สรรพสามิต โชว์ปิดหีบปีงบ’63 เก็บรายได้เกินเป้า 4.2 หมื่นล้านบาท

Hands of three men toasting with beer

สรรพสามิต ปิดหีบปีงบ’63 เก็บรายได้รวม 5.4 แสนล้านบาท เกินเป้า 4.2 หมื่นล้านบาท เผยปีงบ’64 ปรับเป้ารายได้ เหลือ 5.3 แสนล้านบาท พร้อมฝาก ”อธิบดีคนใหม่” เร่งขับเคลื่อน “ภาษีความเค็ม- เบียร์ 0%”

นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสมิต เปิดเผยผลการจัดเก็บรายได้ในรอบกว่า 11 เดือน (1 ต.ค.2562 – 24 ก.ย. 2563) จัดเก็บได้รวม 543,067.08 ล้านบาท น้อยกว่าที่ประมาณการณ์ไว้ 546,644.65 ล้านบาท แต่เมื่อเปรียบเทียบเป้ารายได้เอกสารงบประมาณ 501,000 ล้านบาท พบว่าจัดเก็บรายได้มากกว่าเป้าถึง 42,067 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม คาดว่าสิ้นปีงบประมาณ 2563 กรมสรรพสามิตจะสามารถจัดเก็บรายได้ถึง 546,400 ล้านบาทแน่นอน

ทั้งนี้ รายได้ภาษีที่สามารถจัดเก็บได้สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.ภาษีน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน จำนวน 221,140.28 ล้านบาท 2. ภาษีรถยนต์ จำนวน 84,347.28 ล้านบาท 3. ภาษีเบียร์ จำนวน 80,012.64 ล้านบาท 4. ภาษีสุรา จำนวน 61,205.39 ล้านบาท 5.ภาษียาสูบ จำนวน 62,761 24 ล้านบาท

“ภาษีเบียร์และสุรา มียอดจัดเก็บใกล้เคียงกับยอดตามเป้าเอกสารที่คาดการณ์ไว้แม้มีการล็อคดาวน์ประเทศ โดยเบียร์จัดเก็บน้อยกว่าเป้าตามเอกสารงบประมาณแค่ 6,000 ล้านบาท และสุราต่ำกว่าเป้างบประมาณแค่ 300 ล้านบาท เพราะก่อนโควิด-19 ระบาดหนักผู้ประกอบการตุนสุราและเบียร์เพื่อใช้ขายในช่วงสงกรานต์จำนวนมากสินค้าจึงไปค้างอยู่ที่ผู้ขาย เพราะการเก็บภาษีเริ่มจัดเก็บตั้งแต่สินค้าออกจากโรงงาน ดังนั้นยอดจัดเก็บภาษีสินค้าเหล่านี้จึงไม่กระทบ”

ขณะที่ยอดจัดภาษีเก็บน้ำมันและรถยนต์เพิ่มขึ้นอย่างผิดคาดหลังโควิด-19 ระบาด โดยเฉพาะภาษีน้ำมันในเดือนก.ย. จัดเก็บรายได้จริงไถึง 14,000 ล้านบาท และถ้าดูตัวเลขทั้งปียอดจัดเก็บน้ำมันสูงกว่าปีที่ผ่านมาที่มียอดจัดเก็บสะสมอยู่ที่ 210,000 ล้านบาท ส่วนรถยนต์ เดือนก.ย.จัดเก็บได้ 6,800 ล้านบาท และยอดรวมจัดเก็บรายได้น้อยกว่าเป้าตามเอกสารปีนี้แค่ 50,00 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งสาเหตุมาจากมาตรการรัฐที่กระตุ้นให้คนท่องเที่ยวในประเทศ

นอกจากนี้สินค้าประเภทเครื่องดื่มทั้งหมด ตามค่าความหวานของผลิตภัณฑ์ มียอดจัดเก็บภาษีอยู่ที่ 25,000 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าประมาณการณ์ตามเอกสารของปีนี้ 2.67% โดยสินค้าที่สามารถเก็บภาษีได้เพิ่มขึ้น คือ น้ำดื่มผสมวิตามินซี ซึ่งที่มียอดขายสูงมาในช่วงเกิดการระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้บางโรงงานผลิตออกมาขายสู่ตลาดไม่ทัน

ขณะที่ปี 2564 ตามเอกสารงบประมาณคาดการณ์รายได้ของกรมสรรพสามิตอยู่ที่ 630,000 ล้านบาท แต่เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ได้ปรับเป้าประมาณการณ์รายได้ของกรมสรรพสามิตมาอยู่ที่ 530,000 ล้านบาท และคาดว่าจะมีรายได้จากการจัดเก็บภาษีถึงเดือนละ 40,000 ล้านบาท

“สิ่งที่อยากฝากให้อธิบดีกรมสรรพสามิตคนใหม่เดินหน้าต่อคือ เรื่องภาษีความเค็มและเรื่องการจัดเก็บภาษีเบียร์ 0% ที่ยังดำเนินการไม่เสร็จสิ้น เพราะรายได้ของกรมสรรพสามิตเป็นส่วนหนึ่งที่สนับสนุนฐานะการคลัง และกระแสเงินสดของรัฐในปีงบประมาณนั้นๆ ”