เงินฝากช่วงโควิดพุ่ง 8% “สถาบันคุ้มครองเงินฝาก” ชี้แบงก์พาณิชย์ยังแข็งแกร่ง

บัญชีเงินฝากแบงก์

สคฝ. เผยเงินฝากช่วงโควิดพุ่ง 8% คาดทั้งปีเฉลี่ย 4-6% หลังครึ่งปีคนตกงาน ถอนเงินสดไปใช้จ่าย คาดจีดีพีปี’63 ติดลบ 8.5-9% แต่แบงก์ยังแข็งแกร่ง กองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง อยู่ระดับ 19.2%

นายทรงพล ชีวะปัญญาโรจน์ ผู้อำนวยการสถาบันคุ้มครองเงินฝาก (สคฝ.) เปิดเผยว่า สถานการณ์เงินฝากช่วงโควิด-19 ยังคงขยายตัวต่อเนื่อง โดยในช่วงเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา มียอดเงินฝากเพิ่มสูงขึ้นถึง 6% ส่งผลให้ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 63 มียอดเงินฝากเพิ่มขึ้น 8% เนื่องจากสถานการ์โควิด ทำให้ประชาชนเกิดความไม่มั่นใจจึงเลือกที่จะเก็บเงินสดไว้กับตัวมากกว่าการนำไปลงทุนประเภทอื่น จึงทำให้ยอดเงินฝากเพิ่มสูงขึ้น และคาดว่ายอดเงินฝากทั้งปีจะขยายตัว เฉลี่ย 4-6% จากปีก่อนที่มียอดเงินฝากประมาณ 14 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นการเติบโตในระดับเดียวกันของปีที่ผ่านมา

“แม้ครึ่งปีแรก ยอดเงินฝากจะเติบโต 8% แต่คาดการณ์ว่าในช่วงไตรมาส 3 และ ไตรมาส 4 การขยายตัวของยอดเงินฝากจะลดลง เนื่องจากสถานการณ์โควิดเข้ามา อาจจะทำให้ช่วงครึ่งปีหลังมีประชาชนได้รับผลกระทบและตกงานมากขึ้น จึงทำให้มีการถอนเงินฝากออกมาใช้จ่าย จึงคาดว่าจะส่งผลให้ยอดการฝากเงินทั้งปี เฉลี่ยอยู่ที่ 4-6% เติบโตระดับเดียวกันกับปีที่ผ่านมา”

ขณะเดียวกันคาดการณ์เศรษฐกิจไทยในปีนี้จะติดลบ 8.5-9% ใกล้เคียงกับการประมาณการณ์ของกระทรวงการคลัง เนื่องจากยังคงมีปัจจัยลบหลายด้าน ทั้งตัวเลขนักท่องเที่ยวและการส่งออกที่ยังติดลบ รวมถึงการหาวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่ยังไม่มีความแน่นอน อย่างไรก็ดี แม้ยังมองว่าเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว แต่หวังว่าการติดลบดังกล่าวจะลดลง เนื่องจากการประเมินตัวเลขเศรษฐกิจยังไม่รวมกับมาตรการการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐ อย่างการออกมาตรการคนละครึ่ง และการเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวเข้ามา

นายทรงพล กล่าวว่า แม้เศรษฐกิจจะชลอตัว แต่สถานการณ์ของธนาคารพาณิชย์ยังคงมีความแข็งแกร่ง เห็นได้จากเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS ratio) ของธนาคารพาณิชย์ในเดือนมิ.ย. เฉลี่ยอยู่ที่ 19.2% สูงกว่าเกณฑ์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด ที่ระดับ 8.5% แม้ว่ากำไรของธนาคารพาณิชย์ในไตรมาส 2 ของปีนี้ จะเหลือเพียง 3 หมื่นล้านบาท ปรับตัวลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่อยู่ระดับ 6 หมื่นล้านบาท หรือลดลง 49% แต่โดยรวมยังถือว่าไม่มีปัญหา หากเทียบตั้งแต่ปี 2540 ถึงปัจจุบัน สถาบันการเงินมีการปรับตัว และมีการป้องกันความเสี่ยงเพิ่มมากขึ้น ฉะนั้นจึงไม่น่ามีปัญหา

ทั้งนี้ กองทุนคุ้มครองเงินฝาก ของสถาบันคุ้มครองเงินฝาก ยังมีเพียงพอ หากเกิดปัญหาธนาคารพาณิชย์ปิดกิจการ โดยมีเงินในกองทุน 129,969.13 ล้านบาท ดังนั้น ประชาชนจึงไม่ต้องเป็นห่วงหากเกิดความไม่แน่นอนของสถาบันการเงิน อย่างไรก็ดี แม้ทุกวันนี้จะมีปัญหาผลกระทบ แต่สถานการณ์ไม่ได้รุนแรง หากธนาคารปิดกิจการ สถาบันคุ้มครองเงินฝากมีเงินคุ้มครองเพียงพอ และจะจ่ายเงินคุ้มครองเงินให้ภายใน 30 วัน สำหรับผู้ผูกเลขบัญชีธนาคารกับพร้อมเพย์