครั้งเดียว เหมือนกับรหัส OTP คือเกิน 5 นาทีคิวอาร์โค้ดก็หมดเวลาในการสแกนจ่าย ซึ่งจะช่วยคุ้มครองความเสี่ยงและความปลอดภัยให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ ร้านค้าก็จะไม่เห็นข้อมูลเลขบัญชีของลูกค้าด้วย
“MyPromptQR จะสะดวกขึ้นจากการให้บริการ QR Code แบบเดิมที่ลูกค้าจะต้องกรอกยอดเงินและสแกน QR Code ของร้านค้าลงไปในการชำระเงินด้วย ซึ่งการใช้บริการของ MyPromptQR จะช่วยลดขั้นตอนและเวลาของแคชเชียร์ในการรับชำระเงิน อีกทั้งยังสามารถเชื่อมโยงกับระบบส่งเสริมการขาย ช่วยเพิ่มโอกาสทางธุรกิจได้ในอนาคตด้วย” นายรณดล กล่าว
สำหรับบริการมายพร้อมคิวอาร์ (MyPromptQR) เป็นบริการชำระเงินแรกที่พัฒนาบนระบบโครงสร้างพื้นฐานการชำระเงินดิจิทัลสมัยใหม่ที่ใช้มาตรฐานสากล ISO20022 ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการสำคัญของธนาคารแห่งประเทศไทยตามแผนกลยุทธ์ระบบการชำระเงิน ฉบับที่ 4 โดยเป็นมาตรฐานข้อความทางการเงินที่นำมาใช้กับระบบการชำระเงินสำคัญในหลายประเทศชั้นนำ รองรับการส่งข้อมูลระหว่างสถาบันการเงินและภาคธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยสามารถส่งข้อมูลทางธุรกิจไปพร้อมกับการชำระเงิน สนับสนุนการปรับไปสู่ Digital Business อย่างครบวงจร
