ลุ้น “SABUY” ผู้ให้บริการตู้ “เติมสบาย พลัส” เข้าเทรดปลายปี ราคาวิ่งดีตาม “KK”

“บล.เคทีบี” ดัน “สบาย เทคโนโลยี ผู้ให้บริการตู้เติมเงินอัตโนมัติระบบแฟรนไชส์ “เติมสบาย พลัส” เข้าเทรดปลายปีนี้ หลังเพิ่งดัน “เคแอนด์เค ซุปเปอร์สสโตร์ เซาท์เทิร์น” เทรดราคาวิ่งฉิวกว่า 170%

นายรัฐชัย ธีระธนาวัฒน์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม สายงานวาณิชธนกิจ-ด้านตลาดทุน บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคทีบี (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ บริษัทได้นำ บมจ.เคแอนด์เค ซุปเปอร์สสโตร์ เซาท์เทิร์น (KK) เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ mai เมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยบริษัทดังกล่าวประกอบธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภค ในพื้นที่ จ.สงขลา พัทลุง และ สตูล ซึ่งนักลงทุนให้การตอบรับเป็นอย่างดี ส่งผลให้ราคาหุ้นปรับขึ้น 172.73% จากราคาจองซื้อ IPO

ส่วนในช่วงที่เหลือของปีนี้ คาดว่าจะมีหุ้นที่บริษัทดูแลเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ mai อีก ได้แก่ บมจ.สบาย เทคโนโลยี (SABUY) ที่เป็นธุรกิจให้บริการธุรกรรมทางการเงินผ่านตู้เติมเงินอัตโนมัติ การจำหน่ายตู้เติมเงินอัตโนมัติ ทั้งในรูปแบบการชำระด้วยเงินสดและเงินผ่อน และให้บริการตู้เติมเงินอัตโนมัติในระบบแฟรนไชส์ ภายใต้เครื่องหมายการค้า “เติมสบายพลัส”

รวมถึงจำหน่ายเครื่องดื่มและอาหารสำเร็จรูปผ่านตู้ขายสินค้าอัตโนมัติ ภายใต้เครื่องหมายการค้า “เวนดิ้ง พลัส” ให้บริการติดตั้งและวางระบบศูนย์อาหาร รวมถึงการให้บริการจัดการศูนย์อาหารพร้อมการจ้างบำรุงรักษาซ่อมแซมศูนย์อาหาร และให้บริการชำระเงิน (Payment Service Provider / Facilitator)

ทั้งนี้ SABUY จะเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 157,017,300 หุ้น (คิดเป็น 15.62% ของทุนจดทะเบียนชำระหลัง IPO) ประกอบด้วย 1. หุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวนไม่เกิน 117,017,300 หุ้น คิดเป็น 11.64% ของทุนจดทะเบียนชำระหลัง IPO และ 2. หุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดย นายวิชัย วชิรพงศ์ จำนวนไม่เกิน 40,000,000 หุ้น คิดเป็น 3.98% ของทุนจดทะเบียนชำระหลัง IPO

โดยบทวิเคราะห์ บลเคทีบี (ประเทศไทย) มองว่า SABUY เป็นหนึ่งในผู้ประกอบกิจการตู้เติมเงินและตู้ขายสินค้าอัตโนมัติ ที่มีส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอันดับ โดย SABUY เริ่มเห็นผลประกอบการกลับมาเติบโตอย่างโดดเด่นในช่วง 2-3 ปี ข้างหน้าจากการขยายตู้เติมเงินและตู้ขายสินค้าอัตโนมัติ ในขณะที่ธุรกิจใหม่ ผ่านบริษัท สบาย มันนี่ จำกัด (SBM) (ให้บริการเกี่ยวกับธุรกรรมทางการเงิน) จะช่วยให้ผลการดำเนินงานเติบโตในระยะยาว ประเมินกำไรสุทธิปี 2563 ที่ 92 ล้านบาท (+59% YoY) และปี 2021 ที่ 143 ล้านบาท (+ 56% YoY) หนุนโดยรายได้รวมที่จะเพิ่มขึ้นจากการเพิ่มจำนวนตู้เติมเงิน และ ตู้ขายสินค้าอัตโนมัติช่วงปี 2561-2565 CAGR +11%

ทั้งนี้ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ประเมินราคาเหมาะสมหุ้น SABUY ปี 2564 ที่ 4.00 บาท อิงวิธี PEG ที่ 0.8x (อิงกำไร ช่วง 3-4 ปีข้างหน้าที่ขยายตัวสูงแต่จะค่อยๆลดลงในอนาคต) และ EPS growth (2020-2023) ที่ +37% CAGR ที่อิงจากธุรกิจที่ดำเนินอยู่ปัจจุบัน (ตู้เติมเงิน ตู้ขายสินค้า และศูนย์อาหาร) โดยยังไม่รวมมูลค่าเพิ่มจากธุรกิจ SBM ที่เราคาดว่าจะช่วยเพิ่มกำไรเติบโตของกำไรในระยะยาว

ก่อนหน้านี้ นายชูเกียรติ รุจนพรพจี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ “SABUY” เปิดเผยว่า SABUY เป็นผู้นำด้านการพัฒนาเทคโนโลยีด้านการเงิน (Fin Tech) ที่มี Eco System เป็นของตนเอง โดยมุ่งเน้นธุรกิจค้าปลีก (E-Commerce) รูปแบบใหม่ และ ให้บริการรับชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ผ่านตู้เติมเงินแก่ลูกค้าทุกกลุ่ม ครอบคลุมตั้งแต่ลูกค้าระดับกลาง และ ลูกค้ารายได้น้อยทั่วประเทศ โดยธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ แบ่งออกเป็น 4 ธุรกิจ ได้แก่ 1. ธุรกิจตู้เติมเงินอัตโนมัติ  2. ธุรกิจตู้ขายสินค้าอัตโนมัติ

3. ธุรกิจระบบศูนย์อาหาร ให้บริการติดตั้งและวางระบบศูนย์อาหารทั้งระบบ Hardware และ Software และเป็นผู้ให้บริการจัดการศูนย์อาหารพร้อมการบำรุงรักษา  และ 4. ธุรกิจให้บริการการชำระเงิน  ผ่านบริษัทย่อย คือ บริษัท สบาย มันนี จำกัด ซึ่งได้รับใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจบริการการชำระเงินภายใต้การกำกับของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ทั้งสิ้น 4 ประเภทธุรกิจ ได้แก่ ใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจการให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money License) ใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจการให้บริการรับชำระเงินด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ (Payment Agent License: PA) ใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจการให้บริการสนับสนุนบริการแก่ผู้รับบัตร (Payment Facilitator License: PF) และ ใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจการให้บริการโอนเงินด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ (Fund Transfer License)

ปัจจุบัน SABUY มีรายได้หลักกว่า 50% จาก ธุรกิจตู้เติมเงินภายใต้ แบรนด์ “เติมสบายพลัส” และ มีรายได้ 30% จากธุรกิจขายสินค้าผ่านตู้ขายสินค้าอัตโนมัติ