บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด รายงานราคาทองคำ วันที่ 24 ต.ค. 2562 และแนวโน้มการซื้อขายทองคำ
ปัจจัยพื้นฐาน
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- เงื่อนไขปุ๋ยลดราคาเฟส 2 สูตรไหน-พืชชนิดใดบ้าง
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากความไม่แน่นอนกรณี Brexit หลังจากในวันอังคาร สมาชิกสภาสามัญชนของอังกฤษลงมติ “เห็นชอบ” ต่อ Withdrawal Agreement Bill (WAB) ของนายจอห์นสัน นายกอังกฤษ แต่กลับมีมติ “ไม่เห็นชอบ” ต่อเรื่องของตารางเวลาที่รัฐบาลจะให้เวลาเพียง 3 วันในการผ่านกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับ Brexit ทำให้เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า อังกฤษจะไม่สามารถแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (EU) ตามกำหนดเดิมภายในวันที่ 31 ต.ค. ส่งผลให้ EU จะต้องให้การอนุมัติขยายเส้นตาย Brexit ออกไปก่อน นอกจากนี้ยังเพิ่มความเสี่ยงที่นายกอังกฤษอาจประกาศยุบสภา และจัดการเลือกตั้งใหม่อีกด้วย แม้ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวจะกระตุ้นแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย แต่การปรับตัวขึ้นของราคายังไม่มากนักเพราะนักลงทุนบางส่วนยังมองว่าท้ายที่สุดแล้วอังกฤษน่าจะสามารถหลีกเลี่ยง Brexit แบบไร้ข้อตกลงได้ ประกอบกับตลาดหุ้นสหรัฐยังแกว่งตัวในแดนบวก ด้านกองทุน SPDR ลดการถือครองทองคำลง -1.18 ตัน สำหรับวันนี้ติดตามผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) คาดว่า ECB จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงิน พร้อมกับติดตามการเปิดเผยตัวเลขยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน และดัชนี PMI ภาคการผลิตและการบริการของสหรัฐ
ปัจจัยทางเทคนิก
ราคาขยับขึ้นแต่ก็มีแรงขายทำกำไรสลับออกมา ขณะที่ความผันผวนของราคาลดลงจากช่วงก่อนหน้า ซึ่งหากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือ 1,496-1,506 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ มีผลให้ราคาปรับตัวลงเพื่อสร้างฐานราคา โดยมีโอกาสเกิดแรงขายกลับลงมาซึ่งมีแนวรับในโซน 1,482-1,474 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน
เน้นเก็งกำไรระยะสั้นได้ โดยแนะนำให้นักลงทุนรอจังหวะเข้าซื้อ หากราคาย่อตัวลงมาและไม่หลุดแนวรับ 1,482-1,474 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุน 1,464 ดอลลาร์ต่อออนซ์) และขายให้ทยอยทำกำไรหากราคาดีดตัวขึ้นไปทดสอบบริเวณแนวต้าน 1,496-1,506 ดอลลาร์ต่อออนซ์
คำแนะนำ ราคามีแนวโน้มที่จะทดสอบแนวต้าน 1,496 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากไม่สามารถผ่านได้ให้แบ่งขายทำกำไร แต่ถ้าผ่านได้ให้รอขายบริเวณ 1,506 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไป อย่างไรก็ตามหากไม่ผ่าน ประเมินแนวรับที่ 1,482-1,474 ดอลลาร์ต่อออนซ์