ธปท.ขยายเวลาต่างชาติถือหุ้นแบงก์กรุงเทพ 35% ต่ออีก 6 เดือน

แบงก์ชาติขยายเพดาน Thai NVDR ถือหุ้นแบงก์กรุงเทพ 35% ต่ออีก 6 เดือนถึงปลายปีนี้ นักวิเคราะห์ชี้เป็นปัจจัยบวกต่อราคาหุ้น แนะเก็งกำไร 3 แบงก์ใหญ่ “KBANK-SCB-BBL” ราคาถูก-สตอรี่สวย

บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด (Thai NVDR) เปิดเผยว่า ตามที่บริษัทฯ ได้รับอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ให้ถือหุ้นหรือมีไว้ซึ่งหุ้นของ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BBL) ในอัตราไม่เกิน 35% ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วถึงวันที่ 23 มิ.ย.63 รายละเอียดปรากฎตาม https://www.set.or.th/nvdr/th/news/files/others/others _2019/BBL_TH_20191218.pdf

ธปท.อนุญาตให้ Thai NVDR ถือหุ้นหรือมีไว้ซึ่งหุ้นของ BBL ในอัตราไม่เกิน 35% ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด ต่ออีกเป็นระยะเวลา 6 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 24 มิ.ย. – 23 ธ.ค.63 โดย ธปท.จะพิจารณาตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป

ทั้งนี้ ปัจจุบัน Thai NVDR มีสัดส่วนลงทุน BBL ณ สิ้นเดือน เม.ย.63 อยู่ที่ 537,352,054 หุ้น หรือมีสัดส่วน 28.15%

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า การที่ ธปท.ขยายระยะเวลาการถือครองเป็นโมเมนตัมบวกต่อราคาหุ้น BBL วันนี้ จากเดิมที่การถือครองของ Thai NVDR ในหุ้น BBL 35% จะหมดอายุลงในวันที่ 23 มิ.ย. หากมีการถือเกินสัดส่วนดังกล่าวจะต้องมีการขายลดสัดส่วนหุ้นลงมา ซึ่งจะกลายเป็นปัจจัยลบต่อราคาหุ้น BBL

“แบงก์ชาติจะกังวลเรื่องการที่ให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาถือหุ้นธนาคารพาณิชย์ไทยมากเกินไป แต่ที่ผ่านมาแบงก์ใหญ่อย่าง BBL หรือ ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ธปท.ก็ขยายระยะเวลาถือครองให้ตลอด” นายวิจิตร กล่าว

ขณะที่การลงทุนในหุ้นกลุ่มธนาคารปัจจุบัน นายวิจิตร กล่าวว่า ฝ่ายวิจัย บล.เมย์แบงก์ฯ แนะนำซื้อเก็งกำไรกลุ่มธนาคาร ได้แก่ กลุ่มแบงก์ใหญ่ KBANK อานิสงส์ พ.ร.ก.เงินกู้ที่ช่วยเหลือกลุ่มเอสเอ็มอี ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) เก็งแบงก์ชาติผ่อนปรนมาตรการ LTV ซึ่งจะเป็นบวกต่อพอร์ตของ SCB ที่มีสินเชื่อบ้านค่อนข้างสูง และ BBLที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวจากที่แบงก์ชาติขยายระยะเวลาตามที่กล่าวไปข้างต้น

นอกจากนี้ มูลค่าหุ้น (Valuation) กลุ่มธนาคารพาณิชย์ปรับลดลงค่อนข้างถูก โดยซื้อขายที่ระดับ 0.5 เท่าของมูลค่าทางบัญชี (Book Value) เท่านั้น อีกทั้งหุ้นแบงก์ใหญ่ยังให้อัตราเงินปันผลสูงกว่า 4% จึงแนะนำสับเปลี่ยน (Switch) มาเก็งกำไรในหุ้นธนาคาร

นายวิจิตร กล่าวอีกว่า การที่หุ้นในตลาดหลายๆ กลุ่มปรับขึ้นไปค่อนข้างสูงในช่วงที่ผ่านมา ภาวะสภาพคล่องในระบบที่ล้น และอัตราผลตอบแทนจากพันธบัตรรัฐบาลที่ต่ำจนส่งผลให้ส่วนต่างผลตอบแทนระหว่างการลงทุนในพันธบัตรและหุ้นถ่างขึ้น จึงเชื่อว่าหุ้นที่ Valuation ถูกจะเป็นเป้าหมายการลงทุนของนักลงทุนในระยะถัดไป

“หุ้นที่ Valuation ถูกก็สะท้อนเหมือนกันว่ามีปัจจัยลบรออยู่ อย่างกลุ่มแบงก์ที่ไตรมาส 2 ลดดอกเบี้ยตามแบงก์ชาติ รายได้ค่าธรรมเนียมยังถูกดิสรัป และได้รับแรงกดดันจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว เราจึงแนะนำเล่นเก็งกำไรเท่านั้น” นายวิจิตรกล่าว