ทางการแพทย์ต้องการใช้แอลกอฮอล์เพิ่ม 5 เท่า “สรรพสามิต” ยันมีเพียงพอ ผลิตได้ 7.39 ล้านลิตร/วัน

นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยหลังการประชุมร่วมกับหน่วยงานทางการแพทย์ สาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ว่า เพื่อรับมือกับการแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 เบื้องต้น หน่วยงานทางการแพทย์ อาทิ องค์การเภสัชกรรม, เภสัชการทหาร, และหน่วยงานที่เกี่ยงข้องด้านการแพทย์และสาธารณสุขกทม. ได้แสดงความต้องการขอใช้แอลกอฮอล์เพื่อนำไปฆ่าเชื้อโรคทั้งหมด 8 แสนลิตรต่อเดือน ซึ่งถือว่ามีความต้องการเพิ่มขึ้นถึง 5 เท่า

อย่างไรก็ดี กรมยืนยันว่าปริมาณแอลกอฮอล์มีเพียงพอต่อความต้องการของประชาชน เนื่องจากกำลังการผลิตของผู้ผลิตแอลกอฮอล์ในประเทศไทยทั้ง 3 กลุ่ม ได้แก่ องค์การสุรา ผู้ผลิตสุราสามทับ และผู้ผลิตเอทานอลเพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิง สามารถผลิตได้ถึง 7.39 ล้านลิตรต่อวัน พร้อมกันนี้ กรมยังมีคงเหลือในสต็อก ณ สิ้นเดือนก.พ.63 อีก 133 ล้านลิตร ฉะนั้นขอให้มั่นใจว่าปริมาณมีจำนวนเพียงพอต่อความต้องการของประชาชนแน่นอน

“ทั้งโรงพยาบาลรัฐและภาคเอกชนมีความต้องการใช้แอลกอฮอล์เพิ่มขึ้น โดยกรมต้องให้ความสำคัญกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับสาธารณสุข ซึ่งองค์การสุราจะเป็นผู้จัดสรรให้ก่อน ส่วนภาคเอกชนกรมก็มีรองรับให้เพื่อนำไปผลิตจำหน่าย ไม่ให้เจลแอลกอฮอล์ขาดตลาดและเพื่อเป็นการลดการขายเกร็งราคาด้วย”นายพชร กล่าว

ทั้งนี้ แนะนำผู้ประกอบการที่กักตุนแอลกอฮอล์เพื่อขายเกร็งกำไรถือว่าเป็นความเสี่ยง เนื่องจากแอลกอฮอล์เป็นวัตถุไวไฟหากกักตุนมากอาจเกิดเหตุเพลิงไหม้ได้ พร้อมกันนี้ กรมมีแอลกอฮอล์เหลือมากกว่า 1 ล้านลิตรต่อวัน จะไม่มีเหตุการณ์แอลกอฮอล์ขาดตลาดแน่นอน ฉะนั้น จึงขอแนะนำให้ผู้ประกอบการที่รับแอลกอฮอล์ไปจำหน่ายเพื่อผลิตเป็นเจลล้างมือให้นำออกมาจำหน่ายในช่วงเวลาที่ประชาชนต้องการจะเป็นประโยชน์กว่า