นายภาสกร ลิมมณีโชติ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย เปิดเผยภายรวมตลาดหุ้นไทยวันที่ 2 ธ.ค.62 ว่า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ SET (SET Index) ปิดลบที่ 1,569.53 จุด ลดลง 21.06 จุด หรือลดลง 1.32% และมีมูลค่าการซื้อขายรวม 54,756.50 ล้านบาท โดยชี้ว่าส่วนหนึ่งได้รับผลกระทบมาจากบริบทของเศรษฐกิจไทยที่มีแนวโน้มออกมาในเชิงลบต่อเนื่อง ทั้งตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3/62 ที่ออกมาต่ำกว่าคาดที่ 2.4% และยอดขายรถยนต์ที่ลดลง รวมถึงรายงานเศรษฐกิจประจำเดือน ต.ค. ที่ชี้ว่าการลงทุนของภาคเอกชนลดลงถึง 3.1% ส่วนการบริโภคภาคเอกชนที่แม้จะปรับเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อยที่ 1.3% แต่ยังเป็นสัญญาณที่แผ่วลงเช่นกัน
นอกจากนี้ เงินเฟ้อเดือน ต.ค.62 ที่ 0.11% เป็นระดับที่ค่อนข้างต่ำสะท้อนว่าเศรษฐกิจไทยไม่มีการเติบโต โดยเชื่อว่าส่วนหนึ่งเป็นผลจากการใช้มาตรการคุมสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ (LTV) ที่ส่งผลให้ตลาดบ้านซบเซา และส่งผลกระทบต่อเนื่องไปยังตลาดอื่นๆ รวมถึงผู้ดำเนินนโยบาย (Policy Maker) แต่ละภาคส่วนมีการดำเนินนโยบายที่ขัดกัน เช่น ฝั่งหนึ่งต้องการแตะเบรกเศรษฐกิจ ขณะที่อีกฝั่งหนึ่งต้องการเหยียบคันเร่ง เป็นส่วนที่ทำให้เศรษฐกิจอยู่ในภาวะซบเซา
อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้ (3 ธ.ค.62) คาดว่า SET Index จะมีสัญญาณที่ดีขึ้นบ้าง โดยประเมินแนวรับไว้ที่บริเวณ 1,550-1,560 จุด ส่วนปัจจัยที่ต้องติดตาม แนะนำให้รอความชัดเจนเรื่องของกองทุนระยะยาว LTF ก่อนตัดสินใจลงทุน ว่าจะมีการต่ออายุหรือมีการนำกองทุนรูปแบบอื่นๆ มาทดแทนหรือไม่ รวมถึงในภาวะที่เศรษฐกิจออกมาในเชิงลบเชื่อว่าในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันที่ 18 ธ.ค.62 มีโอกาสจะปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 1 ครั้ง จากที่ก่อนหน้าบล.กสิกรไทยคาดว่ากนง.จะปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 1 ครั้งในปี 2563
